จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Chalida Chali Tanomklin โพสต์ภาพและคลิปวิดีโอขณะเกิดเหตุ ตำรวจขี่จักรยานยนต์ไล่กวดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยคดียาเสพติด จนผู้ขี่หนีไปชนกับลุงคนหนึ่งที่ริมถนนจนบาดเจ็บหนัก และผู้หลบหนีตำรวจก็เสียชีวิต โพสต์ระบุข้อความว่า “มีคำถาม. คุณลุงโดนรถชน จากการไล่มอเตอร์ไซค์ของตำรวจ คนขับเสียชีวิตไปแล้ว เหตุการณ์นี้ใครต้องรับผิดชอบ #ตอนนี้คุณลุงรักษาตัวที่รพ.ราชวิถี”
สำหรับผู้เสียชีวิตคือนายธีรพรรณ อายุ 23 ปี มีบาดแผลเป็นรอยฉีกขาดที่ใบหน้าด้านซ้าย คางแตก ดั้งหัก ขาทั้ง 2 ข้างมีรอยถลอก
ส่วนผู้บาดเจ็บคือนายสำอางค์ อายุ 67 ปี ขาขวาหัก 4 ท่อน แขนขวามีรอยถลอก และศีรษะมีแผลเปิดขนาดใหญ่ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 63 เวลาประมาณ 20.45 น.
วันที่ 6 มิ.ย. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ บริเวณหน้าร้านหมูกระทะ ถ.โชคชัย 4 เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ สภาพที่เกิดเหตุเป็นถนนคอนกรีต 2 เลน
นายเจิด (นามสมมติ) ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่าช่วงเกิดเหตุ ระหว่างที่ตนเองกำลังเตรียมเก็บข้าวของจะปิดร้าน ก็เห็นวัยรุ่นผู้ชายคนหนึ่ง ขับรถมอเตอไซต์ฮอนด้า PCX สีน้ำเงิน ขับหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความเร็วประมาณ 105 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย คนหนึ่งแต่งกายเครื่องแบบ อีกคนหนึ่งแต่งกายนอกเครื่องแบบ ขับรถมอเตอไซต์มาตามหลังมา
ชายที่ขับรถหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ตะโกนงว่า "เฮ้ย" จากนั้นก็ได้ขับรถชนนายสำอางค์ อายุ 67 ปี ที่กำลังจะเดินข้ามถนน ถูกชนร่างกระเด็น จากนั้นตนเองก็เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย ดูร่างชายคนดังกล่าว จากการสังเกต ตนคิดว่าชายคนที่ขับรถหลบหนีตำรวจยังไม่เสียชีวิตืันที แต่อาจสลบไปเท่านั้น น่าจะเสียชีวิตหลังจากนั้น
นางสมศรี แก้วทิ้ง ภรรยาของนายสำอางค์ ผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า ตอนนี้อาการบาดเจ็บของสามีดีขึ้นตามลำดับ อาการทั่วไปยังคงมีอาการเบลอหลง ๆ ลืม ๆ อยู่บ้าง สามีถามตนเองว่าทำไมปวดหัว ทำไมได้มานอนโรงพยาบาล ซึ่งตนบอกสามีว่าประสบอุบัติเหตุถูกรถชน ซึ่งสามีของตนเองจำอะไรไม่ได้
สำหรับสามีตนบาดเจ็บที่ขาขวาหัก 4 ท่อน แขนขวามีรอยถลอก และศีรษะมีแผลเปิดขนาดใหญ่ ตอนเกิดเหตุสามีกำลังจะเดินข้ามฝั่งถนนเพื่อกลับเข้าบ้าน หลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้พูดถึงการเยียวยาหรือรับผิดชอบแต่อย่างใด ตนก็คิดว่าเขาน่าจะปัดความผิดให้กับคนเสียชีวิตที่เป็นคนชนสามีตน แต่ส่วนตัวตนคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจเป็นฝ่ายผิดหรือไม่ เนื่องจากถนนที่เกิดเหตุเป็นเขตชุมชน แต่เจ้าหน้าที่มาขับไล่ตามจับคนทั้งยังขับรถด้วยความเร็ว โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของคนอื่น
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่ศาลา 4 วัดสาครสุ่มประชาสรรค์ กรุงเทพฯ สถานที่ตั้งศพของนายธีรพรรณ อายุ 23 ปี บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
นางวิไลวรรณ จันทร์สุเทพ แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุนั้น ลูกชายของตนได้ขับรถมอเตอร์ไซต์ของน้องชายเพื่อไปหาแฟนสาว ย่านลาดพร้าว ก่อนที่ลูกชายจะออกไปหาแฟนในวันเกิดเหตุ ตนก็สังเกตว่าใบหน้าลูกชายจะเศร้าหมองผิดปกติ กระทั่งมาเกิดเหตุร้าย ลูกชายเป็นคนขยันทำมาหากิน เป็นเสาหลักของครอบครัว และเป็นลูกชายคนโต
กระทั่งผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ตนก็ได้มาทราบข่าวจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยว่า ลูกชายของตนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต จากที่ตนได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นภาพที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งลากขาลูกชายออกมาจากใต้ท้องรถยนต์ ตนเห็นภาพนี้แล้วตนก็รู้สึกไม่ดี รู้สึกติดใจกับการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลูกชายตนจะบาดเจ็บหรือจะเสียชีวิตก็ตาม ทำไมเจ้าหน้าที่ต้องลากร่างลูกชายด้วย ตอนนั้นลูกชายตนอาจยังมีชีวิตอยู่ก็ได้ ทำไมเขาไม่รอเจ้าหน้าที่แพทย์หรือกู้ภัยให้มาถึงก่อน
ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ลูกชายเคยเสพยาเสพติด และพ้นโทษมาประมาณ 1 ปี แต่ตอนเกิดเหตุตนก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์เป็นมาอย่างไร ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงตามไล่ล่าตัวลูกชาย แต่ทำไมตอนเจ้าหน้าที่กู้ภัยค้นตัวลูกชายในที่เกิดเหตุ กลับไม่พบยาเสพติด
ส่วนทางด้านนายสำอางค์ ผู้บาดเจ็บ ตนก็ไม่ได้ปล่อยปะละเลย ได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้บาดเจ็บแล้ว แต่ตนขอให้จบงานศพลูกชายก่อน หลังจากนี้ถ้าให้ตนช่วยเลือ ตนก็ยินดี ทั้งนี้ ตนไม่ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ คนที่ขับรถตามลูกชายตน และยังไม่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อมาพูดคุย
พ.ต.ต.ธีวร์ราธิป ชูดวง สว.(สอบสวน) สน.โชคชัย ให้ข้อมูลว่า ได้สอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ และได้สอบถามข้อมูลกับตำรวจทั้ง 2 นาย ทราบว่าเป็นตำรวจของชุดป้องกันและปราบปราม วันเกิดเหตุนั้น ตำรวจทั้ง 2 นายได้ออกตระเวน กระทั่งไปเจอกับนายธีรพรรณ ผู้เสียชีวิต อยู่ในท่าทางมีพิรุจ จึงได้จะเข้าขอตรวจค้น แต่นายธีรพรรณได้ขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ขับตามกระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุ ส่วนประเด็นที่ญาตผู้ิเสียชีวิตคาใจว่ามีเจ้าหน้าลากขาของผู้เสียชีวิตนั้น ตอนเกิดเหตุร่างของนายธีรพรรณได้เข้าไปอยู่ในใต้ท้องรถยนต์ เจ้าหน้าที่มีความประสงค์ดี เกรงว่ารถยนต์จะถอยมาทับร่างนายธีรพรรณ และจะได้รับอันตราย จึงไปลากร่างนายธีรพรรณออกมา
เบื้องต้นจากการชันสูตรศพของนายธีรพรรณ พบว่ามีสารเฟตามีนอยู่ในร่างกาย ส่วนเรื่องที่นายธีรพรรณจะครอบครองยาเสพติดในวันเกิดเหตุหรือไม่นั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบยาเสพติดที่ตัวผู้ตาย ซึ่งต้องรอผลตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
