จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายเป็นชาย 2 คน บุกทำร้ายนางมาลี อายุ 65 ปี ขณะนอนดูโทรทัศน์อยู่ภายในห้องเช่า ริมสระหนองบัว ต.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ตามลำพัง เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 20 มิ.ย.63
โดยคนร้ายได้จับป้ามาลีคว่ำหน้า ก่อนใช้เชือกฟางมัดมือและเท้า ทั้งใช้ผ้าปิดปากไม่ให้ส่งเสียงร้อง กระชากผมจับหัวโคกพื้น เพื่อขู่บังคับเอาเงิน ซึ่งได้ไป 50 บาท ก่อนจะหลบหนีไป
ล่าสุดวันที่ 22 มิ.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่หอพักของนางมาลี ผู้เสียหาย สภาพเป็นหอพักปูนชั้นเดียว พบเชือกฟางสีฟ้าที่คนร้ายนำมามัดมือมัดปากนางมาลี วางกระจายอยู่หน้าห้องพัก
นางมาลี เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุ ตนกำลังนอนดูโทรทัศน์อยู่ในห้องเช่า ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์มาจอดด้านหน้าหอ ตอนนั้นไม่ได้ล็อกประตู มีชายฉกรรจ์ 2 คน อายุประมาณ 30- 35 ปี เดินเข้ามาจับตนนอนคว่ำหน้า ตนจึงมองไม่เห็นใบหน้าคนร้าย
จากนั้นคนร้ายใช้ใช้มือกระชากผม ตบหน้าด้านขวา 1 ครั้ง และจับศีรษะตนโขกกับพื้น บังคับให้บอกที่ซ่อนเงิน ตนก็บอกว่าว่าไม่มีเงิน คนร้ายไม่พอใจจึงเอาเชือกฟางมามัดมือมัดปาก ทั้งยังขู่จะฆ่าให้ตนตาย ด้วยความกลัวจึงบอกว่ามีเงินอยู่ 50 บาท คนร้ายยังเอาเสื้อยัดปากแล้วรื้อค้นหาทรัพย์สิน แต่ไม่มีของมีค่า มีแค่เงิน 50 บาทเท่านั้น ก่อนคนร้ายออกไป ตนก็พยายามดิ้นจนเชือกหลุดออก โทรศัพท์ไปบอกหลานให้มาช่วยเหลือ กระทั่งหลานสาวพาตนส่งโรงพยาบาล
นางมาลี เล่าต่อว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ ต้นเดือน มิ.ย. 63 ตนเองก็เคยถูกวัยรุ่นชาย 2 คน อายุราว 20 ปี มาจับตนมัดมือมัดเท้า และเอาเงินเก็บตนไป 2,000 กว่าบาท และสั่งห้ามตนบอกเรื่องดังกล่าวนี้ให้ใครทราบ ด้วยความกลัวจะโดนทำร้าย และตนก็อาศัยที่หอพักอยู่คนเดียว ตนจึงไม่กล้าบอกใคร โดยเขาไม่ใช่คนในหมู่บ้าน และเป็นคนที่เคยมาซื้อยาเสพติดกับกลุ่มวัยรุ่นในหมู่บ้าน
ด้านนางสายเพชร ผาเจริญ กำนัน ต.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองก็รู้สึกงงว่าทำไมคนร้ายมาก่อเหตุทำร้ายร่างกายนางมาลี 2-3 ครั้ง ส่วนที่นางมาลีไม่ยอมแจ้งความเพราะกลัวคนร้ายกลับมาฆ่า หลังคนร้ายขู่ไว้ สำหรับห้องพักของป้ามาลีอยู่ใกล้กับชุมชนชาวประมงลุ่มน้ำมูล ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
