กองปราบฯ เผย หลักฐานชี้ชัด "เเม่ปุ๊ก" ก่อเหตุคนเดียว

27 พ.ค. 63

ความคืบหน้าคดีของนางสาวปุ๊ก ที่วางยาลูก 2 คน เพื่อหลอกรับเงินบริจาค หลังจากเมื่อวานนี้ตำรวจกองปราบปรามเชิญตัวครอบครัวของนางสาวปุ๊กมาสอบปากคำเพิ่มเติมนานกว่า 7 ชั่วโมง

ล่าสุดวันนี้ (27 พ.ค.63) พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผู้กำกับการ กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า หลังสอบปากคำแล้วเสร็จ นางสาวปุ๊กก็เดินทางกลับบ้านตามปกติ โดยยังไม่มีการแจ้งข้อหาใด ๆ โดยเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำในประเด็นเรื่องพฤติกรรมของนางสาวปุ๊ก ขณะเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้าน และเส้นทางการเงินบางส่วน ซึ่งครอบครัวของนางสาวปุ๊กก็ให้ความร่วมมือและให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมากขึ้น แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะเป็นเรื่องในสำนวนคดี

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง แม่ปุ๊ก
- เปิดใจเหยื่อแม่ปุ๊ก เชื่อน้องอมยิ้ม อิ่มบุญ ถูกวางยา
- แพทย์จับพิรุธ“แม่ปุ๊ก”วางยาฆ่าลูกจากผลการรักษา เหยื่อโผล่ถูกหลอกซื้อของสูญนับแสน
- สาวแฉ “แม่ปุ๊ก” วางยาลูก พิรุธรูปหน้าศพ “อมยิ้ม” ไม่รู้ชื่อ-วันเกิด เปิดแชตบอก “อิ่มบุญ” ก็ไม่ใช่ลูก

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า ณ. ขณะนี้ พยานหลักฐานยังเชื่อมโยงไปถึงนางสาวปุ๊กเพียงคนเดียว ยังไม่พบผู้อื่นร่วมกระทำความผิด แต่ตำรวจก็ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง และจำเป็นต้องสอบปากคำพยานและรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนจะสอบปากคำใครบ้าง ยังไม่ขอเปิดเผย ต้องพิจารณาสำนวนก่อน รวมถึงพยานหลายคนไม่พร้อมที่จะออกสื่อและมาให้ปากคำ

ส่วนประเด็นเงินที่โอนเข้าบัญชีหมุนเวียนกว่า 15 ล้านบาทนั้น เป็นยอดเงินจำนวนไม่มากทยอยเข้ามา และก็ถูกนางสาวปุ๊กทยอยถอนไปใช้จ่ายเรื่อย ๆ จนมียอดถอนออกเป็นจำนวนมาก ดังนั้นตำรวจจึงต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบ

ส่วนผลการตรวจดีเอ็นเอ (DNA) เบื้องต้น ก็ตรงตามที่เป็นข่าวออกไปก่อนหน้านี้ว่า ดีเอ็นเอ ยืนยันความเป็น แม่-ลูกโดยสายเลือดกับน้องอิ่มบุญ แต่ยังต้องรอผลอย่างเป็นทางการเพื่อนำมาประกอบสำนวน อย่างไรก็ตามยืนยันว่าผลดีเอ็นเอไม่มีผลกระทบต่อรูปคดี เพราะคดีนี้ไม่เกี่ยวว่าใคร จะเป็นบิดามารดาของใคร แต่เกี่ยวกับใครกระทำต่อเด็ก และใครได้รับผลประโยชน์มากกว่า

ส่วนกรณีที่พ่อของ นางสาวปุ๊ก ซึ่งมีศักดิ์เป็นตาของน้องอิ่มบุญ ระบุว่าหากผลการตรวจดีเอ็นเอออกมาว่า น้องอิ่มบุญ เป็นลูกของ นางสาวปุ๊กจริง จะขอรับเด็กกลับมาเลี้ยงดูด้วยตัวเอง

ด้านของ นางสุภัชชา สุทธิพล อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน เปิดเผยข้อมูลว่าตอนนี้ ตาของน้องอิ่มบุญ ยังไม่สามารถขอรับเด็กกลับไปดูแลเองได้ เพราะยังอยู่ในกระบวนการขั้นตอนการคุ้มครองของศาลอยู่ ซึ่งศาลได้มีคำสั่งไม่ให้มีบุคคลในครอบครัวหรือผู้ที่ถูกกล่าวหาเกี่ยวกับคดีนี้เข้าใกล้ชิดกับเด็ก โดยระหว่างนี้ศาลอนุญาตให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดูแลเด็ก ในระยะเวลา 6 เดือน แต่ถึงแม้จะไม่มีคำสั่งศาล น้องอิ่มบุญ ก็ยังไม่มีความพร้อม ที่จะกลับไปอยู่ในความดูแลของครอบครัว
นางสาวปุ๊กได้ขณะนี้ ขณะนี้สภาพจิตใจน้องดีขึ้นตามลำดับและมีพี่เลี้ยงคอยดูแลอยู่ตลอดเวลา

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ