ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าแล้วเผา 2 ศพ โดยผู้เสียชีวิตคือ นายอนุชา สุภานิตย์ อายุ 27 ปี หรือปูน และนายประเสริฐ ธรรมรักษา อายุ 20 ปี หรือบอย โดยมัดร่างติดกัน ทิ้งศพบริเวณชายป่าข้างบ่อขยะเทศบาลนครหาดใหญ่พื้นที่หมู่ 3 บ้านพรุจูด ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และศพถูกพบเมื่อช่วงค่ำวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่าน
กระทั่งเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนทราบตัวผู้ต้องสงสัย 3 คนหนึ่งในนั้นคือ นายวิรัตน์ แก้วทองพันธ์ อายุ 35 ปี หรือแวว ซึ่งอยู่ในกลุ่มค้ายาเสพติดเดียวกัน จึงนำตัวมาสอบสวนและให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าและจุดไฟเผาทั้งสองคนเพียงคนเดียว
แจ้งดำเนินคดี 4 ข้อหาคือโดยถูกแจ้ง 4 ข้อหาหนักคือ 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.ทำลายศพ หรือ ส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย 3.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน 4. ลักทรัพย์(รถจักรยานยนต์)หรือรับของโจร
สำหรับ นายวิรัตน์ หรือแวว เป็นเอเย่นต์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ต.ควนลัง เคยตกเป็นผู้ต้องหาอุ้มฆ่า นายภีรนัฐ ชุมทอง อายุ 22 ปี หรือโอ๊ด ซึ่งเป็นสายลับของตำรวจปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่เมื่อปี 60 โดยจับยัดท่อและเป็นศพเหลือเพียงโครงกระดูก แต่สู้คดีจนหลุด ซึ่งมีสาเหตุมาจากเรื่องยาเสพติดเช่นกัน กระทั่งหวนกลับมาค้ายาอีกครั้ง และมาก่อเหตุฆ่าแล้วเผา 2 ศพ
ล่าสุด วันที่ 26 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของผู้ก่อเหตุ พบกับนางอัน น้องสาวนายวิรัตน์ มือฆ่า บอกว่า ภายหลังมีข่าวออกพบ 2 ศพถูกเผาอำพรางคดี ตนกับพี่ชายนั่งดูไลฟ์สดด้วยกัน แต่พี่ชายทำทีให้ตนออกไปข้างนอกคล้ายไม่อยากให้ดูข่าวคดีดังกล่าว กระทั่งมาทราบว่าพี่ชายเป็นมือฆ่า 2 ศพ
ด้าน ย่าของนายวิรัตน์ มือฆ่า บอกว่า หลังจากที่นายวิรัตน์ ทำมาหากินเองได้ก็แยกไปอยู่อีกบ้านหนึ่ง เวลามาหาที่บ้านก็เพียงแค่เอาหญ้ามาให้วัวที่เลี้ยงไว้กินเท่านั้น ขนาดเข้ามาที่บ้านบางครั้งยังไม่แวะเข้ามาหาตนเลย ส่วนพ่อของนายวิรัตน์ ป่วยเป็นอัมพฤกษ์นอนติดเตียงทำอะไรไม่ได้ หลังทราบข่าวก็ไม่คิดว่าจะฆ่าคนขนาดนี้ แต่ก็ไม่แปลกเพราะก่อนหน้านี้มีประวัติฆ่าคนมาเหมือนกัน
ขณะที่ นายเอ็กซ์ เป็นอีกคนที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย บอกว่า ตนไม่ได้สนิทกับนายวิรัตน์เป็นการส่วนตัว และไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุในวันนั้น แต่ตนสนิทกับนายบ่าว จึงมักจะมานั่งดื่มกินที่บ้านนายบ่าวเป็นประจำ ซึ่งในเย็นวันเกิดเหตุก็เหมือนกัน ตนขับรถมานั่งดื่มกินที่ขนำหลังบ้านของนายบ่าว พร้อมด้วยนายบอย ผู้ตาย, นายปุณ ผู้ตาย และนายเอ จู่ ๆ นายวิรัตน์ชวนนายปุณไปไหนไม่รู้
พอใกล้รุ่งเช้า นายบอยได้ขับรถไปบ้านนายวิรัตน์ และนายเอได้ขับรถกลับบ้าน ส่วนตนนอนอยู่กับนายบ่าวที่ขนำจนเช้า พอเช้าก็ขับรถกลับบ้าน ตกเย็นก็มานั่งดื่มกินกันต่อ และมานั่งดูข่าวว่ามีการพบศพนายบอยและนายปุณถูกฆ่าตาย ตอนนั้นตกใจมากยังคุยกับนายบ่าวว่าผู้ก่อเหตุต้องเป็นนายวิรัตน์แน่ ๆ หลังจากรู้ข่าวตนจึงรีบกลับบ้านไป และไม่ได้ติดต่อใครอีกเลย จนกระทั้งวันรุ่งขึ้นตำรวจได้มาเชิญตัวให้ตนไปสอบปากคำ เพราะนายวิรัตน์ ให้การว่าตนยิงนายปุณ ซึ่งไม่เป็นความจริง
ส่วนนายบ่าว อีกผู้ต้องสงสัย บอกว่า หลังเกิดเหตุในใจลึก ๆ มั่นใจว่านายวิรัตน์ เป็นคนลงมือฆ่าแน่นอน โดยลวงผู้ตายทั้งสองคนมานั่งดื่มเหล้าก่อนลงมือ สาเหตุเกิดจากนายวิรัตน์เชื่อว่าแฟนสาวของตัวเองถูกผู้ตายทั้งสองข่มขืนในรีสอร์ทซึ่งไม่เป็นความจริง ก่อนจะป้ายความผิดมาให้ตนกับนายเอ็กซ์
พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้แถลงสรุปคดีนี้ โดยเปิดเผยว่า จากการสอบสวนพบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือ นายวิรัตน์ เพียงคนเดียว หลักฐานสำคัญคือรถยนต์กระบะที่ขับออกจากจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นรถของ นายวิรัตน์ พรมสีส้มที่บ้านก็ตรงกับพรมที่จุดไฟเผา รวมทั้งอาวุธปืนกล๊อก 9 มม.ปลอกกระสุนปืน 6 ปลอก และกองเลือดที่บ้านของนายวิรัตน์
สำหรับสาเหตุของคดีนี้แม้ว่าทั้งผู้ตายและผู้ต้องหาจะอยู่ในกลุ่มค้ายาเสพติดกลุ่มเดียวกันแต่จากคำให้การของ นายวิรัตน์ ผู้ต้องหากลับบอกว่าสาเหตุที่ต้องฆ่าทั้งสองคนเนื่องจากมาจากเรื่องชู้สาว เพราะทั้งสองคนได้รุมข่มขืนภรรยาของตนอายุ 29 ปี และก่อนเกิดเหตุสองวันเมียมาบอก ซึ่งขณะนี้เมียของนายวิรัตน์ สติฟั่นเฟือนพูดจาไม่รู้เรื่องซึ่งนายวิรัตน์ บอกว่ามีสาเหตุมาจากที่ถูกรุมข่มขืนจนทำให้เสียสติ
ในวันเกิดเหตุทั้งสองคนได้มาที่บ้านของนายวิรัตน์ และพูดในทำนองว่ากูรู้ว่ามึงทั้งสองคนทำอะไรเมียกูและทั้งสองคนก็ทำสีหน้าเงิกงัก สุดท้ายนายวิรัตน์ ก็ใช้อาวุธปืนจ่อยิงทั้งสองจนตายคาบ้านโดยยิง นายอนุชา ก่อนและยิงนายประเสริฐตามหลัง ก่อนที่จะนำศพของทั้งสองคนใส่รถกระบะไปเผาอำพรางคดีในที่เกิดเหตุ ส่วนประเด็นที่นายวิรัตน์ อ้างว่าเมียถูกผู้ตายทั้งสองคนรุมข่มขืนจนเสียสตินั้นเจ้าหน้าที่จะต้องผลตรวจของทางจิตของแพทย์และร่องรอยการถูกข่มขืนมายืนยันอีกครั้ง โดยเฉพาะสาเหตุที่สติฟั่นเฟือนเกิดขึ้นก่อนหรือหลังที่จะถูกข่มขืน
ซึ่งภายหลังการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ได้พาตัวนายแววไปชี้จุดประกอบคำรับสารภาพที่จุดเผาศพ โดยเจ้าตัวเปิดใจสาเหตุที่ลงมือเพียงสั้น ๆ ว่า "เพราะมันข่มขืนแฟนผม"
