จากกรณี วันที่ 20 มิ.ย.63 เวลาประมาณ 21.00 น. บริเวณสี่แยกกรมศุลกากร เขตคลองเตย กรุงเทพฯ มีเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ประสบอุบัติเหตุจากการถูกรถจักรยานยนต์ของตำรวจของ สน.ท่าเรือ ขี่พุ่งชน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย
โดยมี 1 รายซึ่งเป็นป้าผู้สูงวัยกับสามีโดนลูกหลง อาการสาหัสเลือดคั่งในสมอง ส่วนอีก 3 รายบาดเจ็บเล็กน้อย กู้ภัยทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนรีบนำส่งไปที่โรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาต่อไป จากนั้นมีกลุ่มวัยรุ่นมามุงล้อมโรงพัก เพื่อติดตามความรับผิดชอบจากตำรวจ
ล่าสุด วันที่ 21 มิ.ย. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาพูดคุยกับกลุ่มผู้บาดเจ็บ ย่านคลองเตย กรุงเทพฯ นายเอกวิทย์ เที่ยงทนศักดิ์ หรือ ต๊อบ อายุ 23 ปี วัยรุ่นผู้บาดเจ็บ มีแผลถลอก บริเวณนิ้วเท้า ขวา บวมช้ำตามร่างกาย เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ 20 มิ.ย.63 เวลาช่วง 14.00-15.00 น. ตนเองได้ขี่รถเดินทางไปร่วมงานศพเพื่อนที่วัดคลองเตยใน แขวง-เขต คลองเตย จ.กรุงเทพฯ พร้อมกลุ่มเพื่อน รวม 15 คัน ทั้งหมด 20 คน
จากนั้นช่วงขากลับ ตนเองสังเกตว่ามีตำรวจ 2 นาย ขับรถจักรยานยนต์ตราโล่ตำรวจตามตนเองและกลุ่มเพื่อนมา แต่ก็ไม่ได้เอะใจ จนมาถึงจุดเกิดเหตุ บริเวณสี่แยกไฟแดงใกล้กับธนาคารกรุงไทย สาขากรมศุลกากร ขณะจอดติดไฟแดง ตนเองสังเกตได้ว่าตำรวจ 2 นาย ก็ยังขี่รถตามมาอยู่
ซึ่งขณะนั้น ไฟเขียวพอดี ตนเองและกลุ่มเพื่อนก็ขับรถออกจากไฟแดงมุ่งหน้ากลับบ้าน โดยรถของตนเองอยู่เป็นคันท้ายสุด ตำรวจคงเห็นว่าพวกตนเองมากันเยอะ คงเข้าใจผิดว่าตนเองออกมาแข่งรถกัน
ตนเองยอมรับว่ารถของตนเองและกลุ่มเพื่อนส่วนมากเป็นรถแต่ง และท่อรถเสียงดัง ตนเองยืนยันว่าตนเองไม่ได้ขับหนี เพียงแค่จะขับรถกลับบ้านเท่านั้น แต่ตำรวจ 2 นายกลับ ไล่กวดรถของตนเอง และพยายามเบียดรถของตนเองให้เข้าเลนซ้าย โดยที่ไม่ได้ทำอะไรผิด เพื่อหวังจะให้รถล้ม แต่ขณะช่วงที่ถูกตำรวจเบียด รถของตนเองก็เกิดเสียหลัก ไปพุ่งชนท้ายรถของ 2 สามีภรรยาที่ขับรถอยู่ด้านหน้าตนเองในเลนซ้ายอย่างแรง จนเสียหลักล้มทั้ง 2 ฝ่าย
ซึ่งขณะเกิดเหตุ ตำรวจไม่สามารถตอบได้ว่าตนเองผิดอะไร อีกทั้งยังไม่ให้ตนเองตรวจสอบกล้องที่หมวกของเจ้าหน้าที่ เสมือนปัดความรับผิดชอบ กลุ่มเพื่อน ๆ จึงประสานญาติคนเจ็บและเพื่อนหลายคนไปที่ สน.เพื่อขอความเป็นธรรม ตนเองอยากให้ตำรวจออกมาแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
น.ส.กานณิกา แซ่เอ๋ หรือ กาน อายุ 22 ปี ผู้บาดเจ็บ มีบาดแผลบริเวณ ใบหน้าช่วงปวก 3 แตกถลอก 3 จุด หัวเข่า ด้านขวาแตก บวมช้ำตามร่างกาย เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุ ตนเองตกใจมาก ไม่เข้าใจว่าตำรวจจะขับรถไล่กลุ่มของตนเองทำไม ตนเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่หลังจากที่รถล้มแล้ว ถามเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า "จะขับรถไล่ทำไม" ตำรวจบอกว่าเห็นกลุ่มของตนเองขับรถมากันหลายคัน จึงเข้าใจว่าจะนำรถออกมาเทสกันสร้างความวุ่นวาย
ตนเองคิดว่าตำรวจก็ทำเกินกว่าเหตุเกินไป เพราะจากที่รถล้มแล้วพูดกับตนเองว่า "ให้ยอมรับสารภาพ ว่าเป็นฝ่ายผิด" ตนเองจึงบอกว่า "จะให้หนูรับผิดได้ยังไง เพราะหนูไม่ได้ผิดอะไร" เสมือนว่าจะโยนความผิดให้ตนเองและกลุ่มเพื่อน อย่างไรก็ตาม ตนเองอยากบอกกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าให้ออกมารับผิดชอบกับการกระทำด้วย
ด้านนางแมว (นามสมมติ) อายุ 43 ปี ชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุ ตนเองและสามีกำลังขี่รถเดินทางกลับบ้าน หลังจากไปซื้อของที่โลตัสพระราม 4 กระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุ ก็ถูกรถของกลุ่มวัยรุ่นชนจากด้านท้ายรถ ทำให้รถเสียหลักล้มอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวจนตนเองได้รับบาดเจ็บ บริเวณใบหน้าด้านซ้ายกระแทกพื้น ปูดบวม ศีรษะด้านหน้าฝั่งซ้ายแตก มีเลือดคั่ง แผลถลอกตามร่างกายบวมช้ำ ส่วนสามีได้รับบาดเจ็บตามร่างกายมีแผลถลอก บวมช้ำ
หลังจากเกิดเหตุ ตนเองก็ไม่ได้โกรธหรือโทษใคร เพราะเข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ คงไม่มีใครอยากให้เกิด อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นหากสรุปคดีแล้วใครผิด ก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบ เพราะตนเองกับสามีได้รับบาดเจ็บโดยที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย แต่จากที่ฟังเรื่องราวดูแล้ว ตนเองคิดว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุที่ต้องขับรถไล่กันมา เพราะมีอะไรก็น่าจะคุยกันดี ๆ จะได้ไม่ต้องเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
ล่าสุด พ.ต.ต.อิทธิพัทธ์ คำทุย ร้อยเวรคดี สน.ท่าเรือ ระบุว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างสอบสวนคดี และรอตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณจุดเกิดเหตุว่าคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายใครผิดถูก อีกทั้งต้องรอทางผู้บาดเจ็บมาให้การสอบสวนหาข้อเท็จจริง และจะลงโทษผู้กระทำผิดตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
