กรณีศึกระหว่างเพื่อนบ้านปะทะคารมเดือดถึงขั้นยกตีนให้กัน ชนวนเหตุจากควันไก่ย่างเข้าบ้านจนทำแม่ป่วย ก่อนจะไปแจ้งความที่ สภ.ธัญบุรี โดยตำรวจก็ได้มาตักเตือนไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันที่ 1 มิ.ย.63 น.ส.ทองหยอด เย็นใจ อายุ 36 ปี ผู้โพสต์คลิป บอกว่า ตนอยู่บ้านหลังนี้10 ปี ส่วนคู่กรณีเป็นบ้านเช่า ซึ่งมาเช่าบ้านอยู่ในโครงการดังกล่าว และได้ทำการก่อไฟย่างไก่ขาย โดยที่ไม่มีปล่องดูดควัน ทำให้ควันลอยมาตามลม และส่งกลิ่นเหม็นเข้ามาในบ้าน ทำให้เกิดความเดือดร้อน อีกทั้งในบ้านมีแม่อายุ 62 ปี ป่วยมีโรคประจำตัวอยู่หลายโรค ทั้งโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ กลิ่นควันไฟและกลิ่นไก่ย่าง ลอยเข้าบ้านทำให้ได้รับมลภาวะทางกลิ่นหายใจไม่ออก ปวดศรีษะ แสบจมูก
ในฐานะลูกไม่อยากเห็นแม่ต้องทนทุกข์ทรมาน เพราะมลภาวะทางกลิ่น จึงแจ้งตำรวจให้เข้ามาดำเนินการตักเตือนคู่กรณีให้ทำปล่องดูดควัน คู่กรณีจึงเจ็บแค้น และโกรธแค้นมาก จึงมาด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย พอแม่ตนได้ยินเสียงด่าอยู่ที่หน้าบ้าน แม่ก็เดินออกมาดู และถามหญิงในคลิปดี ๆ ว่ามีเรื่องอะไรกัน แต่หญิงในคลิปด่าแม่แบบหยาบคาย และล่าสุดฟ้องศาลเรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการนัดฟ้องอีกครั้งในวันที่ 13 ส.ค.63 แต่กลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงนำเรื่องราวมาโพสต์ลงสังคมออนไลน์
"ตอนแรกขายขนมใส่ไส้อยู่ดี ๆ พอช่วงก่อเกิดเหตุต้นเดือนเมษายน อยู่ดี ๆ บ้านหลังนี้เปลี่ยนเป็นขายไก่ปิ้ง อีกทั้งยังเคยแจ้งประธานหมู่บ้าน ให้จัดการแก้ไขตักเตือน แต่ประธานไม่ทำอะไร จึงต้องแจ้งความดำเนินคดี เพราะพวกเรายอมไม่ได้ และถ้าไม่แจ้งตำรวจ บ้านคู่กรณีคงย่างไก่ต่อ" นางทองหยอด กล่าว
ด้าน น.ส.รัตนา สุทัศน์ ณ อยุธยา อายุ 27 ปี หญิงคู่กรณี บอกว่า อยากให้สังคมฟังความอีกฝ่าย ก่อนจะไปยกเท้ามีที่มาที่ไป คือ ตนเพิ่งย้ายมาอยู่ 4 เดือน ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ทำขนมใส่ไส้ขาย แต่มาทำช่วงโควิด-19 ทำให้ส่งขนมตามร้านไม่ได้ เนื่องจากติดมาตรการ ไม่ให้ลูกค้านั่งตามร้าน จึงหันมาขายไก่ย่างหารายได้ทดแทน ซึ่งก่อนจะมีคลิปนี้ วันที่ 26 เม.ย. ตำรวจมาเตือนว่าทำปล่องดูดควัน จึงตกลงจะทำปล่องดูดควันให้ ทั้งนี้ฝ่ายน.ส.ทองหยอด ยกเท้ายั่วยุทำให้โมโห พร้อมกับด่าทออย่างหยาบคาย ทำให้ตนต้องยกเท่าสวนกลับ
ทั้งนี้ตนยืนยันว่ายอมขอโทษ และยอมเลิกขายย่างไก่แล้ว แต่ไม่ยอมน.ส.ทองหยอดจะฟ้องอย่างเดียว ทั้งที่บ้านอยู่ตรงข้ามกันห่างกันแค่ 20 เมตรเท่านั้นแทนที่จะมาคุยกันดี ๆ แต่กลับแจ้งความ จากนี้จะดำเนินการทางคดีกลับเช่นกัน โดยจะไม่เคลียร์ใจและไม่ปรับความเข้าใจใด ๆ อีก
ขณะที่ นางสมพร เชื้อบุญ อายุ 50 ปี แม่ค้าร้าน บอกว่า สาเหตุของเรื่องนี้น่าจะคุยกันได้ มองว่าควันย่างไก่ ของน.ส.รัตนา ไม่ได้เยอะแยะมากมาย อีกทั้งเตาย่างก็เป็นเตาปกติ ไม่ได้ใหญ่โตอลังการ จึงควรจะเอื้ออาทรเห็นอกเห็นใจกัน เพราะต้องอยู่ร่วมกันแบบนี้
ส่วน น.ส.ยิ้ม อายุ 33 ปี เพื่อนบ้านอีกราย ยืนยันว่า ควันไก่ของน.ส.รัตนา ไม่ได้ลอยมาถึงบ้านตนและบ้านนางทองหยอดแม้แต่น้อยแต่นางทองหยอด ชอบมีปัญหากับทุกบ้านที่เป็นบ้านเช่า และน.ส.รัตนา ก็ไม่ได้ย่างไก่ทุกวัน แต่อีกฝ่ายจ้องหาเรื่องตลอด ส่วนตนเพิ่งย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้ ช่วงเดือนก.พ. ที่ผ่านมา ตนเคยเจอนางทองหยอด กระทำในลักษณะเดียวกับ น.ส.รัตนา เหมือนกัน โดยแจ้งความเอาไว้แล้วเช่นกัน
โดยเหตุการณ์วันนั้นเพื่อนแวะมาหาที่บ้านและจอดรถหน้าบ้าน จากนั้นนางทองหยิบแม่ของนางทองหยอด ออกมาด่าเพื่อนตน ด้วยคำหยาบคาย และยังพูดว่า "อีบ้านเช่า ไม่มีงานทำ พวกมึงทำงานอะไรกัน ทำไมถึงมีรถมาจอด เกะกะบ้านคนอื่น จะแจ้งความ" ซึ่งไม่เป็นความจริง