จากกรณีเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 63 ช่วงค่ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตภายชุมชนริมคลองหัวหมากน้อย ถนนรามคำแหง 60 แยก 3 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
ตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตคือ นายเจา บุญท้วม อายุ 25 ปี มีบาดแผลถูกยิงบริเวณท้ายทอย 1 นัด โดยผู้ก่อเหตุคือนายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ปมเหตุมาจากนายเจาทะเลาะกับนายราม พ่อของนายเอ เจ้าตัวจึงเข้าไปช่วยพ่อนั้น
วันที่ 12 พ.ค. 63 ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุภายในชุมชน บริเวณทางเดินสะพานปูน พบคราบเลือดสีแดงสดติดอยู่ นางสายทอง สกุลนาค อายุ 49 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุ แม่ของนายเอ บอกว่านายรามถูกทำร้าย ตนจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วย
เมื่อไปถึงพบว่านายเจากำลังรัดคอนายราม โดยมีนายดินเพื่อนอีกคนช่วยจับตัวไว้ด้วย ตนจึงขอนายดินว่าอย่าทำ เพราะนายรามเป็นลูกน้องตน นายดินจึงปล่อยและวิ่งออกไป แต่นายเจายังรัดคอแน่น ตนยกมือไหว้ขอร้องให้ปล่อยนายราม แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอม ยังคงรัดแน่น
ก่อนที่นายเอ ลูกชายนายรามจะเข้ามา ตนก็บอกว่าเดี๋ยวตนจัดการเอง ระหว่างนั้นภรรยานายรามพยายามแกะมือนายเจาออกจากคอสามี แต่ไม่เป็นผล สุดท้ายได้ยินเสียงคล้ายปืน 1 นัด ตนจึงรีบวิ่งหนีและทราบภายหลังว่านายเอ ลูกชายของนายรามเป็นคนก่อเหตุ
โดยตนไม่ทราบปมเหตุที่เกิดเรื่อง คาดว่าน่าจะเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่
นางสุกัญญา ผลขำทอง 45 ปี พี่สะใภ้ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะนายรามเมาและพูดจาไม่ดีใส่นายเจา จึงมีปัญหาชกต่อยกัน ก่อนที่ลูกชายนายรามจะเข้ามาช่วย โดยลูกชายนายรามพยายามยิงใส่นายเจาถึง 3 นัด แต่กระสุน 2 นัดแรกไม่ออก จนนัดสุดท้ายเจาะท้ายทอยเสียชีวิต
ที่ผ่านมา นายเจากับนายรามไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน และนายเจาก็ไม่ได้ติดยาเสพติดตามที่มีข่าว โดยเจ้าตัวเป็นคนพูดจาดี ขยันทำงาน แต่อาจจะอารมณ์ร้อนเล็กน้อย ก่อนเกิดเหตุนายเจาทะเลาะกับเพื่อนมา จึงอาจจะมีอารมณ์อยู่ ไปเจอนายรามจึงมีปากเสียงกันขึ้น ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่ารุนแรงมาก เพราะผู้ก่อเหตุอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น ส่วนนายเจาถือเป็นเสาหลักทำงานส่งเสียภรรยาและลูก หลังเกิดเหตุครอบครัวเสียใจเป็นอย่างมาก
นางเสงี่ยม (สงวนนามสกุล) แม่ผู้ต้องหา กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุ สามีโทรมาหา พูดว่า "ช่วยด้วย ช่วยด้วย" ส่วนฝ่ายคู่กรณีพูดว่า "มึงอยากตายไหม" ด้วยความตกใจ ตนจึงชวนเพื่อนบ้านไปที่เกิดเหตุ เห็นนายเจากับเพื่อนช่วยกันกดศีรษะและล็อกคอนายราม สามีตนเอาไว้ เพื่อนบ้านพยายามบอกให้ออกไป ไม่ให้ทำร้ายสามีตน ซึ่งเพื่อนของนายเจาก็ยอมเดินออกไป เหลือเพียงนายเจาที่ยังล็อกคอสามีตนไว้ ตนพยายามดึงมืออีกฝ่ายก็ไม่ออก
จากนั้น นายเอ ลูกชายตนวิ่งเข้ามาพร้อมพูดว่า "อย่าทำพ่อหนู" เพื่อนบ้านพยายามบอกให้ลูกชายตนออกไป เพราะจะจัดการเอง แต่ไม่ถึง 2 นาที ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ก่อนที่ลูกชายตนจะวิ่งหนีไป โดยตนถามลูกชายหลังถูกจับว่าทำไมถึงยิง ลูกชายบอกว่า กลัวพ่อตาย เพราะคู่กรณีไม่ยอมปล่อย ตนก็ไม่รู้ว่าลูกชายเอาปืนมาจากไหน โดยที่ผ่านมาลูกชายเป็นคนดี ตั้งใจทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ไม่เคยสุงสิงหรือทะเลาะกับผู้เสียชีวิต ลูกชายก็ร้องไห้ พูดว่าเสียใจที่ใจร้อนเกินไป
ขณะที่ สน.หัวหมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำผู้ต้องหาผ่านสหวิชาชีพ พร้อมแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
ส่วนงานศพของผู้เสียชีวิต ชาวบ้านในชุมชนได้ช่วยกันบริจาคเงินให้น้องสาวผู้เสียชีวิต เพื่อนำไปเป็นค่าดำเนินการรับศพมาประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
