เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.63 ถือเป็นวันสุดท้ายของงานหล่อเทียนพรรษาประจำปี ณ พุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์ พุทธชยันตี 2,600 ปี ตำบลสาริกา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ที่พระเดือนชัย ธมมวิจโย หรือ หลวงปู่เดือนชัย อดีตเจ้าอาวาสวัดถ้ำจารย์ครูภูหินต่าง จ.มุกดาหาร เป็นประธานในพิธีเปิด
คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่
หลวงปู่เดือนชัย ได้เริ่มนำประชาชนที่ศรัทธาสวดมนต์ พร้อมเทศนาธรรมและพรมน้ำมนต์ในกับประชาชนภายในโบสถ์เริ่มตั้งแต่เวลา 13.00 น. โดยแบ่งรอบการเข้ารับการพรมน้ำมนต์ออกเป็นรอบ ๆ รอบละ 30-40 คน ตามบัตรคิวที่ได้รับ ซึ่งในวันนี้ตัดคิวสุดท้ายที่หมายเลข 217 ซึ่งเสร็จสิ้นในเวลาประมาณ 14.15 น.
ภายในโบสถ์ที่หลวงปู่เดือนชัยนั่งเทศนาธรรม ยังคงตั้งอ่างน้ำมนต์ที่มีป้ายแปะว่า “ห้ามจับ” ซึ่งประชาชนยังคงหลั่งไหลเข้าไป ถ่ายรูปก้อนหยดน้ำตาเทียนที่จับตัวกันเป็นก้อนคล้ายตัวเลข 0 2/5 6/9 8 เพื่อนำไปซื้อลอตเตอรี่
ขณะเดียวกัน หลังจากที่หลวงปู่เด่อนชัยพรมน้ำมนต์ให้กับประชาชนครบทั้ง 217 คน ตามบัตรคิวแล้ว หลวงปู่เดือนชัยก็ได้สวดมนต์พร้อมพูดแทรกคล้ายเทศนาให้กับประชาชนได้ฟัง
“บางสิ่งบางอย่างอย่าไปงมงายกับมัน ทำมาหากินแล้วบริสุทธิ์ ปัจจุบันนี้ผิดเป็นถูกก็ได้ ถูกเป็นผิดก็ได้ ทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดี อาตมาทำดีที่สุดแล้ว บวชก็ได้ ไม่บวชก็ได้ ทั้งหมดอยู่ที่ใจ ไม่ต้องฆ่าต้องตีต้องแทงต้องขับต้องไล่ ถึงเวลาก็ต้องตาย สังขารไม่เที่ยงเกิดมาแล้วดับไป งานเลี้ยงมีวันเลิกลา นับภาษาอะไรกับมนุษย์” หลวงปู่เดือนชัย ระบุ
ทีมข่าวได้เดินทางมายังสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครนายก เพื่อพบกับพระครูปลัดมานัส ญาณมานโส หรือ หลวงพ่อนิ้งหน่อง เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าในคดีน้องชมพู่
หลวงพ่อนิ้งหน่อง กล่าวว่า อาตมาสะดุ้งตื่นในช่วงเวลา 03.00 น. เนื่องจากสุนัขในสำนักสงฆ์ได้เห่าหอนไล่เด็กในบริเวณนี้ ซึ่งจากนั้นอาตมาก็ไม่ได้นอนต่อ และได้เข้าฌานนั่งสมาธิ และสัมผัสญาณของน้องชมพู่ได้ น้องชมพู่ได้สื่อสารกับอาตมาว่า “อยากจะให้เรื่องของหนูกลายเป็นเรื่องสอนใจให้กับอีกหลายครอบครัว ไม่อยากให้มีเหยื่อรายต่อ ๆ ไป”
เมื่ออาตมาได้สื่อสารกับญาณของน้องชมพู่แล้ว อาตมาจึงเขียนสรุปลงในกระดาษ 2 หน้า และอยากจะให้อมรินทร์ทีวีนำเสนอ เพื่อจะได้เป็นอุทาหรณ์แก่ผู้ปกครองเด็ก ๆ ว่าจะต้องดูแลเด็กให้ดี ซึ่งน้องชมพู่ถึงจะตายไปแล้ง แต่ก็จะได้บุญที่เรื่องราวได้กลายเป็นเรื่องสอนใจคน
โดยภายในหน้าแรก มีใจความว่า "ความทรงจำเรื่องน้องชมพู่ น้องชมพู่จะกลายเป็นครูน้อยชมพู่สอนใจ ข่าวดังนี้คงจะเป็นบทเรียนรู้ เป็นอุทาหรณ์สอนจิตใจผู้มีลูกหญิง-ลูกชาย จำต้องดูแลพร่ำสอนให้ดี ใกล้ชิดกว่างานอื่น ๆ เพื่อจะได้มีอนาคตที่ดีในสังคมไทย และไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก จึงคิดว่าน้องชมพู่จะได้บุญกุศลมากในข่าวดังนี้ที่ดังไปทั่วโลก"
ส่วนหน้าที่สอง มีใจความว่า "หากมีข้อความตอนใดผิดไป ขออภัยญาติโยม ยังมีอีกหลายวิญญาณเด็กที่ผ่านมาเป็นครูเด็กสอนใจ เพื่อความไม่ประมาท ถึงผู้ดูแลเด็ก ๆ"