3 โจร “ไฟแนนซ์” ยึดรถกลางถนน อ้างขาดส่งค่างวด สาวแจ้งความ รีบโทรเคลียร์คืนภายใน 2 วัน (คลิป)

10 มิ.ย. 63

วันที่ 10 มิ.ย.63 น.ส.ลลิตา เส็งดอนไพร อายุ 29 ปี พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ แสวงหา อายุ 30 ปี แฟนหนุ่ม นำหลักฐานสำเนาเอกสารภาพถ่าย และคลิปวิดีโอกล้องวงจรปิด พร้อมหมายเลขเบอร์โทรศัพท์การติดต่อ มอบให้กับ พ.ต.อ.ชนินทร์ ณรงค์น้อย ผกก.สภ.เมืองชุมพร และ ร.ต.อ.นันทิยา รักดี รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชุมพร เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ 3 ชายฉกรรจ์ อ้างเป็นพักงานไฟแนนซ์ แล้วชิงเอารถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีแดง ทะเบียน กธ 1088 สุพรรณบุรี หลบหนีไปนาน 3 วัน จนสามารถติดตามทราบที่อยู่ของชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวว่าเป็นใครอยู่ที่ใด แต่กลับต่อรองให้ถอนแจ้งความก่อนจะนำรถไปจอดทิ้งไว้ริมถนนแล้วโทรแจ้งให้ตนเองไปรับกลับคืนมาโดยอ้าว่างเป็นการเข้าใจผิด

416014

น.ส.ลลิตา เล่าว่า เมื่อเวลา 11.00 น.วันเสาร์ที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะขับรถเก๋งคันดังกล่าวซึ่งเป็นของนายสมศักดิ์ แสวงหา อายุ 30 ปี แฟนหนุ่ม ออกมาจากบ้านเพียงลำพังคนเดียวเพื่อไปซื้อข้าวแกงที่บริเวณควนถ้ำกอง ริมถนนเพชรเกษม ตำบลวังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ขณะที่ตนจอดรถไว้ริมถนนใกล้กับหน้าร้านค้าแล้วลงไปซื้อข้าวแกง และเมื่อตนซื้อเสร็จแล้วได้เดินกลับมาที่รถเก๋งเพื่อขับกลับบ้าน ปรากฏว่าได้มีรถกระบะมิตซูบิชิ สีเทา-ดำ สี่ประตู ทะเบียน 7230 ภูเก็ต ที่ตนใช้มือถือแอบถ่ายภาพไว้ได้ภายหลัง ขับมาจอดอยู่ด้านซ้ายของรถเก๋งตน เมื่อตนเปิดประตูรถเก๋งเพื่อจะขับกลับไปที่บ้าน ปรากฏว่ารถกระบะคันดังกล่าวได้ขับมาด้านหน้ารถเก๋งตนแล้วถอยมาปิดหน้าไว้ไม่ให้ตนขับออกไป

860947

จากนั้นมีชายฉกรรจ์คนขับรถกระบะใส่เสื้อสีขาวเดินมาหา บอกว่าเป็นพนักงานไฟแนนซ์จะขอหยึดรถที่ตนผ่อนส่งมาแล้วหลายงวดพร้อมกับปิดเครื่องดึงเอากุญแจรถเก๋งออกไป นอกจากนั้นยังมชายฉกรจ์อีก 2 คน มาเปิดประตูรถเก๋งด้านซ้ายแล้วพูดจาข่มขู่ให้ตนกลัว แล้วชายคนเสื้อขาวให้ตนออกมาจากรถแล้วเอากุญแจสตาร์ทเครื่องรถเก๋งรีบขับออกไปทางช่องยู เทริน ย้อนกลับรถไปทางสี่แยกปฐมพรในช่องทางขาล่อง โดยมีชายฉกรรจ์อีก 2 คน วิ่งไปขึ้นรถกระบะรีบขับตามไปติด ๆ

เมื่อตนหายจากตกใจรีบโทรศัพท์ไปหานายสมศักดิ์แฟนหนุ่มว่ารถเก๋งถูกพนักงานไฟแนนซ์มายึดเอาไปแล้ว แต่แฟนตอบกลับมาว่ารถตนผ่อนใกล้หมดแล้วไม่ได้ค้างไฟแนนซ์แต่อย่างใด และเมื่อแฟนโทรศัพท์ไปสอบถามไฟแนนซ์ที่ผ่อนชำระค่างวดอยู่ ก็บอกว่าไม่ใช่พวกตนไม่เกี่ยวข้องกันและให้ตนไปแจ้งความที่โรงพัก เบื้องต้นได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองชุมพร เพราะต้องรอตรวจสอบหลักฐานต่าง ๆ ให้ชัดเจน ประกอบกับเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ กระทั่งวันจันทร์ได้รับการยืนยันจากสำนักงานใหญ่บริษัทไฟแนนซ์ บุคคลทั้ง 3 คนที่ไปยึดรถไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทไฟแนนซ์แต่อย่างใด

669988

นายสมศักดิ์ เจ้าของรถเก๋ง บอกว่า ได้นำภาพถ่ายทะเบียนรถคันก่อเหตุและภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่ขอมาจากร้านค้าไปมอบให้กับตำรวจชุดสืบสวนและทหารด่านตรวจ จปร.เขตรอยต่อชุมพร-ระนอง ช่วยตรวจสอบจนทราบชื่อผู้ครอบครองรถกระบะคันดังกล่าวว่าเป็นผู้หญิงและรู้ตัวชายฉกรรจ์ผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คน ว่าอยู่ในพื้นที่ จ.ระนอง จนกระทั่งมีคนโทรศัพท์มาหาตนบอกว่าเป็นการเข้าใจผิดและให้ตนพูดคุยกับชายคนหนึ่งอ้างเป็นผู้กองอยู่ที่โรงพักแห่งหนึ่งใน จ.ระนอง บอ กว่าเขาเป็นคนกลางขอเจรจาให้ถอนแจ้งความแล้วจะนำรถไปคืนให้ ซึ่งตนก็ไม่ได้รับปากอะไร กระทั่งตอนบ่ายวันจันทร์ที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่าน มีคนโทรศัพท์ให้ตนไปเอารถเก๋งคืนโดยจอดทิ้งไว้ที่ริมเอเชีย 41 ถนนตรงข้ามกับค่าย ตชด.41.ชุมพร ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 10 กิโลเมตร สภาพรถไม่มีความเสียหายทรัพย์สินอยู่ครบ แต่ป้ายทะเบียนมีร่องรอยถูกถอดออกขันน๊อตไว้หลวมๆ โดยเฉพาะกรอบใส่ป้ายทะเบียนหน้าไม่ใช่ของตนลักษณะใส่สับเปลี่ยนผิดอันมาให้กับรถของตน

302348

จากการตรวจสอบข้อมูลทราบว่าที่ผ่านมาจะมีแก๊งคนร้ายลักษณะนี้ที่รู้ประวัติข้อมูลผู้คอบครองรถยนต์และบางทีก็ใช้วิธีเดาสุ่มจากรถทะเบียนต่างจังหวัดแล้วทำทีเป็นพนักงานไฟแนนซ์ว่ามาตรวจสอบตรวจยึดรถยนต์ไม่ผ่อนจ่ายหรือรถหนีไฟแนนซ์ หากเจอเป็นรถยนต์ในลักษณะดังกล่าวจริงผู้ครอบครองก็จะไม่สนใจติดตาม แล้วแก๊งคนร้ายพวกนี้ก็จะนำรถคันนั้นไปจำนำเถื่อนหรือไม่ก็ส่งไปขายยังชายแดนประเทศเพื่อนบ้านฝั่ง จ.ระนอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ตำรวจสอบปากคำผู้เสียหายอยู่นั้นได้มีคนโทรศัพท์เข้ามาหานายสมศักดิ์เจ้าของรถเก๋ง ซึ่งนายสมศักดิ์จำหมายเลขโทรศัพท์ได้ว่าเป็น 1 ใน 3 ชายฉกรรจ์ เคยติดต่อมาหลายครั้งขอเคลียร์อ้างเป็นการเข้าใจผิด นายสมศักดิ์จึงได้ส่งโทรศัพท์ให้กับ พ.ต.อ.ชนินทร์ ณรงค์น้อย ผก.สภ.เมืองชุมพร และได้พูดคุยซักถามเก็บข้อมูลกับชายคนดังกล่าวประมาณ 1 นาที กระทั่งถูกตัดสายทิ้งไป นอกจากนั้นยังมีพนักงานไฟแนนซ์ตัวจริงโทรเข้ามาด้วยและได้พูดคุยกับ พ.ต.อ.ชนินทร์ ว่าชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คน ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทไฟแนนซ์แต่อย่างใด

379207

พ.ต.อ.ชนินทร์ ณรงค์น้อย ผกก.สภ.เมืองชุมพร บอกว่า จากการดูหลักฐานภาพถ่ายกล้องวงจรปิด น่าจะเป็นการใช้อุบายในการชิงทรัพย์ ลักทรัพย์ ส่วนจะเข้าข่ายปล้นทรัพย์หรือไม่จะต้องรอผลการสอบสวนรวบรวมพยานหลัก ฐานที่ชัดเจนอีกครั้งว่าจะเข้าประกอบความผิดข้อหาใด คาดว่าจะสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาแก๊งนี้ได้ในเร็ว ๆ นี้แน่นอน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส