กลุ่มชายฉกรรจ์อ้างเป็นตำรวจชุดปราบน้ำมันเถื่อน หลอกตบทรัพย์ลุงป้า มึนไม่รู้จริงหรือปลอม

11 มิ.ย. 63

วันที่ 11 มิ.ย.63 ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในปั้มน้ำมันขนาดเล็กแห่งหนึ่งริมถนนสายอ่างทอง-สิงห์บุรี ต.เทวราช อ.ไชโย จ.อ่างทอง จับภาพขณะชายฉกรรจ์ 4-5 คนแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีบรอนซ์ และรถปิคอัพ 4 ประตู เข้าไปภายในปั้ม ก่อนแจ้งกับทางนางพรทิพย์ เฉลยอาสน์ อายุ 63 ปี เจ้าของปั้มว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามน้ำมันเถื่อนและขอตรวจสอบเอกสารของปั้มน้ำมันดังกล่าวว่าถูกต้องหรือไม่ 

571975

นางพรทิพย์ เฉลยอาสน์ เจ้าของปั้ม บอกว่า หลังการตรวจสอบปรากฏว่าใบอนุญาตสถานีจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ของปั้มหมดอายุ กลุ่มคนดังกล่าวจึงแจ้งว่าต้องถูกดำเนินคดีซึ่งมีทั้งโทษจำและโทษปรับ หรือจะหาคนมาเคลียร์ ก่อนที่จะพาตน และนายสมนึก เฉลยอาสน์ อายุ 63 ปี สามีไปที่สถานีตำรวจเกษไชโย ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 5 กม. และหนึ่งในกลุ่มชายฉกรรจ์คนดังกล่าวได้ให้พวกตนรออยู่ด้านล่างของโรงพัก พร้อมพูดจาหว่านล้อมให้นำเงินมาให้เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี ด้วยความหวาดกลัวจึงนำเงินจำนวน 1 หมื่นบาท ห่อกระดาษและนำไปให้บุคคลที่อ้างว่าเป็นหัวหน้าชุดยศ ร.ต.อ. ซึ่งนั่งรออยู่ภายในรถ หลังรับเงินชายทั้งหมดกำชับให้กลับไปลบกล้องวงจรปิดภายในปั้ม ก่อนที่ชายฉกรรจทั้งหมดจะขับรถออกไป 

หลังกลับมาที่ปั้มจึงมาปรึกษากับครอบครัวและไม่รู้ว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวเป็นตำรวจจริงหรือไม่ เพราะไม่ยอมแสดงบัตรและไม่ยอมให้ตนกับสามีขึ้นไปบนโรงพัก จึงเก็บภาพไว้เพื่อเตรียมรวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ตรวจสอบ

662376

นายสมนึก สามีนางพรทิพย์ บอกว่า รู้สึกเอะใจตั้งแต่เข้ามาเพราะขอดูบัตรก็ไม่ยอมให้ดู ส่วนกรณีใบอนุญาตที่หมดอายุและยังไม่ได้ต่อ เนื่องจากเคยติดต่อไปที่พลังงานจังหวัดอ่างทองได้รับแจ้งว่าโอนงานกับท้องถิ่นไปแล้ว แต่เมื่อถามไปยัง อบต.ปรากฏว่ายังไม่มีใครทราบเรื่องจึงปล่อยทิ้งไว้ ประกอบกับช่วงโควิด-19 ระบาด จึงปิดปั้มไปหลายเดือนเพิ่งจะมาเปิดปั้มได้ไม่กี่วันก็มาเจอเรื่องแบบนี้ อย่างไรก็ตาม ติดใจว่าหากเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ๆ ทำไมไม่แสดงตัวและให้ถ่ายบัตรประจำตัว โดยพฤติกรรมการเข้ามาลักษณะคุกคามจนภรรยาหวาดกลัวสุดท้ายจนต้องจ่ายเงินให้ 

สำหรับในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง มีกลุ่มชายฉกรรจ์ที่คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันนี้ตระเวนตรวจสอบทั้งปั้มน้ำมันขนาดเล็ก ปั้มหลอดและร้านจำหน่ายแก๊สหุงต้มในพื้นที่ โดยเมื่อสบโอกาสก็จะพูดจาหว่านล้อมให้มีการเจรจาจ่ายเงิน สร้างความเดือดร้อนให้กับร้านค้าและผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส