จากกรณี น.ส.ศุภา พรมสุข อายุ 26 ปี ถูกนายพรปิยะ อายุ 32 ปี ว่าที่เจ้าบ่าว เบี้ยวไม่มาร่วมงานแต่งที่ทางว่าที่เจ้าสาวจัดเตรียมไว้หมดแล้ว จนกระทั่งเจ้าสาวพยายามติดต่อไปหาฝ่ายชายแต่ติดต่อไม่ได้ จึงทำให้คิดว่าตัวเองโดนฝ่ายชายหลอก ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ล่าสุดวันที่ 29 มิ.ย.63 นายเอ ว่าที่เจ้าบ่าว เผยถึงสาเหตุที่ไม่ไปงานแต่ง เพราะมีเงินสดอยู่เพียง 20,000 บาท ซึ่งไม่เพียงพอกับการจ่ายค่าสินสอด อีกทั้งทางครอบครัวก็ยังไม่พร้อม แต่ตนเองอยากให้จัดงานไปก่อน หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นยอมรับความผิดทุกอย่าง และอยากขอโอกาสฝ่ายหญิงอีกสักครั้ง และเตรียมจะเข้าไปขอขมาครอบครัวฝ่ายหญิงเร็ว ๆ นี้ ยืนยันว่าไม่คิดจะหนี
นายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความจ.นครราชสีมา บอกว่า กรณีนี้ฝ่ายครอบครัวเจ้าสาวสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกับฝ่ายเจ้าบ่าวได้ตามกฎหมาย ซึ่งมีค่าเสียหายจากการจัดเตรียมงานแต่ง ทั้งจ้างโต๊ะจีน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ สามารถฟ้องร้องเรียกคืนจากเจ้าบ่าวได้ แต่ความผิดนี้ไม่เข้าข่ายคดีอาญา แต่หากมีการมอบสินสอดทองหมั้นข้าวของต่าง ๆ ก่อนล่วงหน้าแล้วก็ให้ตกเป็นของฝ่ายเจ้าสาวได้ทันที
ทั้งนี้ หากฝ่ายเจ้าสาวติดขัดเรื่องข้อกฎหมายหรือไม่เข้าใจขั้นตอนการฟ้องร้องค่าเสียหายสามารถปรึกษากับสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมาพร้อมอำนวยความสะดวกโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ขณะเดียวกัน ครอบครัวของนายพรปิยะ ได้ติดต่อกลับมาหาฝ่ายเจ้าสาวบอกว่าลูกชายหนีกลับไปบ้านเกิดที่จ.กาญจนบุรี พร้อมกับเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยครอบครัวเจ้าบ่าวยินยอมชดใช้ค่าเสียหายจากการจัดงานแต่งให้ตามความเหมาะสม แต่เจ้าสาวยืนยันว่าแค่ชดใช้ค่าเสียหายเป็นตัวเงินไม่พอ โดยตัวเจ้าบ่าวต้องมากราบขมาพ่อแม่ของเจ้าสาวด้วย
