กู้ภัยผวาผีตายยกครัว 3 ศพตามถึงบ้าน สุดหลอนคลานทับอกเจอพร้อมกันตอนตี 3 (คลิป)

30 มิ.ย. 63

จากเหตุการณ์ที่นายจรูญ ดวงขวัญ อายุ 55 ปี เจ้าของร้านรับซื้อขี้ยาง ในพื้นที่ ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง น.ส.เรณู ดำหาย อายุ 48 ปี ภรรยา และ ด.ช.พงศกร ดวงขวัญ อายุ 12 ปี เสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนยิงตัวตายตาม รวมมีผู้เสียชีวิต 3 ศพ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

352980232704892128

ล่าสุดวันที่ 30 มิ.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมาที่มูลนิธิพิทักษ์ประชา ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ โดยรถคันที่เกิดเหตุหมายเลขทะเบียน ฒอ 2866 กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นรถหมายเลข 03 ของกู้ภัย อยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่อยู่ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงพาทีมข่าวมาดูรถพยาบาลที่มีลักษณะคล้ายกัน สังเกตเห็นว่า มือจับประตูเป็นมือจับแบบบีบเพื่อเปิดประตู และประตูเป็นระบบล็อกนิรภัย คือ เมื่อปิดประตูจะเลื่อนล็อกอัตโนมัติ ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้สาธิตให้ดูว่า เสียงที่ได้ยินเป็นเสียงคล้ายคนปิดประตูรถพยาบาลดัง “ปุ้ง” จำนวน 1 ครั้ง

774359

จากนั้นทีมข่าวและเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ทำการทดสอบเปิดปิดประตู และพยายามดึงประตูโดยที่ไม่ได้บีบมือจับ พบว่าไม่มีทางที่ประตูจะเปิดปิดเองได้ อีกทั้งประตูสามารถเปิดจากข้างในได้หากกดตัวล็อกจากด้านในประตู

242606

นายลายคราม สว่างแสง เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ได้ยินเสียงปิดประตู เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.62 ตนพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เดินทางไปช่วยเก็บศพหนุ่มใหญ่ยิงภรรยากับลูกชาย และอยู่รอจนกว่าเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจะปฏิบัติหน้าที่เสร็จ จากนั้นวันที่ 29 มิ.ย.63 ช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ตนกับเพื่อนกู้ภัยอีก 3-4 คนได้นั่งพักผ่อน และฟังเพลงกันที่หน้าห้องวิทยุ ซึ่งติดกับโรงจอดรถ

cg1_1

ขณะนั้นตนก็ได้ยินเสียงฝาประตูท้ายรถพยาบาลปิดเสียงดัง “ปุ้ง” จำนวน 1 ครั้ง ท่ามกลางความมืด ซึ่งรถคันนี้จอดอยู่ในช่องที่ 3 (นับจากห้องวิทยุ) และมีรถตู้จอดบังอยู่ โดยทุกคนได้แต่หันมามองหน้ากัน แต่ไม่มีใครกล้าพูด และไม่มีใครกล้าที่จะเดินไปดูรถคันดังกล่าว จึงได้แต่นั่งเงียบ จากนั้นช่วงเช้าตนกับเพื่อน ๆ ได้พูดคุยกันถึงเหตุการณ์ดังกล่าว และพบว่าทุกคนก็ได้ยินเสียงปิดประตูเหมือนกันหมด

734981

โดยขณะที่ตนได้ยินเสียง ยืนยันว่าเป็นช่วงที่ไม่มีลมพัด และทุกครั้งที่จอดรถ เจ้าหน้าที่จะปิดฝาประตูท้ายรถตลอด อีกทั้งบริเวณมือจับประตูรถ ต้องบีบมือจับ ถึงจะคลายล็อก และพบว่าระบบล็อกประตูก็ทำงานปกติ ด้วยเหตุนี้ตนจึงรู้สึกแปลกใจมาก โดยรถคันที่ได้ยินเสียงปิดประตู เป็นรถคันที่รับศพของผู้หญิง ซึ่งขณะที่นำร่างมาพบว่า เลือดไหลออกมาไม่หยุด และไหลลงตามพื้นถนนตลอดเส้นทาง เพราะถูกยิงเข้าที่ศีรษะทะลุท้ายทอย

ปกติแล้วเวลานำศพมาส่งที่โรงพยาบาล ทางเจ้าหน้าที่ต้องกล่าวว่า อย่าไปไหน ให้รอญาติมารับอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ในวันนั้นทุกคนอาจจะลืมบอก เพราะทุกคนรู้สึกเหนื่อยมาก ทำให้ผู้ตายไม่รู้จะไปไหน และตามกลับมา ทั้งนี้ตนเป็นอาสากู้ภัยมานานกว่า 15 ปี และไม่เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อน ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง แต่ไม่ได้งมงาย และหลังจากที่เกิดเรื่องตนก็ยังไม่ได้ยินเสียงแปลก ๆ อีกเลย

994183

นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ นายกฤษณ์กมล กังแฮ เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ถูกวิญญาณตามกลับบ้าน เปิดเผยว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดแรกลงพื้นที่ ทางกู้ภัยได้ตามเข้าไปช่วยเหลือเป็นชุดที่สอง โดยกู้ภัยได้เริ่มเก็บศพของผู้ชาย ก่อนจะเก็บศพของผู้หญิง และเก็บศพของเด็กเป็นศพสุดท้าย

โดยสภาพศพของเด็ก ตนสังเกตเห็นว่า นอนอยู่ที่พื้นห้องนอน ลักษณะนอนตัวตรง ที่ใบหน้ามีคราบน้ำตาจำนวนมากเปื้อนอยู่ ดวงตาแดงกล่ำ และตาเบิกโพลง เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันปิดตา พร้อมกับเช็ดคราบเลือดกับคราบน้ำตาออก ก่อนจะทำการห่อศพ ซึ่งจากสภาพศพ ตนคาดว่า ขณะที่เกิดเหตุเด็กน่าจะร้องขอชีวิต เพราะยังไม่อยากตาย

ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน หลังจากที่ตนเก็บศพของทั้ง 3 คนเสร็จ ตนกำลังจะเดินไปขึ้นรถเพื่อที่จะกลับบ้านก่อน ขณะนั้นเพื่อนกู้ภัยได้ตะโกนถามว่า “จะไปไหนต่อ” ตนจึงตะโกนตอบกลับไปว่า “กลับบ้านเลย” ผ่านรถยนต์จำนวน 3 คันที่บรรทุกศพของทั้ง 3 คน จากนั้นเวลา 01.00 น. ตนได้กลับมาถึงบ้าน และอาบน้ำนอนทันที ซึ่งปกติแล้วตนจะเป็นคนที่นอนหลับง่ายมาก แต่ในวันนั้นตนรู้สึกนอนไม่ค่อยหลับ เพราะในใจนึกถึงแต่เด็กที่เสียชีวิตอยู่ตลอด

cg2

จากนั้นเวลาประมาณ 03.00 น. แฟนของตนมีท่าทีนอนดิ้น และสะดุ้งตื่นขึ้นมา พร้อมกับพูดเสียงดังว่า “เฮ้ย” ตนพยายามจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่แฟนของตนตอบกลับว่า”ไม่”เพียงคำเดียว ก่อนจะนอนหลับไป จากนั้นช่วงเช้าแฟนได้เล่าให้ตนฟังว่า ช่วง 03.00 น. เหมือนมีอะไรบางอย่างมาตะเกียกตะกายตามตัว คล้ายคนถูกผีอำ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาคล้ายกับว่า กำลังจะสื่อสารว่าเป็นอะไรสักอย่าง แต่จับใจความไม่ได้ว่าเป็นอะไร ปกติแล้วแฟนของตนเป็นคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องลี้ลับ และไม่ได้ไปในที่เกิดเหตุด้วย แต่กลับมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้

ทั้งนี้ตามความเชื่อของกู้ภัย ทุกครั้งที่เก็บศพเสร็จ กู้ภัยจะต้องพาร่างของผู้เสียชีวิตไปส่งถึงโรงพยาบาล และบอกให้ดวงวิญญาณ “รอที่นี่” ก่อนจะกลับมาไหว้ครูบาอาจารย์ และล้างหน้าล้างเท้า ที่มูลนิธิ แต่เมื่อวานนี้ตนไม่ได้ปฏิบัติตามความเชื่อดังกล่าว ส่วนตัวเชื่อว่า น่าจะเป็นวิญญาณของเด็กที่ตามมาขอความช่วยเหลือ ซึ่งตนได้ทำบุญไปให้แล้ว ทั้งนี้ตนอยากจะฝากบอกกับน้องที่เสียชีวิตว่า ขอให้หลับให้สบาย เกิดมาชาติขอให้อยู่ในภพภูมิ และเจอครอบครัวที่ดีกว่านี้ เพราะส่วนตัวรู้สึกสลดใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้มาก และเด็กอายุ 12 ปี ไม่น่าจะโดนแบบนี้

724335

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้เปิดเผยกับทีมข่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่อีกรายหนึ่งที่เข้าไปภายในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นคนที่เจอเหตุการณ์แปลกประหลาด เป็นคนที่ 3

cg3

โดยเจ้าหน้าที่รายนี้ได้เข้าไปถ่ายรูปคราบเลือด และมีการเหยียบเลือดที่พื้นห้องที่เกิดเหตุ หลังจากที่ปฏิบัติหน้าที่เสร็จทุกคนได้แยกย้ายกันกลับบ้าน เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.63 เวลาประมาณ 3.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวกำลังหลับอยู่ ได้ยินเสียงเคาะโต๊ะปริศนาดังขึ้น 3 ครั้ง

เหตุการณ์ครั้งนี้ สร้างความประหลาดใจให้กับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้มีคนตาย 3 คน และเหตุการณ์แปลก ๆเกิดขึ้นใน 3 สถานที่ และเกิดในเวลา 03.00 น. และรถคันที่ได้ยินเสียงปิดประตูเป็นรถคันที่ 03 ของศูนย์กู้ภัย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส