พิสูจน์จะจะ หลังนักวิทย์คาใจหนุ่มนักวิ่งอ้างโดนวางยาในน้ำดื่ม ห่วงมิจฉาชีพตบทรัพย์ (คลิป)

จากกรณี ช่วงค่ำวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เล่าเรื่องราวขณะที่ไปวิ่งออกกำลังกายภายในสวนสาธารณะ ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี และถูกวางยาในขวดน้ำดื่ม หลังมีอาการหายใจติดขัด จะอาเจียน และจะหมดสติ ก่อนให้น้อง ๆ ที่ทำงานพาไปส่งโรงพยาบาล 

นายวิโรจน์ ไศละบาท อายุ 42 ปี ผู้เสียหาย บอกว่า ตนวางน้ำดื่มไว้ที่จุดสตารท์ หลังจากวิ่งเสร็จได้ดื่มน้ำเข้าไปจนมีอาการลิ้นแข็ง ตาค้าง ภาพหมุน หายใจติดขัด คลื่นไส้ จนหมดแรง ทำให้ต้องเข้ารพ. และรอผลตรวจจากแพทย์

โดยสงสัยว่าคงโดนวางยาจากมิจฉาชีพ เพราะบริเวณฝาขวดน้ำมีรอยถูกเจาะด้วยเข็ม ส่วนเหตุการ์หลังจากนั้นก็เป็นไปตามที่โพสต์

สาเหตุที่โพสต์เพราะอยากเตือนภัยถึงเพื่อน ๆ นักวิ่ง เชื่อว่าคนทำคงประสงค์ต่อทรัพย์ ไม่อยากให้คนอื่นตกเป็นเหยื่อ ตอนนี้รอผลพิสูจน์เลือดจากทาง รพ. หลังเกิดเหตุได้ไปพูดคุยกัยคนขายน้ำเจ้าประจำซึ่งเขาก็ตกใจ อีกทั้งตนเองตรวจสอบจุดดังกล่าวไม่มีกล้องวงจรปิด จึงอยากให้มีการติดตั้งเพราะตอนนี้ไม่กล้าไปวิ่งที่อีกแล้ว 

นายคม แสงบำรุง ผู้อำนวยการฝ่ายบำรุงการช่าง เทศบาลนครนนทบุรี บอกว่า ตนได้รับคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี และนายกเทศบาลนครนนทบุรี ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งสวนสาธารณะเเห่งนี้ อยู่ในความดูเเลของเทศบาลนครนนทบุรี เปิดให้ประชาชนเข้ามาใช้พื้นที่ตั้งเเต่เวลา 05.00-21.00 น. ซึ่งในเเต่ละวันจะมีประชาชนมาออกกำลังกายวันละประมาณ 1,000 คน

โดยช่วงเช้าจะมีนักวิ่งมาวิ่งออกกำลังกายตั้งเเต่เวลา 05.00-08.00 น. ส่วนช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 15.00-21.00 น. ซึ่งนักวิ่งจะเริ่มทยอยกลับตั้งเเต่เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป โดยสวนสาธารณะเเห่งนี้ มีลู่วิ่งระยะทางโดยรอบ 1.2 กิโลเมตร มีกล้องวงจรปิดรอบสนาม จำนวน 10 ตัว แต่ใช้งานได้บางตัว เนื่องจากอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบ

ส่วนจุดที่ผู้เสียหายระบุว่าซื้อน้ำดื่มแบบขวดแล้วนำมาวางไว้ที่ข้างเก้าอี้ในสวน คือบริเวณลานเตะตะกร้อ ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ใกล้กับป้อม รปภ. มีแสงสว่างจากไฟส่องสนาม ซึ่งหลังจากนี้จะทำการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อหาตัวคนร้ายต่อไป แต่หลังจากนี้จะมีการเพิ่มมาตรการ คือเพิ่มไฟส่องสว่าง เพิ่มกล้องวงจรปิด และเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นครั้งแรก ทำให้ประชาชนตกใจกลัว

ไทม์ไลน์ หนุ่มนักวิ่งโดนวางยา 19 มิ.ย.63 เวลา 20.30 น. ผู้เสียหายไปวิ่งที่ศาลากลางนนทบุรี ซื้อน้ำดื่มและวางไว้บริเวณสนามตะกร้อ เวลา 21.00 น. หลังวิ่งเสร็จ หยิบน้ำที่ซื้อไว้ดื่ม แต่รสชาติน้ำเปลี่ยนไป 

วันเดียวกัน เวลา 21.30 น. เสร็จจากการวิ่ง นั่งดื่มกินกับรุ่นน้อง กระทั่งเกิดอาการหายใจติดขัด ภาพหมุน คลื่นไส้ จะหมดสติ ก่อนถูกนำตัวส่งรพ. 

20 มิ.ย.63 หมอวินิฉัยเบื้องต้นพบว่า ผู้เสียหายอาจเสพสารบางอย่างเข้าไป 21 มิ.ย.63 หมอวินิจฉัย อีกครั้งว่า ผู้เสียหายได้รับสารพิษเข้าร่างกาย กลับบ้านตรวจดูขวดน้ำดังกล่าว พบมีรูเจาะบริเวณคอขวด 

นางศจีสุนี นพคุณ อายุ 50 ปี เจ้าของร้านน้ำ บอกว่า ขายน้ำที่สวนสาธารณะเเห่งนี้มากว่า 10 ปี ช่วงเวลาที่ขายคือตั้งเเต่ 16.00-20.00 น. ไม่เคยพบปัญหาแต่อย่างใด รวมถึงตัวผู้โพสต์ก็เป็นลูกค้าประจำ ซึ่งน้ำที่ขายทั้งหมด รับมาจากห้างสรรพสินค้าละเเวกใกล้เคียง มั่นใจในความปลอดภัยของสินค้า แต่หลังจากทราบข่าวว่ามีการเจาะขวดน้ำเพื่อวางยารู้สึกตกใจและกังวลว่าร้านจะได้รับผลกระทบ 

นายเจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แสดงความคิดเห็นผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า เมื่อกี้นักข่าวก็โทรมาถามข้อมูลเหมือนกัน ว่านักวิ่งคนนั้น น่าจะถูกสารอะไรใส่วางยาในขวดน้ำดื่ม

 “ซึ่งผมก็บอกว่า มันดูแปลก ๆ ดูมีพิรุธนะ เพราะไม่เคยมีข่าวว่าใครถูกมอมยาแบบนี้ในสวนสาธารณะมาก่อน ตัวผู้เสียหายเองก็ไม่ได้ถูกมิจฉาชีพคนไหนเข้ามาปลดทรัพย์ ดังนั้น ในเคสนี้ ควรจะรอผลตรวจก่อนดีกว่า ว่าในขวดน้ำมีสารอะไรปนเปื้อนอยู่บ้าง รวมทั้งผลตรวจเลือดด้วย

นอกจากนี้ ยังแปลก ๆ ตรงที่ ปกติขวดน้ำจะค่อนข้างเต็มขวด แล้วก็เจาะรูตรงคอขวดก็ไม่ง่ายเท่าไหร่นะ ทำไมน้ำถึงไม่ไหลออกมาตอนเขาดื่ม?”

ในรายได้สาธิตเจาะขวดน้ำให้ดู โดยนำขวดน้ำที่มีน้ำอยู่เต็มขวดแล้วทำการเจาะรูบนขวด ก่อนนำหลอดฉีดยาที่เตรียมไว้ฉีดน้ำเปล่าเข้าไป จากนั้นลองจับขวดดูปรากฏว่าน้ำในขวดพุ่งออกมาจากรูที่เจาะทันที โดยแทบไม่ต้องสังเกตว่ามีน้ำไหลออกมา

น.พ.สิทธา ลิขิตนุกูล แพทย์สังคมสื่อสารเพื่อคุณธรรม เจ้าของเพจคุณหมอสตอรี่ เชื่อว่ายาที่ผู้เสียหายโดนฉีดใส่ขวดน้ำดื่ม น่าจะเป็นกลุ่มยาเค หรือ เคตามีน แบบน้ำ ซึ่งจะไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และยากต่อการสังเกต

อาการของยากลุ่มนี้ คือ จะออกฤทธิ์ทำให้เคลิ้ม ฝัน เห็นภาพหลอน ต่อมาเมื่อผู้เสียหาย ดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปจึงไปเร่งปฏิกริยา และเสริมฤทธิ์ยาเค ทำให้อาการหนักขึ้น คือกล้ามเนื้ออ่อนแรง เหมือนคนเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต จนต้องเข้าโรงพยาบาล

อยากเตือนว่า ไม่ควรวางเครื่องดื่มทิ้งเอาไว้ที่ไหนก็ตาม แม้แต่ในร้านอาหารก็ไม่ควร และก่อนดื่มให้สังเกตความผิดปกติของบรรจุภัณฑ์ รอยรั่ว สี และกลิ่นด้วย