จากกรณีเหตุฆาตกรรมโหด หลังนายประหยัด หมั่นเพียร อายุ 60 คว้าปืนลูกซองบุกยิง นางกันจนา นิลสาลิกา อายุ 48 ปี ภรรยาคนที่ 2 นายชัยมงคล อัมพวัน อายุ 27 ปี ว่าที่ลูกเขย และน.ส.ธนาพัทธ์ นิลสาลิกา อายุ 26 ปี ลูกสาวของนางกันจนา ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นนายภีมเดช อายุ 16 ปี ลูกชายของนายประหยัด ได้เข้าแย่งปืนจากพ่อ เป็นเหตุให้พลาดใช้ปืนยิงนายประหยัด เสียชีวิต ที่ฟาร์มหมู หมู่ 8 ต.นิยมชัย อ.สระโบสถ์
ล่าสุดวันที่ 24 พ.ค.63 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงพื้นที่ สภ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี เพื่อติดตามคดีนายประหยัด อดีตภารโรงของโรงพยาบาลได้ก่อเหตุถือปืนลูกซองยาว เข้ามายิงภรรยาคนที่ 2 ลูกสาวภรรยา และว่าที่ลูกเขย ทำให้ภรรยาและว่าที่ลูกเขยเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนลูกสาวภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่นายภิมเดช อายุ 16 ปี จะเข้าแย่งปืนกับนายประหยัด ผู้เป็นพ่อ พลาดยิงพ่อตัวเองเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เป็นศพที่ 3 ก่อนยืนถือปืนรอมอบตัว
นอกจากนี้ยังได้มีการตั้งข้อหาลูกชาย ผู้ที่ยิงพ่อตัวเอง ในข้อหาฆ่าบุพการีโดยเจตนา ในเบื้องต้นยังไม่ให้ประกันตัว พร้อมส่งตัวไปยังสถานพินิจเด็กและเยาวชนจังหวัดลพบุรี เพื่อรอการสอบส่วน
เพราะต้องสอบสวนต่อหน้าสหวิชาชีพ เนื่องจากผู้ก่อเหตุยังเป็นเด็กอายุ 16 ปี หลังจากนั้นรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้ลงพื้นที่ไปดูที่เกิดเหตุอีกครั้ง
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางไปวัดสระใหญ่ อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี ซึ่งมีงานบำเพ็ญกุศลศพนายประหยัด หมั่นเพียร ผู้ก่อเหตุ
นางเชย หมั่นเพียร อายุ 60 ปี ภรรยาหลวงนายประหยัด กล่าวว่า ตนไม่ทราบปมปัญหาที่เกิดขึ้น สำหรับสามีเป็นคนใจร้อนจริง แต่ไม่ได้ชอบเล่นปืนตามที่มีข่าว ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุก็เป็นปืนที่สามีพกติดตัวไว้ดูแลและป้องกันทรัพย์สินที่บ้านเท่านั้น นิสัยของสามีก็เป็นคนธรรมดา หากใครร้อนมาเจ้าตัวก็ร้อนกลับ
โดยตนกับสามีก็ไม่ค่อยสุงสิงกัน หลังจากสามีไปคบกับภรรยาคนที่ 2 เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร เพราะที่ผ่านมาก็ต่างคนต่างอยู่ไม่ได้รู้เรื่องซึ่งกันและกัน ส่วนนายภีมเดช ไม่เคยจับอาวุธ ตนเชื่อว่าไม่ตั้งใจยิง
ด้านนางประเสริฐ อัมพวัน อายุ 56 ปี ป้าของนายชัยมงคล ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ปกติหลานชายทำงานส่งของ อาศัยอยู่กับตนที่ จ.ปทุมธานี และเพิ่งจะคบกับ น.ส.ธนาพัทธ์ ก่อนย้ายมาอยู่ด้วยกันที่บ้านตน ประมาณ 2 เดือน
กระทั่งวันที่ 23 พ.ค.63 หลังจากหลานชายทำงานส่งของเสร็จ หลานชายเดินทางกลับ จ.ลพบุรี พร้อมกับน.ส.ธนาพัทธ์ โดยได้ไปนอนที่บ้านของฝ่ายหญิง 1 คืน จนเมื่อวานนี้ช่วงเที่ยง ตนทราบข่าวว่าหลานถูกยิงเสียชีวิตก็ตกใจมาก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ที่ผ่านมาหลานชายไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง มีแต่น.ส.ธนาพัทธ์ เล่าว่าไม่ถูกกับนายประหยัด ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยง โดยบอกว่าเคยชี้หน้าด่ากัน ตนก็ไม่ได้ถามหรือก้าวก่ายเพราะคิดว่าไม่เกี่ยวกับหลานชายตน
นางประเสริฐ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเป็นการหึงหวง ที่หลานชายเข้าไปคุยกับว่าที่แม่ยาย เพราะหลานชายตนเป็นเด็กดี ไม่ได้เจ้าชู้ โดยที่ผ่านมาหลานชายสนิทกับว่าที่แม่ยาย เพราะอีกฝ่ายจะวิดีโอคอลมาคุยกับลูกสาว และคุยกับว่าที่ลูกเขยพร้อมกัน 3 คน ซึ่งก็เป็นลักษณะว่าที่แม่ยายที่เอ็นดูลูกเขยมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ตนก็อยากรู้สาเหตุที่แท้จริง ว่าหลานชายถูกยิงด้วยสาเหตุใด แต่คาดว่านายประหยัด น่าจะวางแผนเอาไว้แล้ว เพราะหลานถูกยิงจ่อจนศีรษะกระจาย
ด้านอาการของ น.ส.ธนาพัทธ์ จากการตรวจสอบพบว่า ถูกยิงเข้าที่แขนและปอด ซึ่งขณะนี้ต้องรอผ่าตัดเอากระสุนออกเนื่องจากเลือดออกที่ช่องปอดจำนวนมาก ส่วนนายภีมเดช ผู้ก่อเหตุยิงพ่อตัวเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าบุพการี ก่อนส่งตัวฝากขังที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็ก จ.สระบุรี
