จับพยาบาลและอดีตผดุงครรภ์ ฉีดยารักษา-จ่ายยา ผิดกฏหมาย โทษคุก 5 ปี

9 มิ.ย. 63

วันที่ 9 มิ.ย.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจและสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก แสดงตนเข้าจับกุม 2 คลินิกที่เปิดให้การรักษาพยาบาลและจ่ายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต ในตลาดทรัพย์ไพรวัลย์ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก คือ นางจิระพันธุ์ ผลภาษี อดีตผดุงครรภ์สถานีอนามัย จาก อภิญญาคลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ และน.ส.ณัฐยาภรณ์ แย้มขะมัง พยาบาลวิชาชีพ จากคลินิกณัฐ การพยาบาลและการผดุงครรภ์ หลังจากได้ส่งสายล่อซื้อโดยใช้บริการคลินิก ซื้อยาและตรวจรักษาโรค จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าแสดงตน ซึ่งขณะนั้นมีประชาชนเข้ามาใช้บริการตรวจรักษาและซื้อยาอยู่ด้วย

500638

จึงทำการจับกุมและตรวจยึดของกลางเป็นยาสเตียรอยด์ชนิดฉีดและเม็ด ยาฉีด ยารักษาโรคเรื้อรัง และยาชุด หรือยาแผนปัจจุบันหลายชนิดจัดรวมเตรียมไว้ในซองเดียวกันหลายรายการ ซึ่งเป็นยาอันตรายจำนวนมากที่สถานพยาบาลประเภทคลินิก ไม่สามารถจ่ายยาเหล่านี้ได้ เพราะอาจเป็นอันตรายแก่สุขภาพ หากไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัยโรคและสั่งจ่ายยาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

946400

พ.ต.ท.เจษฎา แก้วจาเครือ สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 6 บอกว่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรรมพิเศษตำรวจภูธรภาค 6 เข้าจับกุม ผู้กระทำความผิดใช้คลินิกผดุงครรภ์จำนวน 2 แห่ง คือ คลินิกณัฐ การพยาบาลและการผดุงครรภ์ และอภิญญาคลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ เปิดให้บริการตรวจรักษาโรคและขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากจากได้รับการประสานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก นายแพทย์ไกรสุข เพชระบูรณิน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก และ เภสัชกรหญิงอัปสร บุญยัง ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก แจ้งว่า ได้รับแจ้งจากประชาชนว่าที่ตลาดทรัพย์ไพรวัลย์ มีคลินิกเปิดรักษาพยาบาล มีการฉีดยาและจ่ายยาชุด โดยผิดกฎหมาย จึงสั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรรมพิเศษตำรวจภูธรภาค 6 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับ เภสัชกรสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก เข้าร่วมติดตามพฤติกรรมและจับกุม ดังกล่าว

994591

689003

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงควบคุมตัวผู้ที่ทำหน้าที่ตรวจรักษาและจ่ายยาทั้งสองแห่ง นำส่งดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรแก่งโสภา ในข้อกล่าวหา ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และขายยาชุด ซึ่งมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

912102

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส