เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 มิ.ย.63 นายวัลลภ ประวัติวงศ์ นายอำเภอกบินทร์บุรี ได้รับแจ้งจากเรือนจำอำเภอกบินทร์บุรี ว่ามีนักโทษของเรือนจำอำเภอกบินทร์บุรี หลบหนีออกจากที่คุมขังพื้นที่ควบคุม หลังเข้ารับการรักษาที่ รพ.กบินทร์บุรี ทราบชื่อ นช.มารุต กองจันทร์ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาคดีครอบครองและจำหน่ายยาเสพติด
ต่อมา นายวัลลภ ประวัติวงศ์ นายอำเภอกบินทร์บุรี ทราบว่า นช.คนดังกล่าว ได้ว่าจ้างรถสามล้อที่อยู่หน้า รพ.กบินทร์บุรี ให้ไปส่งที่สถานี บขส.กบินทร์บุรี เพื่อจะหลบหนีไปที่เขตบางนา กทม. จึงได้ประสาน พ.ต.อ. มาโนช กันเกลา ผกก.สภ.กบินทร์บุรี พ.ต.อ.ประสิทธิ์ ฟักศรี ผกก.สภ.วังตะเคียน และพ.ต.อ.วันชัย พิทักษ์ตันสกุล ผกก.สภ.สระบัว เพื่อออกตั้งด่านตรวจค้นรถวิ่งผ่านเข้าออกพร้อมกับ ประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ให้ช่วยกันจับกุม และประชาสัมพันธ์ประชาชนในพื้นที่ได้ทราบ หากพบเห็นให้รีบแจ้งฝ่ายปกครองหรือตำรวจทันที
จากนั้น จัดชุดเคลื่อนที่เร็วประกอบด้วยปลัดอำเภอและสมาชิก อส.ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร ออกลาดตระเวนตรวจค้นตามที่ต่าง ๆ ที่คาดว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีไป โดยเจ้าหน้าที่เรือนจำได้ติดตามถามจากญาติ และอดีตนักโทษจนได้รับความร่วมมือชี้เบาะแสให้เจ้าหน้าที่จนสามารถติดตามและจับกุมตัวได้ ขณะหลบซ่อนอยู่บ้านญาติที่บ้านหนองรี อ.กบินทร์บุรี
นายเสน่ห์ บรรณา อายุ 79 ปี เจ้าของรถสามล้อที่ นช.จ้างไปส่งที่ สถานีขนส่งกบินทร์บุรี บอกว่า ได้รับผู้โดยสารจากหน้า รพ.กบินทร์บุรีจริง แต่ไม่รู้ว่าเป็นนักโทษ โดยเข้าไปส่งที่บ้านเอื้ออาทร ต.เมืองเก่า โดยบอกว่าจะไปบางนา ก่อนจะไปส่งลงที่ บริเวณทางเข้าสถานีขนส่งผู้โดยสารกบินทร์บุรี ได้ค่าจ้าง 100 บาท
น.ส.พวงผกา เชื้อสุข ผอ.เรือนจำกบินทร์บุรี บอกว่า ก่อหน้านี้นช.มารุต ป่วยเป็นไส้ติ่ง จึงส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล แต่อาศัยจังหวะเผลอหลบหนีออกไป โดยผู้ต้องหาต้องคดียาเสพติดให้โทษจำนวน 7 เม็ด คดีอยู่ระหว่างรอขึ้นศาล หลังจากที่หลบหนีรู้สึกสำนึกผิด จึงโทรศัพท์มาหาผู้คุมให้ไปรับตัวที่บ้านภรรยา บ้านหนองรี ต.เมืองเก่า และนช.มารุต เคยมีคดีติดตัวหลายคดีเข้า-ออก เรือนจำบ่อยครั้งด้วย
