จากกรณีวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปินยิงรถสามีภรรยา ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณหมู่ 1 ตำบลยางหัก อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ผู้เสียชีวิตคือ น.ส.จินดารักษ์ ขุนนุช อายุ 28 ปี ท้อง 4 เดือน เสียชีวิตคาที่อยู่ที่นั่งด้านหน้าฝั่งซ้ายของตัวรถ มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะ 1 นัด หลังใบหูด้านซ้าย 1 นัด ต้นแขนซ้าย 1 นัด รวม 3 นัด
ผู้บาดเจ็บคือ นายพิทักษ์ สุขมาก อายุ 31 ปี สามีของ น.ส.จินดารักษ์ ถูกยิงเข้าที่ลำคอ 1 นัด มือซ้าย 1 นัด ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลปากท่อ เเละส่งต่อโรงพยาบาลราชบุรี
ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายกฤษณ์ ทนาถาวรฤทธิ์ หรือ น้อย อายุ 70 ปี ภายหลังได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุ ปมสังหารคือขัดเเย้งเรื่องที่ดิน ก่อนจะถูกนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดราชบุรี 3 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่า และพกพาอาวุธปืน
วันที่ 20 มิ.ย.63 นางลาวัลย์ อินทร์คำ อายุ 56 ปี บอกว่า ปมปัญหาทั้งหมดมาจากเรื่องที่ดิน จำนวน 6 ไร่ 3 งาน ซึ่งที่ดินผืนดังกล่าวเดิมเป็นของนางลาวัลย์ เเม่ผู้ตาย เป็นที่ดินส.ป.ก.ไม่มีโฉนด โดยในปี 51 เเม่ผู้ตายได้นำที่ดินไปจำนองกับผู้ก่อเหตุ ในราคา 70,000 บาท เเต่ไม่มีเงินไปไถ่คืน ผู้ก่อเหตุก็มีการสร้างบ้านในที่ดิน จากนั้นปี 56 ผู้ก่อเหตุได้ขายที่ดินให้กับคนอื่นในราคา 300,000 บาท
ต่อมา ปี 60 คนที่ซื้อได้นำที่ดินมาขายคืนให้กับลูกสาว ในราคา 300,000 บาท แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยินยอม ยังอ้างสิทธิ์ว่าเป็นผู้ครอบครอง มีการสร้างรั้วรอบที่ดิน จึงเริ่มมีปากเสียงกับลูกสาว เกิดเป็นปัญหาสะสมกันมานาน กระทั่งวันเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้ให้คนงานมาทำประตูเพื่อหวังปิดทางเข้า-ออกที่ดิน ลูกสาวกับลูกเขยขับรถผ่านมาเห็นพอดี จึงมีปากเสียงเเละเกิดเหตุขึ้น
น.ส.ยุพเรศ กล่อมจิต อายุ 49 ปี แม่ผู้บาดเจ็บ บอกว่า ลูกชายกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ตอนนี้ร้องไห้ตลอดเวลา โดยทันทีที่รู้สึกตัว คำถามเเรกที่ถามเเม่คือ "ลูกเมียผมอยู่ไหน เป็นยังไงบ้าง" แต่ไม่กล้าบอกความจริงว่าเมียกับลูกเสียชีวิต เพราะกลัวอาการจะทรุด จึงโกหกไปว่าตอนนี้ยังไม่ตาย กำลังรักษาตัวอยู่
โดยลูกชายเล่าว่าก่อนเกิดเหตุ ขับรถผ่านจุดดังกล่าว จากนั้นผู้ก่อเหตุได้มายืนขวางหน้ารถ แล้วสั่งให้ผู้ตายลดกระจก ซึ่งผู้ตายก็ลดกระจกลงแล้วถามว่า "มาทำอะไรในที่ดินของหนู" เมื่อสิ้นคำถาม ผู้ก่อเหตุได้ใช้ปืนยิงรัวใส่ผู้ตายหลายนัดจนฟุบมาฝั่งลูกชาย ส่วนลูกชายก็เอามือบังหน้าตัวเอง จนลูกกระสุนทะลุมือมาโดนหลังคอ แล้วลูกชายก็ฟุบลงที่พวงมาลัย ส่วนเท้าก็ไปโดนคันเร่ง ทำให้รถพุ่งตกข้างทางฝั่งขวา
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคิดว่าโหดร้ายเกินไป เพราะผู้ก่อเหตุรู้อยู่เเก่ใจว่าผู้ตายกำลังท้อง เเต่ยังฆ่าได้ลงคอ อีกทั้งการที่ผู้ก่อเหตุเตรียมปืนมา จึงเชื่อว่าเป็นการไตร่ตรองไว้ก่อน วอนขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัวด้วย
ไทม์ไลน์ของผู้ตาย 16 เม.ย.63 เวลา 12.46 น. อัปเดตสถานะบนเฟซบุ๊กว่า "แต่งงานแล้ว"
17 เม.ย.63 เวลา 13.55 น. อัปเดตภาพโพรไฟล์เฟซบุ๊กเป็นรูปคู่สามี
14 พ.ค.63 เวลา 11.54 น. โพสต์สเตตัสเฟซบุ๊ก ระบุว่า "การเป็นแม่คนในขณะที่เราตั้งท้อง ก้อไม่ขออะไรมากหรอก ขอพ่อของลูก สนใจแม่สักหน่อยก้อยังดีโปรโมชั่นนี้ มีแค่เก้าเดือนเท่านั้นแระ
4 มิ.ย.63 เวลา 16.10 น. โพสต์รูปอัลตราซาวด์ลูกในครรภ์ ระบุว่า "งวดนี้ตัวหนูใหญ่ขึ้นเยอะเลย ถึงแม่จะโดนฉีดยาทีละ 2 เข็ม เจอะเลือดทีละหลาย ๆ ๆ รอบ ก้อจิ๊บ ๆ ๆ ๆ ตัวเล็กของแม่"
6 มิ.ย.63 เวลา 19.39 น. โพสต์รูปคู่กับสามี ระบุข้อความ "ขอบใจน่ะที่คอยทนกับเมียขี้บ่นกับเมียงี่เง่าแบบอิ๋วอยากกินอะไรก้อได้กินอยากได้อะไรก้อซื้อให้ขอให้อยู่กันไปแบบนี้นาน ๆ ๆ อยู่ทำกับข้าวอร่อย ๆ ๆ ให้เมียไปนาน ๆ ๆ น่ะ"
