สุดสลด ! ลูกสาว 3 ขวบหายตัว พระกับหมอผีทำแม่จิตตก บอก 9 โมงไม่เจอรอดยาก (คลิป)

13 พ.ค. 63

จากกรณีการหายตัวของ ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือ น้องชมพู่ อายุ 3 ปี สูญหายจากบ้านพักหมู่ที่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร โดยหายไปตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.63 ซึ่งครอบครัวเร่งออกค้นหาจนมึดค่ำ รวมทั้งถามชาวบ้านแต่ก็ไม่พบ พ่อและแม่จึงพากันรีบกลับบ้านเพื่อแจ้งผู้ใหญ่บ้าน จากนั้นแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ

147611

ล่าสุดวันที่ 13 พ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมาที่บ้านกกกอก จุดเกิดเหตุอยู่ท้ายสุดของหมู่บ้าน เป็นพื้นที่ติดกับสวนมันสำปะหลัง และป่ายาง ท้ายสุดเป็นภูเหล็กไฟเส้นทางออกด้านหลังหมู่บ้าน มีชาวบ้านเดินทางมาให้กำลังใจครอบครัวผู้สูญหาจำนวนมาก ทุกคนต่างใจจดใจจ่อที่จะได้พบน้องชมพู่ ระหว่างนั้นมีการทำพิธีโดยพระสงฆ์ในป่ายาง แต่ไม่อนุญาติให้บันทึกภาพ ซึ่งเป็นการทำพิธีนั่งสมาธิในป่ายาง ให้เพียงครอบครัวผู้สูญหายเท่านั้นที่เข้าไปร่วมพิธี

อ่านเพิ่มเติมข่าวน้องชมพู่

- ผลชันสูตรรอบสอง "น้องชมพู่" พบบาดแผลที่อวัยวะเพศ และร่องรอยถูกทำร้าย
สลดเจอ “น้องชมพู่” 3 ขวบกลายเป็นศพสภาพเปลือย พ่อแม่ปล่อยโฮ ญาติคาดถูกชายเพี้ยนย่ำยี 

สุดแปลก! วันหาตัว “น้องชมพู่” พ่อเดินเฉียดศพ กลับไม่เห็น แม่แค้นลั่นอยากฆ่าคนอำมหิต 
เจอ 4 หลักฐานใหม่ใกล้ศพน้องชมพู่ คาดคนอุ้มตัวพักในป่า แม่ชี้ญาติไม่ฆ่าเด็ก 
- พิสูจน์เส้นทางซ่อนศพน้องชมพู่ เจอวางร่างบนผาสูง 2 ม. ชี้คนอุ้มเป็นชายกำยำ

565573

จากนั้นญาติ ๆ ได้พาทีมข่าวสำรวจรอบบ้าน จากจุดที่น้องชมพู่ เล่นเป็นจุดสุดท้าย ห่างจากแคร่ไม้ไผ่เพียง 10 เมตร ซึ่งสามารถมองกันเห็น

ทั้งนี้ครอบครัวน้องชมพู่ อยู่กัน 4 คน พ่อ แม่ พี่สาว และน้องชมพู่ โดยระบุว่ารอบบ้านไม่มีแหล่งน้ำ ไม่มีบ่อน้ำอะไรที่น้องจะผลัดตกลงไปได้ จะมีเพียงแต่บ่อเลี้ยงหนู ซึ่งสูงเพียง 1 เมตร ซึ่งน้องไม่สามารถเข้าไปได้ แต่ครอบครัวก็สำรวจหมดแล้ว

sequence-03.03_39_47_08.still

จากนั้นญาติ ๆ ที่มีความเชื่อได้น้ำดอกมะลิ เทียน จัดใส่จานเป็นขันธ์ 5 พร้อมจุดธูปคนละ 1 ดอก เดินไปที่ชายสวนมันสำปะหลัง และนั่งลงไหว้เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าป่าเข้าเขา ตามความเชื่อของชาวภูไท โดยจุดธูป 1 ดอก ยกมือไว้เหนือหัว หยิบดินที่พื้นมาแตะที่ตีนผม และไหว้ เรียกชื่อน้องชมพู่ ขอให้น้องชมพู่กลับมา

ต่อมา ช่วง 19.50 น. ครอบครัวของผู้สูญหายราว 6-7 คน ถือไว้ฉายเดินไปที่สวนมันสำปะหลังท้ายหมู่บ้าน ขนาดประมาณ 3 ไร่ ลึกเข้าไปที่ตีนเขาราว 500 เมตร ซึ่งเป็นการค้นหาตามที่หมอดูที่โทรศัพท์มาบอกว่าน้องชมพู่อยู่ที่ชายสวนมันสำปะหลัง ซึ่งครอบครัวจะต้องออกตามหาทั้งคืน โดยการหาครั้งนี้ ไม่พบเบาะแสของน้องแต่อย่างใด

137010

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางสาวิตรี และนายอนามัย วงศ์ศรีชา แม่และพ่อของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตรงกับวันที่ 11 พ.ค.63 เวลา 07.30 น. ตนออกไปทำธุระนอกบ้าน โดยให้น้องชมพู่ วัย 3 ขวบ อยู่กับลูกสาวคนโตวัย 13 ปี เบื้องต้นน้องชมพู่ น่าจะหายไปช่วง 09.01 น. เพราะลูกสาวคนโตบอกว่าเผลอหลับไป และสะดุ้งตื่นพบว่าน้องชมพู่หายไปแล้ว

หลังลูกสาวคนโตเห็นว่าน้องหายไป ก็พยายามออกตามหาละแวกบ้าน และไปหาที่บ้านญาติแต่ก็ไม่พบ จนกระทั่งเวลา 10.00 น. ก็โทรศัพท์แจ้งตนว่าน้องหายไป โดยวันแรกที่น้องหายไป ชาวบ้านที่ทราบเรื่องต่างมาช่วยค้นหาที่บ้านตั้งแต่ช่วงสาย จนกระทั่งเวลา 01.00 น. รวมกว่า 100 คนที่เดินค้นหารอบหมู่บ้านรัศมีราว 3 กม.

464180

น้องชมพู่ ไม่เคยหายไปไหนแบบนี้ ปกติจะไม่ห่างสายตา หากตนออกไปทำงานจนมึดค่ำ น้องชมพู่ก็จะอยู่กับลูกสาวคนโตได้ เพราะลูกคนโตเลี้ยงน้องมาตั้งแต่อายุ 1 ขวบ 8 เดือน แต่ทั้งนี้ตนยอมรับว่าวันเกิดเหตุไม่มีรางบอกเหตุใด ๆ ก่อนออกไปน้องชมพู่ก็ยังนั่งดูการ์ตูนอยู่กับพี่สาวที่แคร่หน้าบ้าน ซึ่งตนออกจากบ้านไปไม่ถึง 1 ชั่วโมงก็เกิดเรื่อง จึงไม่คิดว่าลูกจะหายไปไหนได้ไกล

อย่างไรก็ตามตอนแรกที่ลูกหาย ตนคิดว่าลูกน่าจะเดินเล่นไปตามสุนัข จากนั้นก็เกิดหลงป่า ประกอบกับช่วงแรกมีหมอดู พระ ร่างทรงมาบอกแม่ว่าลูกหายไปไม่ไกลจากบ้าน ให้ลองออกตามหา ตนก็ออกไปตามคำบอก แต่ก็ไม่พบ แต่หลังจากที่ผ่านมา 3 วัน ตนเริ่มคิดว่าอาจจะมีคนลักพาตัว เพราะหากหลงป่าน่าจะเจอแล้ว

750925

แต่หลังจากที่หายไปนาน วันนี้พระ ร่างทรง หมอดู บอกว่าน้องถูกเอาตัวไป โดยบอกว่า “อยากเห็นน้องต้องเดินข้ามร่องน้ำที่ไม่มีน้ำ น้องไปไม่ไกลจากบ้าน ให้แม่ไปหาใหม่ มีเจ้าที่บังเอาไว้” จากนั้นช่วง 13.00 น. ก็มีคนมาบอกว่า “มีคนเอาน้องไปไว้ในที่ ๆ มีประตู ถูกขังเอาไว้ ทำน้องว่าน้องอยู่ในรถ แต่ถูกขัง”

ส่วนพระรูปล่าสุดที่เข้ามา บอกว่าน้องถูกขังไว้ในที่มีประตูปิด หากจะเจอน้องได้ต้องไปเปิดก่อนเวลาา 9.00 น. แต่ขอให้พ่อแม่ทำใจ อย่างไรก็ตามตนยังมีหวังอยากจะเจอลูก และหากมีคนลักพาตัวลูกไปจริง ขอให้นำมาคืน ขอให้สงสารพวกตน ตนไม่ได้กินข้าวตั้งแต่รู้ข่าวว่าลูกหายไป

234127

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ ด.ญ.แจม (นามสมมติ) อายุ 13 ปี พี่สาวของผู้สูญหาย และเป็นคนสุดทายที่อยู่กับน้อง เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุพ่อแม่ออกไปธุระนอกบ้าน ตนก็เลี้ยงน้องอยู่บ้าน โดยน้องสาวนั่งอยู่ที่แคร่หน้าบ้าน จากนั้นตนก็ไปซื้อน้ำแข็ง น้ำดื่ม ขนมมาให้น้องสาวกิน ระหว่างนั้นราว ๆ 09.00 น. น้องก็บอกตนว่า “ขอไปเล่นนะพี่” จากนั้นน้องก็เดินไปเล่นที่บ้านน้าสาวซึ่งบ้านติดกัน จุดที่น้องชมพู่ นั่งเล่นเป็นกองทรายหน้าบ้าน มีเปลสีฟ้า โดยภาพสุดท้ายที่ตนเห็น คือ น้องสาวนั่งเล่นกับสุนัขที่บ้าน และถือมะม่วงที่ร่วงพื้นไว้ในมือ 1 ลูก หันมายิ้มให้ตนที่กำลังนั่งอยู่บนแคร่ไม้ไผ่

จากนั้นตนก็นอนเล่นโทรศัพท์มือถือ เผลอหลับไปครู่หนึ่งก่อนสะดุ้งตื่น ซึ่งน่าจะหลับไปไม่ถึง 10 นาที ตนหันไปหาน้องสาว ตอนนั้นไม่เจอน้องแล้ว จึงพยายามเดินตามหาน้อง ทั้งป่ายาง สวนมันสำปะหลัง และวิ่งไปถามคนในซอย รวมทั้งบ้านญาติที่อยู่ใกล้กัน แต่ญาติก็บอกว่าน้องไม่ได้ไปหา

ระหว่างที่ตนหลับไป ตนไม่ได้ยินเสียงอะไร ไม่มีอะไรแปลก สุนัขที่บ้านก็ไม่เห่า ส่วนตัวไม่รู้จริง ๆ ว่าน้องหายไปไหน แต่เชื่อว่าผีอาจจะบังตาเอาไว้

795836

ระหว่างนั้นมีชาวแต่งกายชุดขาวเดินทางมาทำพิธีในพื้นที่ โดยเป็นการสื่อสารพลังจิตกับเจ้าป่าเจ้าเขา โดยทราบชื่อ นายดำรงค์ พจนา เป็นหมอรักษาคนที่ผีเข้าในพื้นที่

ระหว่างการทำพิธี มีกลุ่มญาติมาดูการทำนายและการสื่อสารพลังจิต คุยกับเจ้าป่าเจ้าเขา โดยมีการสวดมนต์ และพูดคุยกับชาวบ้านไปด้วย นายดำรงค์ จะหลับตาเหมือนสื่อสารกับสิ่งที่มองไม่เห็น และพูดคำสื่อสารออกมาทำนองว่า ผีไม่ยอมปล่อยออกมา เด็กยังมีชีวิตอยู่ แต่อ่อนปวกเปียกแล้ว โดยผีมีการต่อรองขอว่าจะปล่อยเด็กออกมาวันพระ

835909

จังหวะหนึ่งนายดำรงค์ ได้ให้นางสมควร หลายโพธิ์ ซึ่งเป็นยายของผู้สูญหาย ตะโกนสื่อสารกับผีว่า ผีเอาไปผิดคน ให้นำมาคืน แล้วจะไม่เอาโทษอะไร

นายดำรงค์ เปิดใจว่า การทำพิธีนี้ไม่ได้รับประกัน 100% ว่าจะเจอเด็ก แต่เป็นความเชื่อที่ทำให้ชาวบ้านสบายใจ ส่วนตัวปกติไม่เคยทำเช่นนี้ จะรักษาแต่คนผีเข้า การทำแบบนี้ตนก็เพิ่งทำครั้งแรก จากการสื่อสารผีที่คุยด้วยเป็นผีเจ้าป่า มี 2 ตน เป็นชายและหญิง ลักษณะชายหัวขาด นุ่งโจงกระเบน มือขวาถือหัวตัวเองเอาไว้ และหญิงนุ่งผ้าถุงอิสาน เสื้อคอกระเช้า สื่อสารว่า ที่ไม่ให้เด็กออกมา เพราะมาทวงสิ่งที่ชาวบ้านเคยไปบนบานไว้เมื่อครั้งก่อน 

113967

เมื่อราว 3 ปีก่อน รถขนมันสำปะหลังของครอบครัวนี้ติดหล่ม และไม่สามารถนำรถขึ้นได้ ซึ่งอาจจะมีคนงานเอ่ยปากบนบานอะไรไว้ และไม่ได้ให้ตามคำขอ ทำให้เจ้าที่ทวงสิ่งที่ขอเอาไว้ ซึ่งทีมข่าวถามพ่อแม่ผู้สูญหาย ก็ยอมรับว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวจริง แต่ไม่ทราบว่าคนงานคนไหนเอ่ยปากบนบานเจ้าที่

อย่างไรก็ตามเจ้าป่ายังบอกว่า จะเอาเด็กมาคืนให้ เมื่อถึงวันพระวันที่ 13 พ.ย.63 แต่ที่ยังไม่คืน เพราะต้องการต่อรองเอาสิ่งที่บนไว้เหมือนกับเขารออยู่ ส่วนสภาพน้องชมพู่ถูกใบไม้คลุมหัวเอาไว้ 2 ใบไม่ให้คนเห็น และอยู่ในสภาพอ่อนปวกเปียกไม่มีแรง แต่ยืนยันว่ายังไม่เสียชีวิต 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส