สุดเศร้า "อ.ยิ่งศักดิ์" เผยชีวิตที่ดิ้นรนยากเข็ญของ “นาธาน” ข้อความสุดท้าย ก่อนเสียชีวิต

เรื่องน่าเศร้าของวงการบันเทิงไทย สำหรับการจากไปโดยไม่มีวันกลับของศิลปินชื่อดัง “นาธาน โอมาน” ซึ่งสร้างความตกใจแก่คนบันเทิงไม่น้อย อย่าง “อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์” ผู้ใหญ่ในวงการบันเทิงที่ใกล้ชิดกับนาธานอีกคน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 
- นาธาน โอมาน อดีตนักร้องดังเสียชีวิตแล้ว
- เปิดประวัติ “นาธาน โอมาน” อดีตศิลปินชื่อดัง เสียชีวิตแล้วในวัย 45 ปี
- เพลงป็อปสุดฮิตในอดีต ของ “นาธาน โอมาน”
- "มดดำ" โพสต์ขออโหสิกรรม "นาธาน" อดีตเคยล่วงเกินในอาชีพ

ล่าสุดทีมข่าวบันเทิงอมรินทร์ทีวีมีโอกาสได้พูดคุยกับ "อ.ยิ่งศักดิ์" เจ้าตัวบอกว่า ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นจากข่าวก็ยังไม่ได้ปักใจเชื่อ จนกระทั่งได้รับสายจากผู้กำกับชื่อดัง “พจน์ อานนท์” จึงช่วยกันพยายามเช็คจากหลาย ๆ แหล่งข่าวและทำให้รู้ว่าการจากไปของนาธานเป็นเรื่องจริง พร้อมเผยถึงความสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายระหว่างตนเองและนาธานว่าตลอดเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีการคุยผ่านไลน์กันบ่อยมาก เพราะนาธานจะอัปเดตความคืบหน้าการศึกษาต่อในระดับปริญญาโทของเขาและงานวิจัย ในวิชานวัตกรรม innovation เพื่อการพัฒนา เกี่ยวกับแผ่นมาร์กหน้าที่เป็นสารสกัดจากสเต็มเซลล์ของข้าวไทย พร้อมแผนร่วมธุรกิจกับชาวจีน โดยตั้งชื่อแบรนด์ผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ว่า “นาธานเชียนเซิง” หรือแปลเป็นภาษาไทยว่า “ผมชื่อนาธาน” นั่นเอง ซึ่ง ณ ตอนนั้น

อ.ยิ่งศักดิ์ ยอมรับว่า ตนเชื่อมั่นในตัวของนาธานว่าอีกไม่นานเขาจะมีรากฐานของชีวิตที่เป็นทางเดินอันน่าภาคภูมิใจ ประชาชนจะลืมภาพลักษณ์เดิมของนาธานจอมลวงโลก และจะจดจำภาพลักษณ์ใหม่ในฐานะผู้ประสบความสำเร็จด้านการศึกษา 

จนกระทั่งวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นนาธานได้ไลน์หา อ.ยิ่งศักดิ์เป็นครั้งสุดท้ายและบอกว่า “มาหาหมอแม่” ซึ่งตนเองก็ไม่ได้คิดว่าเขาจะป่ายหนัก คิดเพียงแค่อาจจะเป็นไข้หรือเป็นหวัดทั่วไป จนกระทั่งเสียชีวิตด้วยภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ตนก็รู้สึกแปลกใจว่ามันยังมีโรคอะไรที่ทางการแพทย์ไม่สามารถรักษาทัน หากมีการตรวจพบล่วงหน้าอีกเหรอ คนใกล้ชิดจะไม่มีใครรู้เลยเหรอว่าป่วยถึงทำให้น้องชายคนนี้จากไปกะทันหันแบบนี้

นอกจากนี้ อ.ยิ่งศักดิ์ ยังขอวอนไปยังประชาชนอีกครั้งว่า ณ วันนี้ไม่อยากให้ทุกคนใช้คำว่า “นาธานจอมลวงโลก” อีกต่อไป แต่เปลี่ยนเป็น “นาธาน” เฉยๆ ได้ไหม เพื่อเป็นการให้เกียรติกับผู้จากไป

พร้อมกันนั้นเจ้าตัวยังเปิดใจว่า ตั้งแต่นาธานได้รับฉายาจอมลวงโลกห้อยท้ายมานั้น ทั้งกระแสด้านลบจากสังคม ทั้งงานในวงการบันเทิงซึ่งคุณนาธานเคยบอกกับ อ.ยิ่งศักดิ์ว่า คำพูดในรายการต่างๆ ตนไม่มีทางเลือกด้วยซ้ำ เพราะถูกสั่งให้ทำเช่นนี้จนกลายเป็นข่าวในทางลบและโดนสังคมลงโทษโดยไม่รู้ตัว จนงานหดหายในที่สุด ทั้งๆที่ตนตั้งหน้าตั้งตาทำงานด้วยสุจริต ไม่เคยรบกวนเรื่องเงินใคร ไม่เคยบ่นว่าตังเองไม่มีกิน จนทำให้มีความเครียดอยู่เสมอ

ซึ่ง อ.ยิ่งศักดิ์ เล่าต่ออีกว่า ระหว่างที่นาธานไม่มีงานนั้น เขาต้องทำงานด้านประสานงานอยู่ในโรงงานอุตสาหกรรมแห่ง จ.สมุทรสาคร และบ่นกับอาจารย์ตลอดว่าเหนื่อยมาก ต้องทำงานสารพัด พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อหาเงินมาเรียนต่อ หวังให้การศึกษาของตนเองดีขึ้นและนำมากลบฉายาจอมลวงโลกนั่นเอง

เพราะฉะนั้นการจากไปของ “นาธาน โอมาน” ในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำว่าชีวิตไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ ซึ่งหากวันนี้นาธานยังคงมีชีวิตอยู่ ก็จะสามารถทำความดี สร้างความบันเทิงให้กับสังคมได้อีกเยอะและเชื่อว่าวันนั้นทุกคนจะลืมเรื่องราวเก่า ๆ ที่ไม่น่ารักของ “นาธาน โอมาน” แต่วันนี้เราก็ทำได้เพียงแค่ให้โอกาสแก่ผู้เสียชีวิตด้วยการไม่จดจำเรื่องราวในอดีตของเขา ทั้งนี้ก็รวมถึงการให้โอกาสแก่ทุกคนที่เคยผิดพลาดในอดีตและคิดอยากจะกลับมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง ก่อนที่จะไม่มีเวลาให้โอกาสเขาเช่นการจากไปของ “นาธาน โอมาน”