วันที่ 19 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายประดิษฐ์ (สงวนนามสกุล) ว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่ง ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้จับกุม ลูกสาวของตนวัย 19 ปี เป็น นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยใน จ.เชียงใหม่ ในความผิดฐานมีกัญชาไว้ในครอบครอง ถูกจับคาหอพักพร้อมกับเพื่อนอีก 1 คน
จากนั้น ตำรวจชุดจับกุมมีการถ่ายภาพทำแผนชี้จุด เสร็จแล้วได้มีการควบคุมตัวผู้ถูกจับลงจากหอพัก ในระหว่างที่ลูกสาวถูกควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจยศสิบตำรวจโทนายหนึ่ง นำตัวลูกสาวกลับมาที่หอพัก แล้วมีการยื่นข้อเสนอให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย แต่ลูกสาวไม่ยอม แต่กลับถูกบังคับข่มขืนกระทำชำเรา และได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือกเมืองเชียงใหม่ ไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้า และยังเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าว ปฏิบัติหน้าที่อยู่ตามปกติ ไม่ได้สะทกสะท้านกับความผิดที่ก่อไว้ และผู้บังคับบัญชาของสิบตำรวจโทนายนี้ ยังไม่ได้ดำเนินการทางวินัย หรือตั้งกรรมการสอบสวนแต่อย่างใด ซึ่งเกรงว่าคดีนี้ผู้เสียหายจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
พ่อของผู้เสียหาย เผยอีกว่า หลังจากเกิดเหตุลูกสาวถึงกับจิตตก มีความหวาดระแวง หวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา ต้องพาลูกสาวเข้ารับการรักษา และเรื่องนี้เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากมีการข่มขู่ทางครอบครัวอยู่ตลอด และมีชายลึกลับสวมหมวกกันน็อกขี่จักรยานยนต์มาจอดบริเวณหน้าบ้าน หรือขับผ่านไปมาปรากฏตัวให้เห็นบริเวณบ้านพัก รวมทั้งมีสายโทรศัพท์โทรเข้ามาข่มขู่ ไม่ให้มีการเอาเรื่องเอาความ
นายกมล ถาน้อย ประธานสภาทนายความจังหวัดลำปาง เผยว่า วันนี้ได้เข้าพาผู้ปกครอง มาสอบถามถึงความคืบหน้าของคดี ที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก ทราบจากพนักงานสอบสวนว่าได้ส่งสำนวนไปยัง ป.ป.ช.และ ป.ป.ท. จากนั้นจะมีการส่งสำนวนกลับมาที่ สภ.ช้างเผือก อีกครั้ง ส่วนที่ผู้เสียหายเกรงว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรม เนื่องจากผู้กระทำความผิดเป็นตำรวจ และพนักงานสอบสวนที่ทำคดีก็เป็นตำรวจเช่นกัน หลังจากทำหนังสือร้องเรียนไปยังผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรช้างเผือกเมืองเชียงใหม่ แต่คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งต่อจากนี้จะเข้าร้องทุกข์กับทางผู้บังคับบัญชาต่อไป
พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า กรณีนี้ยังมีการโต้แย้งกันอยู่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกระบุว่าเป็นคนก่อเหตุ ได้ให้การว่าไม่ได้กระทำการใด ๆ ทั้งสิ้น และกระทำการอยู่ในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.เข้ามาตรวจสอบ ซึ่งจากนี้จะเรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในคดีมาประชุมและสอบสวนกันอีกครั้ง
