งานประจำ หรือ ฟรีแลนซ์ แบบไหนโดนใจคนไทยยุค New Normal มากที่สุด

23 มิ.ย. 63

แม้วิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะสร้างผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจตลอดจนการดำเนินวิถีชีวิตของผู้คนทั่วโลก แต่สุดท้ายไม่ว่าเหตุการณ์จะดำเนินไปในทิศทางไหน ในโลกของการทำงานทุกธุรกิจต่างก็ต้องขับเคลื่อนและปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ

จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) เผยผลสำรวจ Laws of Attraction (LOA) ของคนทำงานในประเทศไทย หลากหลายเจนเนอเรชั่นกว่า 6,129 คน จาก 20 กลุ่มธุรกิจ พบข้อมูลที่น่าสนใจว่า

ส่วนใหญ่กลุ่มคนทำงานยุคใหม่ที่อยู่ในสายงานที่ปรึกษาและงานฝ่ายทรัพยากรมนุษย์นิยมเลือกทำงานประจำ (Permanent) ขณะที่ผู้ที่อยู่ในสายงานขายและจัดซื้อ งานบริการลูกค้าและงานไอที มีแนวโน้มเลือกงานสัญญาจ้าง (Contract) มากกว่า และเมื่อพิจารณาเฉพาะส่วนของงานสัญญาจ้างเทียบกับการเป็นพนักงานประจำ ยังพบอีกว่าพนักงานออฟฟิศที่ยินดีเลือกตำแหน่งงานสัญญาจ้าง มีถึงร้อยละ 24 เทียบกับการเลือกเป็นพนักงานประจำ ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 25 ในขณะที่เลือกตำแหน่งงานตามโปรเจ็กต์ มีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 41

"จากผลสำรวจดังกล่าว จะเห็นได้ว่างานสัญญาจ้างมักไม่ได้รับความสนใจจากผู้สมัครที่อยู่ในสายงานที่ปรึกษาและงานฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ ในทางตรงกันข้ามกลุ่มที่สนใจงานลักษณะนี้ส่วนใหญ่อยู่ในสายงานขายและจัดซื้อ งานบริการลูกค้าและงานไอที เช่น งานฮาร์ดแวร์/เน็ตเวิร์ค/งานระบบ เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่า ผู้สมัครในสายงานเหล่านี้มีแนวโน้มจะได้งานแบบเต็มเวลาน้อยกว่ากลุ่มแรก และที่น่าสังเกตคือผู้สมัครที่อยู่ในสายงานบริการลูกค้าและงานคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งส่วนใหญ่อายุยังน้อย มักจะไม่กระตือรือร้นหางานแบบเต็มเวลามากเท่ากับผู้ที่อยู่ในสายงานไอที"

อย่างไรก็ตามการสำรวจ Laws of Attraction หรือ LOA ของคนทำงานในประเทศไทย ของจ๊อบส์ ดีบี ในครั้งนี้มุ่งความสนใจไปที่ปัจจัยหลัก ๆ ที่ดึงดูดกลุ่มคนทำงานให้สนใจสมัครงานหรือตัดสินใจร่วมงานกับองค์กร ในขณะที่การสำรวจดังกล่าวยังเผยให้เห็นถึงข้อมูลเชิงลึกอีกมากมายอันเป็นประโยชน์สำหรับคนทำงาน รวมถึงองค์กรธุรกิจต่าง ๆ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การสรรหาบุคลากรผู้มีความรู้ความสามารถมาร่วมงาน พร้อมทั้งสร้างความเปลี่ยนแปลงและการเติบโตให้แก่องค์กรต่อไป.

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม