ลุงแท็กซี่ 8 ล้านถอยป้ายแดง แต่งหล่อ โอนคืนหนี้เจ้าของอู่ น้องยันคนดีไม่ลวงโลก (คลิป)

13 พ.ค. 63

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "เเป๋ว เเว๋ว" ได้โพสต์เรื่องราวของ นายสิทธิ์ชัย ใกล้ชิด อายุ 72 ปี ซึ่งเป็นคนขับแท็กซี่ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่า ชีวิตเหมือนหนังในละคร และตอนนี้ก็ไม่มีจะกินแล้ว ต้องปรับตัวให้อยู่รอด เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเช่ารถวันละ 300 บาท

668992

ทั้งนี้นายสิทธิ์ชัย จึงต้องมารับจ้างส่งพัสดุแทนรับส่งผู้โดยสาร หลังจากนั้นมีคนบริจาคให้เป็นจำนวนมาก ยอดทะลุ 8 ล้านบาทภายในคืนเดียว

อ่านเพิ่มเติม : ลุงแท็กซี่ได้เงินบริจาคคืนเดียว 8.3 ล้าน ความดันขึ้นเข้า รพ. คิดมากโซเชียลแซะแรง 

448314

ล่าสุดวันที่ 13 พ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางไปพูดคุยกับ นายปรีชา ชุ่มสมบัติ อายุ 49 ปี เจ้าของอู่แท็กซี่มังกรเจ้าพระยา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เปิดเผยว่า ตนได้เข้าเเจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 11 พ.ค.63 ที่ผ่านมา เพราะได้รับความเดือดร้อนเนื่องจาก นายสิทธิชัย ลุงเเท็กซี่ที่เป็นข่าว และนายศักดิ์ไทย ใกล้ชิด ลูกชายของลุงเเท็กซี่ ซึ่งเป็นคนรู้จักกัน รวมทั้งคู่ค้างค่าเช่ารวมกันประมาณ 14,170 บาท

โดยลุงสิทธิชัยค้างค่าเช่า 2 งวด ในเดือนพฤษภาคม ปี 62 จำนวน 1,400 บาท ส่วนนายศักดิ์ไทย ลูกชาย ค้างค่าเช่า 12,770 บาทดังนี้

เดือนมกราคม ปี 63 จำนวน 5,600 บาท
เดือนกุมภาพันธ์ ปี 63 จำนวน 2,570 บาท
เดือนมีนาคม ปี 63 จำนวน 2,000 บาท
เดือนพฤษภาคม ปี 63 จำนวน 2,600 บาท

นายสิทธิชัยและลูกชาย มาเช่ารถแท็กซี่ของตนขับอยู่ทั้งคู่ โดยคิดค่าเช่าแบบควงกะ วันละ 700 บาท
โดยขับรถอยู่ที่วินรถแท็กซี่ห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส บางปู จ.สมุทรปราการ แต่ที่ผ่านมามีพฤติกรรมหากติดหนี้แล้วไปทวงก็ไม่ได้ เวลารถเสียก็ไม่รับผิดชอบ อ้างอย่างเดียวว่ารถพัง

นอกจากนี้ยังเป็นคนขี้น้อยใจ สะกิดอะไรก็ไม่ได้ บ่อน้ำตาตื้น ร้องไห้ง่าย ซึ่งหลังจากที่เป็นข่าวและได้รับเงินบริจาคกว่า 8 ล้านบาท ก็ติดต่อนายสิทธิชัย ไม่ได้อีกเลย ตนได้ทวงถามหนี้กับนายศักดิ์ไทย ลูกชาย ก็บอกว่าไม่ลืม เเต่หลังจากนั้นก็ไม่มาเช่ารถตนขับอีก เเละติดต่อไม่ได้อีกเช่นกัน เมื่อตามไปที่บ้านก็ไม่พบ โทรศัพท์ไปก็ไม่ติด ซึ่งที่ผ่านมาตนยอมให้ติดค้างก็เพราะสงสาร บางครั้งนายศักดิ์ไทย คนเป็นลูกชาย มาบีบนวดอ้อนวอนเพื่อขอยืมเงินตนก็ให้ ยืนยันว่าที่ออกมาเรียกร้องในครั้งนี้ไม่ได้สนใจเรื่องเงินบริจาค แต่ต้องการให้นายสิทธิชัย เเละนายศักดิ์ไทย ชดใช้หนี้ที่ติดค้างอยู่เท่านั้น

ส่วนที่นายสิทธิชัย อ้างว่าอยู่คนเดียวไม่มีจะกินนั้น แท้จริงแล้วอยู่กับนายศักดิ์ไทย และหลานอีกคนหนึ่ง นอกจากนี้นายสิทธิชัยยังมีลูกสาว เเต่ลูกสาวอยู่คนละที่ ซึ่งทุกคนมีงานทำ ไม่ได้ลำบาก ส่วนบ้านที่อาศัยอยู่ไม่ใช่บ้านเช่าตามที่กล่าวอ้าง แต่เป็นบ้านของอดีตภรรยาที่ให้นายศักดิ์ไทยอาศัยอยู่ โดยนายสิทธิชัย ผู้เป็นพ่อก็อาศัยอยู่ด้วยกัน ซึ่งคนในวินแท็กซี่ก็รู้นิสัยดีว่านายสิทธิชัยลวงโลก

"ผมชื่อนายปรีชา ชุ่มสมบัติ กล้าพูดได้เลยว่าลุงที่บอกอยู่บ้านคนเดียว เเล้วร้องไห้บอกไม่มีจะกิน ไม่เป็นความจริง" นายปรีชา กล่าว 

739527

ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับเพื่อนเเท็กซี่ของนายสิทธิชัย ที่ขับวินเเท็กซี่อยู่ห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส บางปู จ.สมุทรปราการ โดยนายลาภิศ เพชรเเย้ม บอกว่า รู้จักกับนายสิทธิชัย เเละนายศักดิ์ไทย มานานแล้ว โดยเฉพาะนายศักดิ์ไทย จะสนิทกับตนมาก เท่าที่สัมผัสนิสัยของทั้งคู่ ที่ผ่านมาใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้ดูลำบากเเต่อย่างใด ซึ่งหลังจากที่ทราบข่าวว่ามีคนบริจาคเงินให้ถึง 8 ล้านบาท ก็รู้สึกค้านอยู่ในใจ เพราะสิ่งที่ปรากฎผ่านสื่อนั้นเป็นภาพลวงตา ไม่ใช่ความจริง ซึ่งการที่ลุงออกมายกมือไหว้เเละร้องไห้ผ่านสื่อ คนที่ไม่รู้จักเห็นก็อาจจะรู้สึกสงสาร เเต่คนที่รู้จักก็จะคิดอีกเเง่ ซึ่งตนไม่ได้อิจฉา เเต่อยากฝากถึงสังคมว่าก่อนจะบริจาคเงินให้ใคร ควรตรวจสอบให้ดีว่าลำบากจริงหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ตนก็ไม่ทราบว่าลุงอยู่ที่ไหน เเม้เเต่นายศักดิ์ไทย ลูกชายลุง ที่สนิทกับตนมากยังติดต่อไม่ได้เลย

478964

จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของนายสิทธิชัย ในพื้นที่ ต.เเพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เเต่ไม่พบตัวนายสิทธิชัยเเละลูกชาย มีเพียงหลานชายที่ยังอยู่ในบ้าน ผู้สื่อข่าวพยายามกดกริ่ง เเละส่งเสียงเรียกที่หน้าบ้าน เเต่ไม่มีเสียงตอบรับ

จากการพูดคุยกับเพื่อนบ้าน ทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีผู้อาศัย 3 คน คือนายสิทธิชัย นายศักดิ์ไทย เเละหลานชาย ไม่ได้อยู่คนเดียวเเต่อย่างใด ซึ่งตั้งเเต่ได้ข่าวว่าได้เงินบริจาค 8 ล้านบาท เเละเริ่มมีนักข่าวมาตามหา ก็ไม่เห็นนายสิทธิชัย เเละนายศักดิ์ไทยอีกเลย ก็ไม่ทราบว่าไปไหน ส่วนเรื่องความเป็นอยู่ ชาวบ้านก็ไม่ทราบเรื่องภายในครอบครัว เพราะชุมชนละเเวกนี้ ลักษณะคือต่างคนต่างอยู่

536604

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางไปที่ปั๊มเเก๊ส NGV เเห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เป็นปั๊มน้ำมันที่นายสิทธิชัย เติมเเก๊สเป็นประจำ โดยนางธัญวรัตน์ คำป้อม พนักงาน ให้ข้อมูลว่า เห็นนายสิทธิชัย ขับรถมาเติมเเก๊สครั้งล่าสุดเมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมา ซึ่งรถที่ขับมาเป็นรถเเท็กซี่เขียวเหลืองส่วนบุคคลรุ่นใหม่ล่าสุด สภาพใหม่ ป้ายเเดง

ทั้งนี้ตนก็สงสัยว่านายสิทธิชัย นำเงินที่ไหนมาซื้อ เพราะเมื่อก่อนจะเห็นขับรถเเท็กซี่เช่า เเละมาเติมเเก๊สที่ปั๊มน้ำมันเเห่งนี้ทุกวัน เเต่มาคราวนี้ขับเเท็กซี่ส่วนบุคคล อีกทั้งการเเต่งตัวก็ดี เสื้อผ้าที่ใส่ก็ดูมีราคา กระทั่งมาทราบภายหลังจากน้อง ๆ ที่นำรูปมาให้ดู พบว่านายสิทธิชัย ได้รับเงินบริจาคถึง 8 ล้านบาท ตนก็ดีใจกับลุงด้วย ส่วนลุงจะจนจริงหรือไม่ตนก็ไม่ทราบ เพราะที่ผ่านมารู้จักเพียงผิวเผิน ไม่ได้สนิทกัน ซึ่งลุงสิทธิชัยเป็นคนพูดจาสุภาพ เเละอัธยาศัยดี เเต่หลังจากวันนั้นก็ไม่เห็นลุงสิทธิชัยอีกเลย

694472

ทีมข่าวสรุปประโยคจากคำสัมภาษณ์แหล่งข่าวทั้งหมดดังต่อไปนี้

นายปรีชา ชุ่มสมบัติ เจ้าของอู่แท็กซี่ บอกว่า "ลวงโลก ไม่ได้ลำบากจริง ชอบเล่นบทเรียกน้ำตา"

นายลาภิศ เพชรเเย้ม เพื่อนที่ขับแท็กซี่เดียวกัน บอกว่า "สองพ่อลูกไม่ได้ลำบาก แกล้งจนที่เห็นเป็นภาพลวงตา"

เพื่อนบ้าน บอกว่า "ที่บ้านอยู่กัน 3 คน ได้เงิน 8 ล้านบาท ก็ไม่เห็นหน้าเลย"

นางธัญวรัตน์ คำป้อม บอกว่า "ถอยแท็กซี่รุ่นใหม่ป้ายแดง ใส่เสื้อผ้าดูแพง"

613453

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังตามทะเบียนบ้านของนายสิทธิชัย อ.เมือง จ.ชัยนาท เพื่อพบกับนางชุติมา จันดาทอง อายุ 71 ปี น้องสาวของนายสิทธิชัย ซึ่งมีอาชีพเปิดเป็นร้านขายของชำ พร้อมพูดคุยถึงกรณีดราม่า กล่าวว่า นายสิทธิชัย เป็นพี่ชายแท้ ๆ พ่อเป็นข้าราชการทหารอยู่ที่ จ.นครสวรรค์ ซึ่งบ้านที่ชัยนาทเป็นบ้านเกิดของตนและพี่ชาย แต่สมัยหนุ่ม ๆ พี่ชายเดินทางไปทำงาน เป็นคนขับรถที่กรุงเทพฯ ทั้งรถโดยสาร รถตู้ และมาจบที่รถแท็กซี่ จากนั้นก็ขาดการติดต่อจากกันไป เจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 4-5 เดือนที่แล้ว เป็นงานครบรอบ 100 วันของแม่

ส่วนข่าวเรื่องที่ว่าได้เงินบริจาค ไม่อยากให้ใครมองว่าเมื่อพี่ชายมีเงินแล้ว ตนหวังจะพึ่งใบบุญพี่ชาย ยืนยันพี่ชายเป็นคนดี ซื่อสัตย์ ขยันทำมาหากิน ทั้งนี้พี่ชายนั้นอยู่ตัวคนเดียวจริง ๆ ภรรยาแยกทางกัน มีลูก 2 คน ลูกสาวมีครอบครัวไปแล้ว ส่วนลูกชายป่วยจิตเวช พี่ชายเคยบอกตอนเจอกันว่าเครียดเรื่องค่างวดรถ ส่วนตัวไม่คิดว่าพี่ชายจะเชิดเงินหนี ตอนนี้พี่ชายน่ารักษาตัวอยู่ เพราะป่วยเป็นโรคไตระยะที่ 2

ทั้งนี้หากพี่ชายดูข่าวอยากบอกว่า "ตอนนี้คิดถึงและเป็นห่วงพี่ชายมาก เพราะว่าติดต่อไม่ได้เลยไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดี ถ้ายังอยู่ดีก็ติดต่อกลับมาบ้าง รักษาตัวอยู่ที่ไหนก็บอกกันบ้าง จะได้ไม่ต้องนั่งนอนเป็นห่วงแบบนี้ มีโอกาสคงได้เจอกัน" นางชุติมา กล่าวทั้งน้ำตา

489210

อย่างไรก็ตามแฟนเพจเฟซบุ๊ก "ที่นี่สมุทรปราการ" โพสต์ข้อความอ้างว่านายสิทธิชัย ได้นำเงินบริจาคที่ได้รับมา 8 ล้านบาทไปมอบให้กับหน่วยงานต่าง ๆ อีกด้วย

263198

622072

โดยจากการตรวจสอบพบว่านายสุทธิชัย ได้แบ่งเงินส่วนหนึ่งไปบริจาคดังนี้

1.เจ้าของอู่เเท็กซี่แห่งหนึ่ง 100,000 บาท 
2.มูลนิธิเพื่อคนขับเเท็กซี่ 100,000 บาท
3.อุปกรณ์ทางการเเพทย์ 100,000 บาท
4.อุปกรณ์ดับไฟป่าเชียงใหม่ 100,000 บาท 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส