พระไม่ลงรอยกัน ฝั่งหนึ่งแฉถูกล็อคกุญแจไม่ให้เข้าศาลา อีกฝั่งแฉทำผ้าป่าเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง
วันนี้ (6 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีพระและชาวบ้านสะแกซำ หมู่3 ต.สะแกซำ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเข้าทำบุญที่วัดศาลาลอย ภายในหมู่บ้านแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ต่างคนต่างจัดงานและมีเรื่องกันถึงขั้นฟ้องศาล
ความแตกแยกดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ พระครูธรรมประภากร หรือ "หลวงปู่เอก" เกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดบุรีรัมย์มรณภาพเ มื่อปี 2556 เป็นต้นมา จนคณะสงฆ์และเถรสมาคมเข้ามาควบคุมดูแล แต่ก็ยังไม่ยุติ
พระสวาท วัชระยาโน อายุ 63 ปี พระลูกวัดศาลาลอย กล่าวว่า ตนเองเป็นลูกศิษย์หลวงปู่เอก หลังจากหลวงปู่มรณภาพไป ภายในวัดมีแต่เรื่อง เพราะทั้งพระและชาวบ้านแบ่งฝ่ายกัน ใครจะทำบุญฝั่งไหนก็มาทำกันเท่ากับวัดเดียว มีสองกลุ่มส่วนตนเองไม่สนใจเพราะเป็นเพียงพระลูกวัด แต่บางอย่างอีกฝั่งหนึ่งทำไม่ค่อยถูก เพราะมีการเอากุลแจมาล็อกตามศาลา ไม่ให้ฝั่งนี้เข้าไปใช้ ตนเองก็ไม่เข้าใจไม่รู้ว่าจะกลับมาเหมือนเดิมตอนไหน
ขณะที่นายพิริยะโยธิน อายุ 63 ปี กรรมการวัดศาลาลอย อดีตกำนันตำบลสะแกซำ ได้ออกมาระบุว่าที่ผ่านมา พระอีกกลุ่มหนึ่งพยายามตั้งแง่ต่อต้านเอง เพราะอยากเป็นเจ้าอาวาส อ้างว่าตัวเองเป็นเจ้าอาวาสประกาศทำผ้าป่าและกฐินเอง แล้วเอาเงินเข้ากระเป๋าโดยทางวัดไม่มีสิทธิ์เข้าไปตรวจสอบ
ที่ผ่านมาเคยทำหนังสือจากเจ้าคณะตำบลไปยื่นถึงเถรสมาคมและคณะสงฆ์ แต่ก็ไม่กล้าตัดสินทำอะไร อ้างว่ามีการร้องเรียนจึงไม่สามารถแต่งตั้งเจ้าอาวาสได้ การทำงานในลักษณะนี้ถือว่าคณะสงฆ์อ่อนแอ ไม่กล้าตัดสินทำอะไรทั้งที่มีหลักฐาน หากปล่อยไปในลักษณะนี้ เรื่องราวที่เกิดขึ้นคงจะไม่จบ ทั้งที่ผ่านมากว่า 7 ปีแล้ว
