พ่อเปิดใจหมดเปลือกก่อนเข้าคุก ปัดไม่ได้เลวข่มขืนลูก แค่ช่วยทำแท้ง แฉโดนฉกอสุจิใส่ร้าย (คลิป)

21 พ.ค. 63

จากกรณี เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 63 เจ้าหน้าที่มูลนิธิสายเด็ก นำตัว น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ชาวจังหวัดลำพูน เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำพูนว่า ถูกพ่อแท้ ๆ ข่มขืนตั้งแต่ที่สมัยยังเรียนอยู่ชั้น ป.4 จนปัจจุบันอายุ 18 ปี กระทั่งตั้งท้องได้ 4 เดือน และพ่อได้บังคับให้ทำแท้ง ทั้งให้เหน็บยากินยาและฉีดแอลกอฮอล์เข้าช่องคลอดถึง 6 ครั้ง และบังคับให้ใช้ยาคุมกำเนิดด้วยรวมกระทำมาแล้ว 8 ปี นั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
พ่อข่มขืนลูกในไส้ 8 ปี ฉีดยาทำแท้ง ย่าไม่เชื่อลูกขี้คุกจะทำ คาดกุเรื่องใส่ร้ายแค้นถูกห้ามมีแฟน

ล่าสุด วันที่ 21 พ.ค. 63 ทีมข่างเดินทางมาที่ สภ.ลำพูน อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน เนื่องจากผู้ต้องหาได้ติดต่อผ่านญาติว่าอยากจะพูดคุยกับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ผ่านทางโทรศัพท์ก่อนเข้าเรือนจำ

682013

นายอภิชาติ ผู้ต้องหา เปิดใจครั้งแรกว่า สาเหตุที่ลูกสาวเข้าแจ้งความ ตนเชื่อว่าเพราะเขาต้องการอิสระ เนื่องจากลูกสาวชอบคุยโทรศัพท์ และเที่ยวเล่นกับเพื่อน ๆ ตนเคยเข้าไปด่าต่อหน้าเพื่อน จนทำให้ลูกสาวไม่พอใจ และเคยกล่าวกับตนทำนองว่า "ถ้าทำเราได้ เราก็จะทำกลับได้เหมือนกัน" ทั้งนี้ ตนยังเคยแอบดูโทรศัพท์ของลูกสาว และพบว่าลูกสาวเคยส่งข้อความคุยกับเพื่อนในกลุ่มทำนองว่า "มีโอกาสจะได้แฟนคนนี้ไหม" เพื่อนจึงบอกว่า "มี แต่ต้องแจ้งจับพ่อก่อน" ซึ่งตนสังเกตเห็นมือของลูกสาวมีลักษณะบวม เหมือนคนกินยาคุม หรือฉีดยา ตนจึงขู่ว่าจะพาไปตรวจเลือด แต่ลูกสาวไม่ยอมไป

4

"ยืนยันว่าไม่เคยข่มขืนลูก ผมยังเคยถามคนที่เอาข่าวไปลงว่า ถ้าเป็นลูกพี่ พี่จะทำไหม" ทั้งนี้ ตนเคยปรึกษากับแม่ของลูกสาวหลายครั้ง เกี่ยวกับการที่ลูกสาวไปเที่ยวเล่นกับผู้ชาย แม่ของลูกบอกว่า ปล่อยให้ลูกเที่ยว แค่กินยาคุมกับใส่ถุงยางก็คงจะไม่เป็นไร

6

สาเหตุที่ตนตอบบ่ายเบี่ยงกับตำรวจ เพราะตนเกรงว่าหากความจริงปรากกฏลูกจะเดือดร้อน ตนจึงขอพูดในชั้นศาล และยืนยันว่าไม่เคยข่มขืน ตนยอมรับผิดเพียงอย่างเดียวคือช่วยลูกทำแท้งครั้งเดียว แต่ตนไม่ได้บังคับให้เอาออก เพราะลูกตัดสินใจเองว่าจะเอาเด็กออก

cg_1

หลังจากตกเลือด ลูกสาวเล่าให้ฟังว่าเด็กออกแล้ว และนำผ้าที่ห่อเด็กมาให้ตนดู ตนจึงนำซากเด็กไปเผาทำลาย และนำไปลอยอังคารทันที จากนั้นตนก็แสร้งว่ากำลังทำพิธีอยู่ ด้วยการนำสายสิญจน์มาพันถุงเปล่า เพื่อให้ลูกสาวรู้สึกสบายใจ

 

หลังจากที่ตนช่วยทำแท้ง ก็จุดธูปไหว้และทำบุญใส่บาตรให้ตลอด และตั้งใจจะบวชแต่ไม่มีโอกาส ซึ่งตนไม่ได้นำความโกรธมาลงที่ลูกแล้วข่มขืนลูก เพราะแม่ของลูกไปยุ่งกับคนอื่นหรือไม่

15

และที่ตนให้ข่าวเมื่อวานนี้ว่า กรุ๊ปเลือดของตนกับลูกไม่ตรงกัน ตนกับแม่ของเด็กกรุ๊ปเอ แต่ลูกสาวกรุ๊ปบี ตั้งแต่ลูกสาวรู้ พฤติกรรมก็เปลี่ยนไป คือห่างเหินกับตนและย่า ตนเคยสอบถามว่า "ถ้ารู้ว่าไม่ใช่ลูกพ่อจะรู้สึกยังไง แต่พ่อเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด พ่อรักเหมือนเดิมนะ" แต่ลูกสาวกลับตอบว่า "ก็เฉย ๆ นะ"

cg2

หลังจากนี้ จะมีการตรวจสอบดีเอ็นเอ และหากตนล่วงละเมิดลูกจริง ต้องมีอสุจิอยู่ในรังไข่ แต่ตนเกรงว่าจะไม่พบ อาจจะพบที่บริเวณปากมดลูก เพราะภายในบ้าน ตามเตียงนอน ตนยอมรับว่าต้องมีสารคัดหลั่งของผู้ชายตกหล่นเพราะมีการสำเร็จความใคร่ และตนไม่ทราบว่าลูกจะนำสารคัดหลั่งไปทาอวัยเพศของตัวเองหรือไม่ หากผลออกมาว่าพบดีเอ็นเอของตน ตนก็จะนำหลักฐานไปต่อสู้

"ตนมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกรรม เพราะตนช่วยลูกทำแท้ง จึงย้อนกลับมาทำลายตนเอง แต่ตนตนรู้สึกเสียใจมาก รู้สึกปวดใจมากที่ลูกไม่พูดความจริง หวังแค่ว่าลูกจะสำนึก และเล่าความจริงว่าโกรธพ่อเรื่องอะไร"

8

อยางไรก็ตาม พ่อและลูกสาวพูดไม่ตรงกัน คือ ลูกสาวบอกว่าถูกพ่อข่มขืนตั้งแต่อายุ 11 ปี ถึงปัจจุบันอายุ 18 ปี ถูกกระทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง แต่พ่ออ้างไม่เคยทำ แต่ลูกสาวเป็นเด็กเก็บกด

3

ลูกสาวบอกว่าพ่อสั่งให้ทำแทง 6 ครั้ง แต่พ่อบอกว่าเคยช่วยลูกทำแท้งแค่ 1 ครั้ง เพราะลูกขอร้องให้ช่วยเอง

7

ลูกสาวบอกว่าพ่อให้เหน็บยา และฉีดแอลกอฮอล์ในช่องคลอด แต่พ่อบอกว่าไม่เคยทำ อีกทั้งที่ลูกสาวบอกว่าพ่อเป็นคนผูกสายสินจน์กับศพเด็กทารกเพราะจะสะกดวิญญาณนั้น พ่ออ้างว่าผูกกับถุงศพ เพื่อให้ลูกสาวสบายใจเท่านั้น ไม่ได้ทำพิธี

5

นพ.สิทธา ลิขิตนุกูล หรือ หมอกอล์ฟ แพทย์สังคมสื่อสารเพื่อคุณธรรม แพทย์สังคมสื่อสารเพื่อคุณธรรม ให้ข้อมูลว่า เป็นไปได้ที่หญิงสาววัยเจริญพันธุ์จะตั้งครรภ์ถึง 6 ครั้ง ภายในระยะเวลา 8 ปี แต่ถ้าถามว่าลูกจะติดหรือคลอดออกมาเป็นคนได้หรือไม่ ประเด็นนี้อาจจะยาก เพราะหากผ่านการทำแท้งมาแล้ว ครั้งต่อไปที่อสุจิจะปฏิสนธิและฝังตัวในมดลูกค่อนข้างยาก เนื่องจากผนังมดลูกอาจจะบางและหลุดง่าย เว้นเสียแต่อสุจิแข็งแรงดีก็อาจจะติดได้

698227

นอกจากนี้ ถ้าพ่อช่วยตัวเองแล้วคราบน้ำอสุจิไปเปื้อนที่กางเกง จากนั้นนำไปถูกช่องคลอดของลูกสาว ซึ่งตามหลักอสุจิอยู่นอกร่างกายได้ไม่เกิน 20 นาที ถ้ามีอุณหภูมิหรือความชื้นที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะหากอุณหภูมิเกิน 40 องศาเซลเซียส ไม่กี่นาทีก็เสียชีวิตแล้ว ยิ่งไปอยู่บนวัตถุต่าง ๆ จะทำให้ความแข็งแรงของอสุจิลดน้อยลง ไม่มีแรงและพลังที่จะเข้าไปผสมกับไข่ได้

547804

ดังนั้นโอกาสที่คราบอสุจิที่เปื้อนอยู่บริเวณกางเกงแล้วนำไปถูช่องคลอดจนเกิดการตั้งครรภ์ไม่มีแน่นอน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส