จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก "WATCHDOG THAILAND" ได้โพสต์รูปภาพสุนัขพันธุ์ไทยหลังอานตัวสีดำ ถูกมัดเชือกที่คอนอนแน่นิ่งบนพื้น โดยคาดว่าถูกโยนลงมาจากตึกกลางตลาดศรีย่าน เขตดุสิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สามเสน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมเชิญผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ และช่างก่อสร้าง รวม 8 ราย เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยหัวหน้าคนงานยืนยันไม่ได้ทารุณกรรมสัตว์ หากใครไม่เชื่อกล้าท้าให้มาจุดธูปสาบาน ตามที่ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้(12 ต.ค.60)
นายกงใจ วงศ์ศรียา อายุ 52 ปี คนงานก่อสร้างชาว จ.นครพนม ผู้ที่ใช้เชือกทำบ่วง และให้เพื่อนคนงานชาวกัมพูชา คล้องคอสุนัขตัวดังกล่าว ได้พาทีมข่าวขึ้นไปสำรวจตึกร้าง ล็อคที่ 3 โดยขึ้นไปบริเวณดาดฟ้าชั้น 4 ซึ่งเป็นจุดที่พบสุนัขครั้งแรก โดยเมื่อวานนี้ (11 ต.ค.) เวลาประมาณ 11.00 น. ตนและเพื่อนคนงานชาวกัมพูชา ได้ขึ้นไปบนดาดฟ้า แล้วพบสุนัขสภาพอ่อนแรง นอนอยู่ที่ระเบียง ซึ่งยื่นออกไปจากดาดฟ้าด้านหลัง
นายกงใจ รู้สึกสงสาร จึงหาเชือกมาผูกทำเป็นบ่วง ต่อกับท่อพีวีซี เพื่อให้เพื่อนคล้องคอสุนัขขึ้นมา ขณะที่ดึงสุนัขขึ้นมาได้ ตนกำลังจะเข้าไปแกะเชือกที่คอ แต่สุนัขมีท่าทีดุร้าย กระโจนเข้าหาด้วยความตกใจ ตนเองจึงกระโดดขึ้นบันไดเหล็กข้างกำแพง หลังจากนั้นสุนัขได้วิ่งไปด้านหน้าตึก และกระโดดขึ้นไปบนกำแพงดาดฟ้า ขณะนั้นคาดว่า สุนัขน่าจะกลัวคน ตนจึงตัดสินใจเดินลงไปชั้นล่าง เพื่อให้สุนัขยอมลงมาจากกำแพง
เมื่อตนเดินลงไปถึงชั้น 1 ได้ยินชาวบ้านตะโกนว่า มีสุนัขตกตึก ตอนนั้นยอมรับว่าตกใจ และคิดว่าน่าจะเป็นสุนัขตัวที่เพิ่งจะให้ความช่วยเหลือ แต่ไม่กล้าเข้าไปดูเพราะรู้สึกสงสาร พร้อมยืนยันว่า ไม่มีใครโยนสุนัขลงไปชั้นล่าง เพราะตนเองก็รักสุนัข และหวังดีอยากช่วยเหลือ แต่กลับต้องตกเป็นจำเลยสังคม
นอกจากนี้ กระแสข่าวที่บอกว่า พวกตนกินเนื้อสุนัข ก็ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ส่วนแมวที่ตกจากตึกไปก่อนหน้านี้ ตนไม่ทราบเรื่องแต่อย่างใด
จากการสอบถาม
พ.ต.อ.ปรีชา กองแก้ว ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลสามเสน เปิดเผยว่า ได้สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว 5 ราย ประกอบกับดูจากสภาพแวดล้อม ยังไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้เรื่องการทารุณกรรมสัตว์ แต่ต้องรอผลตรวจซากสัตว์จากโรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อความชัดเจนอีกครั้ง