กรณีวันที่ 14 พ.ค. 63 หน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญู อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ รับแจ้งเหตุว่าเมื่อเวลาประมาณ 17.50 น. นายสุรศักดิ์ จวบสุข อายุ 41 ปี ชาวบ้านโสกมะตูม หมู่ 3 ต.โนนคูณ เกิดอาการคลุ่มคลั่งใช้มีดปลายแหลมไล่กระซวกแทงชาวบ้าน จนมีชาวบ้านเสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวน 2 ราย และชาวบ้านหญิงได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ต่อมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลคอนสาร รวมเสียชีวิต 3 ศพ
โดยจากข้อมูลเบื้องต้นแจ้งว่า ผู้ก่อเหตุเมาสุราจนมีอาการคลั่ง พร้อมกับเดินถือมีดปลายแหลม ยาว 52 เซนติเมตร ออกไปไล่จ้วงแทง นายหลอด สวัสดิรักษ์ อายุ 59 ปี ที่อาศัยอยู่ข้างบ้าน ห่างกันประมาณ 20 เมตร ขณะกำลังกวาดใบไม้อยู่ที่หน้าบ้าน จนเป็นแผลฉกรรจ์ 3 แผล ได้แก่ ท้องซ้ายทุละหลัง ชายโครงซ้าย และแขนขวา ไส้ทะลักนอนจมเลือดอยู่หน้าบ้านของตัวเอง
จากนั้น ผู้ก่อเหตุได้บุกเข้าไปแทง นางเสบียง เกิดสมบูรณ์ อายุ 53 ปี เป็นรายที่สอง โดยมีบ้านอยู่หลังบ้านผู้ก่อเหตุ ภายในห้องครัวนอกตัวบ้านของผู้ตาย จำนวน 3 แผล ที่ท้องด้านขวา จนชิ้นส่วนตับกระเด็นออกมา บาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุแรกประมาณ 30-40 เมตร
สุดท้าย เหยื่อรายที่ 3 ได้แก่ นายฉลอง เดชครอบ อายุ 63 ปี ถูกแทง 2 แผล ที่ท้องขวาและซ้าย มีฉกรรณ์ ไส้ทะลัก นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ในเขตนาของตัวเอง ห่างจากจุดเกิดเหตุจุดที่ 2 ออกไปประมาณ 90-100 เมตร
โดยขณะเกิดเหตุชาวบ้านบ้านโสกมะตูมต่างหวาดกลัว จึงหลบอยู่แต่ในบ้าน เนื่องจากผู้ก่อเหตุนั้นคลุ้มคลั่งอาละวาดไปทั่วหมู่บ้าน จากนั้นเมื่อผู้ก่อเหตุได้สติเจ้าตัวจึงได้เข้ามอบตัวกับกับเจ้าหน้าที่ด้วยตัวเอง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสารเสพติดในร่างกายของผู้ต้องหาแล้ว พบการเสพสารเสพติด และได้แจ้งข้อหาแก่ นายสุรศักดิ์ จวบสุข ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา พกพาอาวุธมีดโดยผิดกฎหมายในที่สาธารณะ และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 โดยจากการสอบสวนนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าผู้ต้องหาโกธรแค้นที่กลุ่มผู้ตายมักต่อว่าที่ขี้เมา ไม่ทำงาน เอาแต่เสพยา
วันที่ 15 พ.ค. 63 ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ที่เกิดเหตุ จุดแรกซึ่งคือบ้านของนายหลอด สวัสดิรักษ์ พบว่าทางครอบครัวได้จัดพิธีสวดพระอภิธรรมที่บ้านพัก โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
นายสุพรรณ สวัสดิรักษ์ อายุ 51 ปี น้องชายของนายหลอด บอกว่า นายหลอดนั้นอาศัยอยู่เพียงลำพัง เนื่องจากลูกสาวต้องไปทำงานที่จังหวัดขอนแก่น ไม่รู้ว่านายหลอกมีปัญหาอะไรกับผู้ก่อเหตุ เพราะปกตินายหลอดเป็นคนดี ชอบทำบุญ ไม่ได้มีนิสัยติเตียนใครตามที่ผู้ก่อเหตุกล่าวอ้าง
ตอนนี้ยังรู้สึกตกใจและยังคิดไม่ออกว่าจะอีกฝ่ายรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้ยังไง ขอวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด
ขณะเดียวกันทีมข่าวได้ลงพื้นที่บ้านของ นางเสบียง เกิดสมบูรณ์ ซึ่งเป็นเหยื่อรายที่สอง โดยทางครอบครัวของนางเสบียงเองก็ได้จัดพิธีสวดพระอภิธรรมศพภายในบ้านเช่นกัน
น้องแพรว หลานของผู้เสียชีวิต บอกว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 18.00 น. ตนกับคุณยายกำลังหุงขาวกันอยู่ที่ครัวหลังบ้าน จู่ ๆ ผู้ก่อเหตุก็เดินมาทางหลังบ้าน แล้วชี้หน้าคุณยาย พูดว่า “ชอบว่ากูว่าไม่ชอบอาบน้ำ ใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ ไม่ซัก” แล้วก็กระโจนเข้ามาแทงคุณยายในทันที 3 ครั้งที่ท้องขวา จนไส้และตับยายไหลออกมา เลือดไหลออกมานองเต็มพื้น จากนั้นผู้ก่อเหตุก็วิ่งหายไป ยืนยันว่าอยู่กับคุณยายตลอดทุกวันไม่เคยเห็นคุณยายต่อว่านายสุศักดิ์ โดยในวันเกิดเหตุนายสุรศักดิ์ มีอาการมึนเมาสุราเพราะดวงตาคล้ำแดง นอกจากนี้ยังเคยเห็นนายสุรศักดิ์เสพยาที่หน้าบ้านของตัวเองอีกด้วย
ต่อมา ทีมข่าวได้เดินทางไปหา นายเสมอ จวบสุข อายุ 72 ปี พ่อของนายสุรศักดิ์ ผู้ก่อเหตุ บอกว่า ตนอาศัยอยู่กับลูกชายเพียง 2 คน ในวันเกิดเหตุตนออกจากบ้านไปตั้งแต่ 15.00 น. เพื่อจับนกมาขาย เมื่อกลับมาถึงบ้านในเวลาประมาณ 18.30 น. ก็เห็นชาวบ้านมุงดูศพบริเวณหน้าบ้านของตน ถึงกับเข่าอ่อนเมื่อทราบข่าวว่าลูกชายฆ่าคนตาย 3 ศพ
ตนไม่รู้ว่าลูกชายมีความแค้นอะไรกับกลุ่มผู้ตาย เพราะลูกชายไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง แต่คาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากอาการเมาสุรา จึงหยิบมีดที่ใช้ผ่าฟืนไปแทงคน เพราะเมื่อวานนี้เห็นขวดสุราตั้งอยู่ที่หน้าบ้าน จากนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ เพราะไม่มีเงินไปประกันตัวหรือสู้คดี ส่วนเงินช่วยค่าจัดงานศพให้ครอบครัวผู้ตาย 3 ครอบครัว ตนก็ไม่มีเช่นกัน หมดปัญญาจะช่วย คงทำได้แค่ใช้แรงช่วยจัดงานศพ หวังว่าครอบครัวของกลุ่มผู้ตายจะเข้าใจ
