สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า วานนี้ (18 พ.ค.) รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศจาก 11 ประเทศในยุโรปเห็นพ้องต้องกันในข้อตกลงว่าด้วยการกลับมาเปิดด่านพรมแดนและฟื้นคืนเสรีภาพในการเดินทางของพลเมืองยุโรป โดยออกแถลงการณ์ระบุว่าผู้แทนจากเยอรมนี ออสเตรีย บัลแกเรีย ไซปรัส โครเอเชีย สเปน กรีซ อิตาลี มอลตา โปรตุเกส และสโลวีเนีย ได้ประชุมร่วมกันผ่านทางวิดีโอเพื่อวางแผนฟื้นคืน “เสรีภาพในการเดินทางและการหมุนเวียนโดยอิสระในสหภาพยุโรป (EU)”
คณะรัฐมนตรีฯ เห็นพ้องว่าแม้โควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง แต่ยุโรปจำเป็นต้องเดินหน้าต่อไปบนพื้นฐานของหลักความได้สัดส่วนและการไม่เลือกปฏิบัติ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ปิดโรงเรียนวุ่น! ฝรั่งเศสเปิดเทอมสัปดาห์แรก นักเรียนติดเชื้อโควิด 70 คน
- ส่องบรรยากาศ "ปารีส" ติดเครื่องหมายเว้นระยะ ย้ำปชช.ก่อนคลายล็อก 11 พ.ค.
- ผู้เชี่ยวชาญคาด "เยอรมนี" ติดโควิด-19 สูงกว่ายอดจริง 10 เท่า
- ทนพิษเศรษฐกิจไม่ไหว "ฝรั่งเศส-สเปน" เตรียมคลายล็อกดาวน์ เปิดธุรกิจ-โรงเรียน
- เด็กๆ ในสเปนเฮ! ทางการคลายล็อกดาวน์ ให้เล่นนอกบ้านได้วันละ 1 ชั่วโมง
การประชุมข้างต้นกำหนดขอบเขตการสำรวจมาตรการควบคุมพรมแดน, การกลับมาดำเนินการขนส่ง และการบริการเชื่อมโยงต่างๆ รวมถึงการเริ่มต้นใหม่ของการบริการการท่องเที่ยวและระเบียบด้านสุขภาพในสถานประกอบการโรงแรมอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยการเปิดด่านพรมแดนครั้งนี้จะดำเนินการอย่างเป็นลำดับขั้นตอนผ่านการประสานงานร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิกอียู เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของการติดเชื้อเพิ่มขึ้นจนไม่สามารถควบคุมได้
แถลงการณ์ระบุอีกว่า "เราเรียกร้องอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและผู้มีส่วนร่วมภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องปรับใช้มาตรการป้องกันที่เหมาะสมในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้านี้ เพื่อสามารถปกป้องนักเดินทางได้ทันทีที่การฟื้นคืนเสรีภาพในการเดินทางและท่องเที่ยวบรรลุผลสำเร็จ และแม้สถานการณ์โรคระบาดใหญ่จะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ แต่เป้าหมายของเราคือการประสานงานร่วมกันเพื่อฟื้นคืนเสรีภาพในการเดินทาง ทำให้ทุกคนสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย"
