กยศ.แจงยึดบ้านสาวติดหนี้ ยืนยันทำตามขั้นตอนของกฎหมาย

26 มิ.ย. 63

กยศ.แจงยึดบ้านสาวติดหนี้ ยืนยันได้ทำตามขั้นตอนกฎหมาย เผยผู้กู้ถูกดำเนินคดีตั้งแต่ปี 2551 เบื้องต้นประสานให้ผู้ซื้อบ้านขายทรัพย์คืนให้กับผู้กู้แล้ว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สาวร้องสื่อ เป็นหนี้ กยศ. 17,000 แต่ถูกยึดบ้านราคา 2 ล้าน
- เปิดตัวระบบบริหารหนี้ กยศ. ออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน “กยศ. Connect”

ความคืบหน้ากรณี สาวแพร่ติดหนี้ กยศ. 17,000 บาท แล้วขาดส่ง ถูกฟ้องยึดบ้านขายทอดตลาดราคา 2.1 ล้านบาท ล่าสุด นางสาวกรทิพย์ วงศ์ตะวัน พร้อมด้วยนางสาวสมหมาย วงศ์ตะวัน (ผู้กู้) นางพริ้ง วงศ์ตะวัน (แม่ซึ่งเป็นคนค้ำประกัน) นายสมพร วงศ์ตะวัน (สามีคนค้ำประกัน) เดินทางเข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังจากที่อยู่ๆ ก็มีจดหมายจากสำนักงานบังคับคดี จ.แพร่ มาติดหน้าบ้าน ว่าบ้านหลังดังกล่าวถูกขายทอดตลาดไปแล้ว โดยเป็นหนี้ กยศ.เพียง 17,000 บาท แต่กลับถูกฟ้องบังคับคดียึดบ้านไม้สัก ขายทอดตลาดไปในราคา 2.1 ล้านบาท จึงขอเข้ามายื่นเรื่องร้องขอความเป็นธรรม และขอให้ช่วยดำเนินการนำบ้านกลับคืนให้พ่อตนด้วย

1593146697672

ทางด้านนางสาวนภาพร เยาวรัตน์ ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ ได้เข้ารับเรื่องไว้และได้ประสานเจ้าหน้าที่จากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดแพร่ และกรมบังคับดดีจังหวัดแพร่เข้าชี้แจงต่อผู้เสียหาย ต่อมาทางด้านนางสาวกฤษณา กล้าพนัส ผอ.สำนักงานบังคดีจังหวัดแพร่ และนางจิรพร เพิ่มพูน ยุติธรรมจังหวัดแพร่ เดินทางเข้ามาที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงแต่ไม่ยอมให้ผู้สื่อข่าวอยู่ร่วมในระหว่างที่พูดคุย และไม่ยอมให้สัมภาษณ์แต่อย่างใดๆ ทั้งสิ้น

1593146733352

การประชุมหารือระหว่างสำนักงานยุติธรรม จ.แพร่ และสำนักงานบังคับคดี จ.แพร่ และศูนย์ดำรงธรรมได้ข้อยุติ โดย น.ส.กรทิพย์ พาครอบครัวทั้งน้องสาว พ่อ และแม่ เดินทางไปยังสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือทางกฎหมาย และการบังคับคดีจังหวัดแพร่ เพื่อขอความช่วยเหลือ ใช้เวลาในการปรึกษาและขอความเป็นธรรมนานกว่า 2 ชม.

1593146785437

น.ส.กรทิพย์ พร้อมครอบครัว เดินออกมาด้วยท่าทางหมดกำลังใจ ออกจากห้องอย่างสิ้นหวัง โดย น.ส.กรทิพย์ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้รับความเห็นใจจาก อัยการ และท่านรับปากว่าจะติดตามคนที่ซื้อบ้านมาเจรจาแต่เขาจะมาหรือไม่มานั้น ไม่แน่ใจ แต่โอกาสที่จะมานั้นน้อยมาก โดยนัดกันวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 ถ้าหากเขามาก็จะให้ทางครอบครัวตนจ่ายค่าชดเชยที่เขาซื้อบ้าน ถ้าเขาไม่มาก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร และทางตนได้รวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อจะไปยื่นให้สภาทนายความ จังหวัดแพร่ ได้ช่วยเหลือไปขอยื่นกับศาลขอรื้อฟื้นคดี พร้อมกันนี้ตนจะเดินทางไปพบกับ ทนายสมศักดิ์ สถานีประชาชนที่กรุงเทพ และยังขอคิดดูว่าจะไปขอเป็นธรรมกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม หรือไม่ ขอเวลาปรึกษากันก่อน

1593146852875

ขณะเดียวกัน นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า ผู้กู้ยืมถูกดำเนินคดีตั้งแต่ปี 2551 และศาลได้มีคำพิพากษาให้ชำระหนี้เงินต้น จำนวน 17,868 บาท พร้อมดอกเบี้ย แต่ผู้กู้ยืมไม่ได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษา กองทุนจึงจำเป็นต้องดำเนินการสืบทรัพย์บังคับคดี แต่ทรัพย์สินของผู้กู้ยึดไม่ได้ เพราะถูกเจ้าหนี้รายอื่นยึดไว้แล้ว กองทุนจึงยึดทรัพย์ของผู้ค้ำประกันเมื่อปลายปี 2561 ซึ่งที่ดินดังกล่าวติดจำนองเจ้าหนี้รายอื่นอยู่

1593147026749

ต่อมาในช่วงต้นปี 2562 ผู้กู้ยืมได้ชำระหนี้เพียงบางส่วน และไม่ได้ติดต่อกองทุนเพื่อทำบันทึกข้อตกลงงดการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ถูกยึดไว้ ซึ่งหากติดต่อมาก็สามารถของดการขายทรัพย์และผ่อนชำระหนี้ได้อีก 6 ปี

จากนั้นสำนักงานบังคับคดีจังหวัดแพร่ได้ดำเนินการประกาศขายทอดตลาดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างโดยขายแบบติดจำนอง เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 และมีบุคคลภายนอกซื้อได้ในราคา 30,000 บาท

1593147044465

กยศ.ยืนยันว่าก่อนที่จะมีการบังคับคดี พยายามที่จะติดต่อกับผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกัน และได้ดำเนินการตามขั้นตอนการติดตามหนี้มาโดยตลอด จนต้องดำเนินการตามกฎหมายโดยยึดทรัพย์ของผู้ค้ำประกันก่อนที่คดีจะขาดอายุความ ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกหนี้รายนี้ กองทุนจึงประสานกับผู้ซื้อทรัพย์เพื่อให้ความช่วยเหลือ ซึ่งในเบื้องต้นผู้ซื้อทรัพย์ยินดีขายทรัพย์คืนให้แก่ผู้ค้ำประกันในราคาซื้อ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ