จากกรณี นางจินตนา แกล้วทนงค์ อายุ 40 ปี ชาวจ.พัทลุง พร้อมด้วยญาติเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้สื่อข่าว หลังจากญาติตัวเองชื่อนายสุนทร ผู้พิการทางสมอง ถูกคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน รุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
โดยหลังเกิดเหตุญาติได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ซึ่งผ่านมา 10 กว่าวันแล้ว คดียังไม่มีความคืบหน้า และไม่มีการออกหมายจับคนร้ายแต่อย่างใด
วันที่ 7 ก.ค.63 นางจินตนา แกล้วทนงค์ อายุ 40 ปี น้องสาวนายสุนทร บอกว่า พี่ชายเป็นคนพิการทางสมองสมาธิสั้น แต่ก็ยังทำงานได้เหมือนคนปกติ โดยถูกคนร้ายที่ทราบชื่อเล่นว่า “หมู” พร้อมเพื่อนอีก 4 คน รุมทำร้าย หลังจากโดนบังคับให้ไปขโมยไก่ของเพื่อบ้าน แล้วมีการขู่นายสุนทร ว่าห้ามไปบอกใคร ในช่วงดึกของคืนวันที่ 18-19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ด้วยอาการสาหัส
จากนั้นได้ไปขอความช่วยเหลือจากพระวัดโคกสักเพื่อขอนอนพัก รุ่งเช้าได้เดินทางมาพักที่วัดธรรมเถียรในพื้นที่ใกล้กัน โดยพักอาศัยภายในกุฏิของวัด แล้วมีอาการกระอักเลือด
จนพระได้แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ชีพเข้าช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลควนขนุน แต่อาการสาหัส
แพทย์ส่งตัวต่อยังโรงพยาบาลพัทลุง รักษาตัวที่ห้องไอซียูของโรงพยาบาล 10 วัน 10 คืน แต่สุดท้ายก็มาเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ซึ่งญาติได้ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ทะเลน้อย แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ให้ไปช่วยสืบความคนร้ายมาเพิ่ม เพราะหลักฐานแค่คำบอกเล่า ยังไม่สามารถเอาผิดใครได้ โดยญาติได้เก็บหลักฐาน ทั้งเสื้อผ้าของผู้เสียชีวิต สอบถามนายสุนทร ก่อนเสียชีวิต ระบุชัดเจนว่าใครทำร้าย จนกระทั่งเสียชีวิต
แต่ก็ไม่ได้มีการเรียกมาสอบ และชุดสืบสวนก็ไม่ลงพื้นที่คลี่คลาย เสื้อผ้าของผู้ตายก็ยังไม่มีการเก็บวัตถุพยาน หรือดีเอ็นเอในคืนทำร้าย ทำให้ญาติเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเข้าร้องต่อผู้สื่อข่าวดังกล่าว
นายสมคิด บุญรอด เพื่อนผู้เสียชีวิต บอกว่า นายสุนทรเป็นคนดีมากถึงแม้จะพิการทางสมอง แต่เป็นคนพูดจาไพเราะ ทุกครั้งที่พูดจะทิ้งท้ายด้วยคำว่า "ครับผม" ไม่คิดว่าคนร่างกายปกติจะใจดำทำร้ายคนไม่สมประกอบจนถึงตาย และที่สำคัญไม่อยากให้คดียืดเยื้อ