กระบะซิ่งชนบ้านไฟคลอกร่างดับ เมียไม่เชื่อจงใจเผา แต่กราบเท้าลาพี่ก่อนตาย (คลิป)

จากกรณีเมื่อคืนวันที่ 5 มิ.ย. 63 เวลา 20.20 น. เกิดเหตุมีรถยนต์กระบะพุ่งชนบ้านพักในพื้นที่ หมู่ 5 บ้านคลองไพร ต.บ้านโภชน์ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ จนเกิดไฟลุกไหม้ภายในรถยนต์

ส่งผลทำให้นายจันทร มั่นเหมาะ อายุ 53 ปี คนขับรถและเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวเสียชีวิตคาซากรถ สภาพศพถูกไฟไหม้จนเกรียม เสียชีวิตอยู่ในสภาพมือจับอยู่ที่พวงมาลัยรถ

อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ช่วยกันใช้เหล็กชะแลงงัดประตูรถที่ล็อกอยู่ทุกบาน นำคนขับรถออกมาชันสูตร พบเนื้อตัวถูกไฟไหม้เกือบทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงนำศพให้ญาตินำไปตั้งบำเพ็ญกุศลประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดเขาดิน อ.หนองไผ่ เนื่องจากภรรยาและญาติไม่ติดใจถึงสาเหตุการตาย

ล่าสุด วันที่ 6 มิ.ย. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่บ้านที่เกิดเหตุ หมู่ 5 บ้านคลองไพร ต.บ้านโภชน์ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ลักษณะเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ 2 ชั้น พบรถกระบะยี่ห้อ นิสสัน นาวาร่า สีส้ม หมายเลขทะเบียน 2 ฒค 664 กรุงเทพฯ พุ่งชนฝาด้านหน้าบ้าน ซึ่งเป็นอิฐบล็อกพังเสียหาย หัวของรถยนต์แนบติดตัวบ้าน

เบาะคนขับอยู่ในลักษณะปรับเบาะเอนลงไปด้านหลัง สภาพภายในรถถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด ในรถมีแกลลอนน้ำมันสีเขียว 1 ใบ และมีซากผ้าห่มถูกไฟไหม้ดำเป็นตอคะโก

น.ส.พิมพ์พา อายุ 46 ปี ภรรยาผู้ตาย เล่าว่า หลังจากสามีเลิกงาน ตนได้โทรศัพท์ไปหาสามีบอกว่านั่งดื่มเหล้าอยู่ที่ร้านค้าใกล้บ้าน ไม่นานก็กลับมาด้วยอาการเมา ตนถามถึงรถยนต์อีกคันว่าหายไปไหน เพราะปกติที่บ้านจะมีรถกระบะ 2 คัน คันสีส้มเป็นรถของตนจอดอยู่บ้านไม่ค่อยได้ใช้งาน ส่วนอีกคันที่ใช้บ่อยเป็นรถกระบะสีเขียว สามีบอกว่ารถจอดไว้ที่ทำงาน และจะขับคันสีส้มไปเอารถสีเขียวที่จอดไว้ที่ทำงาน

ต่อมา สามีได้สตาร์ตรถพร้อมถอยหลังรถออกไป ได้ยินเสียงรถขับพุ่งชนบ้าน ตนไม่แน่ใจว่าสามีตั้งใจถอยรถไปตั้งหลักก่อนชน หรือถอยปกติ แต่ใส่เกียร์ผิด รถพุ่งชนบ้านอย่างจัง ก่อนจะเกิดไฟลุกท่วมรถรวดเร็วมาก ซึ่งประตูรถล็อกทุกบาน ตนไปตามคนมาช่วยแต่ไม่ทันแล้ว ส่วนแกลลอนน้ำมันสีเขียวที่อยู่ในรถ เพิ่งรู้ตอนที่ตำรวจมาตรวจพิสูจน์หลักฐานมาถาม ถึงรู้ว่าในรถมีแกลอนน้ำมันอยู่ แต่ปกติบ้านตนจะซื้อน้ำมันเบนซินใส่แกลลอน 5 ลิตรไว้อยู่แล้ว สำรองไว้เติมรถจักรยานยนต์ 2 คัน จึงไม่เอะใจว่าสามีจะมาใช้ก่อเหตุ

ทั้งนี้ ตอนที่เกิดเหตุ ที่ข่าวออกไปว่าสามีใช้น้ำมันราดตัวเองและจุดไฟเผาก่อนขับรถพุ่งชนนั้น ตนยืนยันว่าไม่มีใครเห็น แต่คิดว่าสามีคงตั้งใจมาก่อนแล้ว เพราะดูแล้วก็ไม่ใช่อุบัติเหตุ น่าจะเตรียมการไว้ ก่อนหน้านี้ 3-4 วัน สามีจะดื่มเหล้าตลอดทั้งที่ไม่เคยดื่ม คงมีเรื่องเครียด ที่ผ่านมา ตนกับสามีไม่มีเรื่องทะเลาะกัน สามีเป็นคนใจดีมาก แต่เขามักบ่นว่าเหนื่อย มีโรคประจำตัว ทั้งหัวใจและเบาหวาน เมื่อ 2 เดือนก่อนก็ตกหลังคาแขนหัก สะโพกหลุด อาการเหมือนคนพิการต้องใช้ไม้ค้ำเดิน ทำงานได้ไม่เต็มที่

นางเจริญ (นามสมมติ) อายุ 61 ปี พี่สาวผู้เสียชีวิต บอกว่า น้องชายเป็นคนใจดี อารมณ์ดี ทั้งลูกทั้งหลานดูแลดีหมด เกิดมาในชีวิตที่ตนเองเลี้ยงน้องชายคนนี้มา เหล้าบุหรี่ไม่เคยไปแตะต้อง ทำแต่งาน ส่วนที่บ้านของภรรยาที่เกิดเหตุ เป็นภรรยาใหม่เพิ่งอยู่กินกับน้องชายตนได้ 5 ปี เท่าที่ทราบน้องชายมาบ่นให้ฟังว่ามีความเครียดเรื่องเงิน เรื่องครอบครัว ตนจึงได้แต่ปลอบใจ

ก่อนเกิดเหตุ น้องชายแวะมาหาที่บ้านตอนเที่ยงวัน บ่นว่าเครียดจัง น้อยใจ เรื่องนั้นเรื่องนี้ ตนก็ได้แต่บอกว่า "ป้ายังอยู่ ป้ายังไม่ตาย ขอให้น้องกลับมาอยู่กับป้า อย่าไปคิดสั้น" ซึ่งน้องชายก้มกราบเท้าตน ตนตกใจมาก แต่ยังไม่เอะใจ เพราะน้องเคยมากราบเท้าขอพรและขอบคุณที่ตนดูแลเขาเป็นอย่างดี ตนเปรียบเทียบเหมือนแม่คนที่สองของน้องชาย

ส่วนบ้านภรรยา ตนไม่คิดติดใจถ้ายังเห็นทางตนเป็นพี่เป็นน้องก็นับถือกันเหมือนเดิม หากถ้าน้องชายเสียชีวิตเพราะน้อยใจภรรยา น้องชายคงทำกรรมร่วมกันมา ใครทำอะไรก็จะได้แบบนั้น