เก๋งเมายาชนดะ ลุงขายผลไม้กะโหลกเปิด ลูกจี้คนขับหนีไม่รับผิดชอบ เปิดกล้องหลักฐานมัด (คลิป)

15 พ.ค. 63

กรณีเฟซบุ๊กที่มีชื่อว่า "Rungtiwa pakdee" โพสต์คลิปเหตุการณ์กล้องหน้ารถบันทึกภาพนาทีชีวิต ขณะรถบนท้องถนนต่างเร่งรีบกลับบ้านให้ทันเวลาเคอร์ฟิว โดยภาพที่ปรากฏเผยให้เห็นจังหวะที่รถยนต์ฟอร์ดสีขาว ขับคร่อมเลนไปชนกับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างขายผลไม้ ของพ่อค้าวัย 63 ปี ทำรถจักรยานยนต์และตู้ผลไม้ ขาดออกจากกัน ตัวคนและผลไม้กระเด็นไปคนละทิศละทาง

167774

ส่วนคนขับรถฟอร์ด ไม่ยอมหยุดรถ ยังขับต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งในคลิปดังกล่าว จะได้ยินเสียงพลเมืองดี พยายามเรียกให้จอด กะพริบไฟใส่ บีบแตรเรียกให้หยุด แต่กว่าจะหยุดรถก็ขับเลยไปกว่า 200 เมตรแล้ว โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเวลา 21.55 น. ของคืนวันที่ 14 พ.ค.63 ที่ผ่านมา บริเวณหน้ากรมทางหลวงชนบท แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ

822258

ล่าสุดวันนี้ 15 พ.ค. ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางไปพบกับ น.ส.รุ่งทิวา ปากดี หรือ หนึ่ง อายุ 30 ปี พลเมืองดีเจ้าของกล้องหน้ารถที่บันทึกเหตุการณ์ โดยน.ส.หนึ่ง เล่าว่า ตนกับนายแจ๊ค แฟนหนุ่ม ขับรถมาจากที่ทำงานถนนวิภาวดีฯ มุ่งหน้ากลับบ้านที่ถนนรามอินทรา โดยใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน ตอนนั้นใกล้เวลาถึงเคอร์ฟิวประมาณ 21.55 น. ตนกับแฟนขับรถกันมาเรื่อย ๆ ใกล้จะถึงบ้านแล้ว มีรถอยู่ไม่กี่คัน ทุกคนก็ต่างคนต่างขับรีบกลับบ้าน

เมื่อขับมาถึงสะพานบางบัว สังเกตเห็นรถฟอร์ดสีขาว ทราบชื่อภายหลังว่ามีนายนิแอร์ อายุ 35 ปี ชาว จ.นราธิวาส เป็นคนขับ ขับคร่อมเล่นไปเรื่อย ๆ โดยคร่อมเส้นจากเลนกลาง เฉียงไปคร่อมเส้นถนนเลนซ้ายสุด พอไปถึงบริเวณหน้ากรมหลวงชนบท รถฟอร์ดได้พุ่งชนเข้ากับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ของลุงแก้ว อายุ 63 ปี คนขายผลไม้อย่างเต็มแรง ทำให้รถจักรยานยนต์กับตู้ผลไม้ขาดออกจากกัน กระเด็นกันคนละทิศละทาง ผลไม้ในตู้ยังกระเด็นมาใส่รถของตนที่ขับมาถึงจุดเกิดเหตุตอนนั้นด้วย

634735

แต่นายนิแอร์ ไม่ยอมหยุดรถดูลุงแก้วที่นอนเจ็บอยู่แต่อย่างใด และยังขับรถต่อไปเรื่อย ๆ ตนกับแฟนหนุ่มต้องขับไล่ตาม แต่นายนิแอร์ก็ไม่หยุด เห็นท่าไม่ดี คนขับรถกำลังจะหนี พอขับรถไปเทียบข้าง ๆ ได้เรียกให้หยุดรถ "พี่ขับรถชนคน" คนขับรถก็ดูเบลอ ๆ ลอย ๆ ทีแรกถ้าไม่เห็นด้วยตาคิดว่าคนขับอาจเมาเหล้า เมายา ถึงไม่ยอมหยุดรถ และจังหวะที่นายนิแอร์ จอดรถ จึงให้นายแจ๊ค แฟนตนเองลงจากรถไปก่อน จากนั้นตนก็เดินตามลงไป ในกล้องท้ายรถนาทีที่ 1.50 น. จะเห็นว่าตนและนายแจ๊ค เดินลงจากรถไปหานายนิแอร์

ในคลิปจะเห็นว่านายนิแอร์ ไม่พูดอะไรกับตน ซ้ำยังเป็นห่วงรถตัวเอง ยืนมองดูที่บริเวณด้านหน้ารถฟอร์ดฝั่งซ้ายที่ชนลุงแก้ว ด้วยท่าทีมึนงง ก่อนจะก้มลงไปเก็บชิ้นส่วนอะไหล่รถที่พังเสียหาย และตกลงถนนทีละชิ้น ๆ บอกว่าจะเอาไปทิ้งขยะ ตนก็งงว่าทำไม นายนิแอร์ ไม่สนใจคนเจ็บเลย แถมยังมีอาการแปลก ๆ คล้ายเมาอะไรสักอย่าง แต่ไม่ใช่สุรา เพราะไม่มีกลิ่น

404840

ตอนนั้นก็พยายามคุย แต่นายนิแอร์บอกตนสั้น ๆ ว่าเป็นอิสลาม รถคันนี้ไม่ใช่ของนายนิแอร์ ที่ขับมา ตนจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัย หลังจากเจ้าหน้าที่มาถึง พบในรถมีขวดน้ำ 1 ขวด แต่ไม่มีน้ำ จึงนำไปตรวจพิสูจน์อีกครั้งว่าเป็นน้ำกระท่อมอยู่หรือไม่ ซึ่งล่าสุดทราบว่า พบสารเสพติดในร่างกาย เป็นยาบ้า

น.ส.หนึ่ง เล่าอีกว่า ตนเดินย้อนไป 200 เมตรเห็นอาการลุงแก้ว เลือดท่วม มองเห็นกะโหลกจะเปิดออก มีรอยมันขาวจุกอยู่ที่ปากแผล มีเลือดไหลออกมากเป็นลิ่ม ๆ อาบหน้า ที่ส้นเท้ามีแผลเปิดออก ยังดีที่ลุงแก้วไม่กระเด็นไปฟาดเสาไฟ ตนสงสารลุงแก้วมาก พยายามถามลุงแก้วก็ไม่ตอบอะไร จึงถ่ายคลิปมาลงสังคมออนไลน์ เป็นหลักฐานช่วยลุงแก้ว เพราะถ้าตนไม่ขับมาและรถไม่มีกล้อง นายนิแอร์อาจขับรถหนีไปเลยก็ได้

247033

นอกจากนี้ น.ส.ลลิตา ไตรแก้ว อายุ 29 ลูกสาวของลุงแก้ว เปิดเผยว่า พ่อมีอาชีพเป็นคนขายผลไม้พ่วงข้าง วันเกิดเหตุพ่อ กำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับจากขายผลไม้ ที่ประตูน้ำ มุ่งหน้ากลับบ้านย่านสะพานใหม่ เขตบางเขน กรุงเทพฯ เมื่อขี่มาถึงจุดเกิดเหตุ พ่อขี่มาทางเลนซ้ายมือเรื่อย ๆ ช้า ๆ ขณะนั้นใกล้เวลาเคอร์ฟิวแล้วก็อดห่วงไม่ได้ ทำไมพ่อยังไม่ถึงบ้าน กระทั่ง ตำรวจแจ้งมาว่า พ่อถูกรถชน ตอนนั้นตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก รีบมาดูพ่อ และพาไปหาหมอ พ่อมีสติ แต่พูดไม้รู้เรื่อง

545026

ส่วนขั้นตอนรักษา ทางโรงพยาบาล ไม่ได้ให้พ่อนอนพักรักษาตัวดูอาการ แต่ให้พ่อเย็บแผลและกลับบ้านได้เลย โดยแจ้งว่าไม่มี พ.ร.บ. และประกันคุ้มครอง ไม่สามารถดำเนินการได้ และต้องนำหลักฐานจากทางคู่กรณีมาประกอบการรักษาด้วย จึงให้ตนพาพ่อกลับไปดูอาการที่บ้าน ซึ่งเบื้องต้นหมอระบุว่า พ่อไหปลาร้าฝั่งขวาหัก ขาขวาร้าว ศีรษะฝั่งขวาและส้นเท้าฝั่งขวาเป็นแผลฉีกขาด ต้องเย็บแต่หมอไม่ระบุว่ากี่เข็ม แต่ตนมองว่า พ่อควรพักที่โรงพยาบาลก่อน ไม่ควรให้กลับบ้าน เพราะเช้านี้ สังเกตว่า พ่อขาบวม ลุกเดินไม่ไหว

ทั้งนี้พ่อถือเป็นกำลังสำคัญของบ้าน ที่หาเลี้ยงครอบครัว ไม่รู้จะกลับมาเหมือนเดิมหรือไม่ เศรษฐกิจก็ไม่ดี ปกติพ่อมีรายได้ขายผลไม้ วันละ 3,000 บาท ตอนนี้พ่อขาดรายได้ รถจักรยานยนต์และตู้ผลไม้ก็พังเสียหาย ประเมินเป็นมูลค่ายังไม่ได้เลย ต้องรอดูหลายอย่างประกอบกันก่อน

671661

ถึงแม้อายุ 63 ปี จะย่างเข้า 64 ปีแล้ว แต่ต้องขี่รถขายผลไม้ ตนเป็นห่วงว่าคู่กรณีจะไม่รับผิดชอบพ่อ เพราะรถก็ไม่ใช่ของนายนิแอร์ ไม่รู้เจ้าของเป็นใคร และถ้านายนิแอร์ชนและลงมาดูพ่อ ตนก็คงไม่รู้สึกแย่ แต่ชนและยังขับไปต่อ ถ้าไม่มีพยาน และคลิปวิดีโอกล้องหน้ารถของพลเมืองดี ไม่รู้พ่อจะเป็นอย่างไร จะมีใครดูพ่อตอนรถชนหรือไม่

น.ส.ลติตา บอกว่า ตนหวังให้ตำรวจดำเนินคดีและขอให้นายนิแอร์ ดำเนินเรื่องประกัน พ.ร.บ. รับผิดชอบค่ารักษาให้พ่อโดยเร็ว พ่อจะได้นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล

847855

ส่วนทางคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน ให้ข้อมูลว่า ในคืนวันเกิดเหตุ นายนิแอร์ ขับรถชนนายแก้ว แต่มีพฤติการณ์ไม่ยอมหยุดรถลงมาดูคนเจ็บ โชคดีพลเมืองดีช่วยหยุดรถเอาไว้ได้ ซึ่งทันทีที่ไปถึงจุดเกิดเหตุ ได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์กับนายนิแอร์ เพราะดูมีอาการมึนเมา แต่ปริมาณแอบกอฮอลไม่ขึ้น

จากนั้นได้พาไปตรวจตรวจปัสสาวะ เจอเป็นสีม่วง จึงพาไปตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาล พบสารเสพติดประเภทยาบ้า จึงนำตัวมาที่โรงพัก เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ขับเสพ จนเป็นเหตุทำให้ชนผู้อื่นอันตรายสาหัส ประมาทจนทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และไม่หยุดให้ความช่วยเหลือ ซึ่งเตรียมนำตัวฝากขังในวันพรุ่งนี้ ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนทางรถ ฟอร์ด มีพ.ร.บ. และมีประกันชั้นหนึ่งที่สามารถคุ้มครองดูแลนายแก้วที่บาดเจ็บได้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส