นายช่างเครื่องส่ง คลั่งคว้าปืนไล่ยิง ผอ.สวท.พิษณุโลก-เพื่อนร่วมงาน ดับ 3 ศพ สาหัส 1 ราย

27 พ.ค. 63

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 พ.ค.63 ร.ต.อ.อำนาจ อ่อนปาน รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย ภายในสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดพิษณุโลก (สวท.พิษณุโลก) ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบนายวิม สอนสุด อายุ 59 ปี นายช่างไฟฟ้าชำนาญงานตำแหน่งนายช่างเครื่องส่ง ที่กำลังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. และ.38 รวม 2 กระบอก ซึ่งเป็นอาวุธมีทะเบียนของผู้ก่อเหตุไล่ยิงเจ้าหน้าที่ภายในสวท.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามพูดเกลี้ยกล่อมจนยอมมอบตัวในที่สุด ก่อนควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์พร้อมกับสอบปากคำเบื้องต้น

795360

ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 3 ราย ประกอบด้วยนายสานิตย์ บุตรมางกูล อายุ 60 ปี ผอ.สวท.พิษณุโลก มีบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้าตามร่างกายจำนวน 9 แห่ง และถูกอาวุธมีดแทงอีก 6 แผล นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณป่าหญ้าด้านนอกหลังอาคาร นายจิรวุฒิ สุเมธเทพานันท์ อายุ 47 ปี นายช่างไฟฟ้าอาวุโส เสียชีวิตอยู่บริเวณกลางห้องโถงในอาคารสวท. ถูกอาวุธปืนจ่อยิงที่ศีรษะ 2 นัดสีข้างด้านซ้าย 1 นัด นอนจมกองเลือด และนายภูมิศรัณญ์ พันธ์ภูมิ อายุ 55 ปี นายช่างอาวุโส ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่แผ่นหลัง 5 นัดเสียชีวิตในสภาพนั่งฟุบแอบหลังตู้ไฟอยู่ภายในห้องจัดรายการวิทยุ

587961

นอกจากนี้ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย คือนายปรุง จันทร์แดง อายุ 56 ปี ช่างเครื่องส่ง ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ปากอาการสาหัส เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

278559

พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผบช.ภ.6 เปิดเผยว่า จากการสอบถามพยานแวดล้อมทราบว่า นายวิม ผู้ก่อเหตุ มีความโกรธเคืองกับนายจิรวุฒิ นายช่างไฟฟ้าอาวุโส ก่อนหน้านี้เรื่องเคยถูกดุว่าในเรื่องการทำงาน จึงมีความคับแค้นใจส่วนตัวเลยมีการเตรียมการโดยเตรียมทั้งอาวุธปืนและอาวุธมีดมา ซึ่งอาวุธปืนนั้นมีทะเบียนถูกต้อง โดยเข้ามาทำงานตั้งแต่ช่วงเช้าตามปกติ เมื่อมาเจอกับนายจิรวุฒิ จึงใช้อาวุธปืนจ่อยิงใส่ศีรษะจนเสียชีวิต

จากนั้นใช้อาวุธปืนไล่ยิงนายภูมิศรัณญ์ ที่กำลังวิ่งหลบหนีเข้าไปในห้องจัดรายการ โดยที่มีเจ้าหน้าที่นักจัดรายการกำลังจัดรายการวิทยุอยู่ ก่อนเดินเข้าไปในห้องของนายสานิตย์ ผอ.สวท.พิษณุโลก เพื่อใช้อาวุธปืนไล่ยิงจนต้องกระโดดหนีออกทางหน้าต่างด้านหลัง ซึ่งมือปืนวิ่งติดตามไปมีการต่อสู้กันจนถูกกระหน่ำยิงถึง 9 นัด นอกจากนี้ยังถูกอาวุธมีดแทงตามร่างกายเสียชีวิตในที่สุด เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตื่นตระหนกตกใจให้กับผู้อยู่ในเหตุการณ์เป็นอย่างมาก ต่างพากันหลบกระสุนปืนและหนีตายเอาชีวิตรอด

692226

จากนั้นผู้ก่อเหตุจึงยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนขนาด 9 มม. และอาวุธปืนขนาด.38 มม. มีดหมอ 1 เล่ม ที่ใช้ก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับนำตัวผู้ก่อเหตุไปสอบสวนหาสาเหตุแรงจูงใจที่แท้จริงพร้อม ทั้งเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดูแลตัวผู้ก่อเหตุอย่างใกล้ชิด ระมัดระวังผู้ต้องหาฆ่าตัวตายในระหว่างการควบคุมของเจ้าหน้าที่

ด้าน นายวัชระ ธีระสาโรช อายุ 59 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย บอกว่า รู้จักกับผู้ก่อเหตุและเป็นเพื่อนร่วมงานของผู้ก่อเหตุทราบว่าตัวผู้ก่อเหตุต้องกินยาระงับประสาทมาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าระยะหลังมีอาการขาดยาหรือไม่ ส่วนมูลเหตุน่าจะเกิดจากความเครียดเรื่องบ้านพักข้าราชการ เพราะก่อนหน้านี้นายสานิตย์ ผอ.สวท. เรียกเจ้าหน้าที่ประชุมเรื่องบ้านพักข้าราชการที่จะของบประมาณมาก่อสร้างใหม่ ส่วนตัวผู้ก่อเหตุอยู่บ้านพักหลังเก่าและเป็นคนชอบเก็บของเก่าไว้เพื่อรอขายเป็นจำนวนมาก จึงต้องพูดคุยให้นำของเก่าย้ายออกไปจากบ้านพักหลังเดิม เพราะต้องเตรียมรื้อถอนบ้านพัก ผู้ก่อเหตุจึงจำเป็นต้องย้ายมาอยู่ห้องพักภายในอาคารเครื่องส่งที่อยู่ด้านหลังสวท. แต่ยังไม่สามารถขนของเก่าที่เก็บจำนวนมากออกไปได้ พอมีคนเข้าไปว่ากล่าวตักเตือนจะทำให้โมโหถึงขึ้นใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าอยู่เป็นประจำ ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งในความเครียดและความกดดันในเรื่องการทำงาน จึงตัดสินใจก่อเหตุยิงเพื่อนร่วมงานจนเสียชีวิตดังกล่าว

เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหาความผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส