ตาป้องพ่อแม่ชมพู่ไม่แอบขึ้นเขากลางดึก งงพยานเห็นไปลำพังวันลูกหาย (คลิป)

4 ก.ค. 63

เมื่อวันที่ 3 ก.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ โดยนางสาวิตรี ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า จากกรณีที่ตนจำสีกางเกงน้องชมพู่ผิด ว่าเป็นกางเกงขายาวสีม่วงนั้น

คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่ 

844164

แต่วันนี้ตนขอยืนยันว่า ตนไม่มีทางจำเสื้อน้องชมพู่ผิดแน่นอน ซึ่งเสื้อน้องชมพู่ เป็นเสื้อกล้ามสีขาว ลายการ์ตูนจุดสีชมพู่ ที่ตนจำได้แม่นยำ ก็เพราะคืนวันที่ 10 พ.ค.63 ตนได้ใส่เสื้อตัวนี้ให้กับน้องชมพู่ด้วยตัวเอง และเสื้อตัวดังกล่าวตนพยายามหาในบ้านของตน ก็ไม่เห็นแต่อย่างใด

737528

ทั้งนี้ตนเองขอยืนยันว่า เป็นไปไม่ได้ที่ชมพู่จะไม่ได้สวมเสื้อในวันที่หายตัวไป เพราะลูกของตนจะสวมเสื้อตลอดเวลา ชมพู่จะถอดเสื้อเฉพาะตอนที่อาบน้ำเท่านั้น เวลานอนเล่นที่บ้านก็ไม่เคยถอดเสื้อเลย

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับนางตระไคร้ (นามสมมติ) ชาวบ้านที่ชี้พิรุธครอบครัวน้องชมพู่ โดยนางตระไคร้ ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อตอนเย็นวันที่ 11 พ.ค.63 พ่อแม่น้องชมพู่ พร้อมญาติรวม 9 คน ได้ไปหาตัวน้องชมพู่ที่ภูเหล็กไฟแล้วรอบหนึ่ง ถึงประมาณ 01.00 น. เขาก็ลงมา

656867

และตนก็ได้ยินชาวบ้านเล่ามาว่า จากนั้นนายอนามัย และนางสาวิตรี ก็ได้ขึ้นไปตามหาน้องชมพู่ที่ภูเหล็กไฟอีกรอบ เป็นรอบที่ 2 แต่รอบนี้ตนเองก็ไม่ทราบว่าเขาทั้งสองขึ้นไปในเวลาประมาณกี่โมง และไม่รู้ว่าเขาจะขึ้นไปถึงจุดที่เจอศพน้องชมพู่หรือไม่

จากนั้นพ่อและแม่น้องชมพู่ ก็ไม่ขึ้นไปที่ภูเหล็กไฟอีกเลย แม้กระทั่งวันที่นางตุน ชาวบ้านที่หาของป่ารายหนึ่งเจอรองเท้าน้องชมพู่ เขาก็ยังไม่ขึ้นเขาไปพร้อมกับชาวบ้าน ทุกวันนี้ชาวบ้านก็ยังพากันงงว่าทำไมมีคนมาบอกว่าเจอรองเท้าน้องชมพู่ แล้วพ่อแม่ไม่ขึ้นไปหา หรือว่าเขารับอะไรไม่ได้

อย่างไรก็ตาม นางตะไคร้ ยังได้ตั้งข้อสังเกตอีกว่า หากพ่อแม่น้องน้องชมพู่ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหมดไปตั้งแต่แรก คดีก็คงจะไม่ยุ่งยากขนาดนี้

319020

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับ นายชาญ หลาบโพธิ์ อายุ 67 ปี ตาของน้องชมพู่ กล่าวถึงกรณีที่มีชาวบ้านบางคนตั้งข้อสงสัย ว่าพ่อเเม่น้องชมพู่เเอบไปตามหาลูกกันเอง 2 คนนั้น ตาชาญบอกว่า วันที่ 11 พ.ค.63 ที่ผ่านมา หลังจากที่น้องชมพู่หายไป พ่อเเม่น้องชมพู่ก็ออกตามหากับชาวบ้านทั้งวัน จนถึงเวลา 17.00 น. ก็กลับบ้าน

601544

จากนั้นเวลา 20.00 น. พ่อเเม่น้องชมพู่ก็เดินออกจากบ้านกัน 2 คน เเล้วเดินหาน้องไปตามถนนกลางหมู่บ้าน จนถึงโรงเรียนสยามกลการ 4 (โรงเรียนบ้านกกกกอก) ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เเล้วก็เดินหาตามสวนยางพาราบริเวณใกล้ ๆ โรงเรียน ไม่ได้ขึ้นภูเหล็กไฟเเต่อย่างใด ก่อนจะกลับบ้านในเวลา 22.00 น. เเล้วก็ไม่ได้ออกไปไหนอีกเลย ก่อนจะออกตามหาน้องอีกครั้งในเวลา 05.00 น. ของวันที่ 12.พ.ค.63

368967

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสาวนุ่น (นามสมมติ) ชาวบ้านกกกอก ให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ค.63 ตนได้โทรศัพท์ ไปหานางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ เพื่อสอบถามเรื่องการหายตัวไปของน้องชมพู่ โดยตนได้โทรศัพท์ไปในเวลา 08.56 น. แต่โทรไม่ติด จึงได้โทรอีกครั้งในเวลา 08.57 น. ก็ยังโทรไม่ติดเหมือนเดิม กระทั่งได้โทรไปหาแม่น้องชมพู่อีกครั้ง ในเวลา 08.59 น. จึงสามารถติดต่อกับแม่น้องชมพู่ได้ และได้พูดคุยกันในสายดังกล่าว 22 วินาที

นางนุ่น เล่าต่อว่า ในสายที่ตนพูดคุยกับนางสาวิตรีนั้น ตนก็ได้สอบถามเขาว่า ให้ตนช่วยตามหานักข่าวให้ไหม จะได้ช่วยกันได้หลายช่องทาง แม่น้องชมพู่ก็ตอบว่า ถ้าหากมีช่องทางไหนช่วยตามหาลูกเขาได้ เขาก็ยินดีให้ตนช่วย ระหว่างที่พูดคุยกันในสายก็เหมือนกับว่าตนได้ยินเสียงเหมือนคนเหยียบใบไม้แห้ง ตนจึงถามแม่น้องชมพู่ว่า ตอนนี้อยู่ไหน เขาก็บอกว่าเขานอนไม่หลับ จึงออกมาตามหาลูก ตนจึงถามต่อว่า ไปตามหากับใคร แม่น้องชมพู่ ก็ตอบว่ามากับพ่อน้องสะดิ้ง ซึ่งก็คือนายอนามัย ตนก็คาดว่า พ่อและแม่น้องชมพู่ เขาคงเป็นห่วงลูก จึงออกตามหาตั้งแต่เช้า

นางนุ่นยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตอนที่คุยโทรศัพท์ ก็ไม่ทันได้ถามแม่น้องชมพู่ ว่าไปหาน้องชมพู่ ที่จุดไหน ซึ่งแม่น้องชมพู่บอกแค่ว่า ขึ้นไปหาบนภู แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นภูเขาอะไร

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส