พี่นักโทษหัวโจกแหกคุกที่ยังหนี เชื่อข้ามถึงลาวไม่ยอมมอบตัว วอนให้นึกถึงลูก หวั่นถูกจับตาย (คลิป)

จากกรณีผู้ต้องขังหลบหนีจากเรือนจำ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีนักโทษหลบหนี 5 คน ประกอบด้วย นายสุริยันต์ สุพรรณ์ ประเสริฐ อายุ 33 ปี นายวัฒนชัย พันภักดี อายุ 40 ปี นายภานุพงษ์ โคตรชมภู อายุ 23 ปี นายพัฒพงษ์เกษ์คำใส อายุ 32 ปี และนายอานนท์ หลักคำ อายุ 42 ปี ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนักโทษได้ 4 คน เหลือนักโทษที่ยังหลบหนีอีก 1 คน คือนายอานนท์ หลักคำ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งไล่ล่าตัวอยู่ในขณะนี้ โดยทางการตั้งค่าหัวรางวัลนำจับถึง 3 หมื่นบาท 

ล่าสุด วันที่ 6 พ.ค.63 เมื่อเวลา 15.00 น. พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ รองผบก.ภ.จว.สกลนคร พร้อมตำรวจชุดสืบสวนภ.จว.สกลนคร ลงพื้นที่อ.หนองหาน จ.อุดรธานีที่มีเขตติดต่อกับอ.สว่างแดนดิน โดยมีตำรวจชุดสืบสวนภ.จว.อุดรธานี ตร.ชุดสืบสวนสภ.หนองหาน ร่วมวางแผนติดตามจับกุมนักโทษรายสุดท้าย คือนายอานนท์ โดยพบเบาะแสว่านายอานนท์ มีพี่ชายที่อยู่อ.วังสามหมอ จ.อุดรานี และมีคนพาตัวหลบหนีมาอยู่ในพื้นที่ต.สร้อบพร้าว อ.หนองหาน จ.อุดรธานี

โดยวันนี้ทางพ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ ได้ประสานใช้เฮลิคอปเตอร์แบบเบลล์ 429 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกบินไล่ล่าคนร้ายที่หลบหนีทางอากาศ เพื่อกดดันคนร้ายโดยคาดว่าจะสามารพจับกุมตัวได้ในเร็ว ๆ นี้ โดยทางชุดไล่ล่าจับกุมตัวย้ำว่าหากมีการต่อสู้ขัดขืนทางตำรวจอาจมีการใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด

นายทอดใจ หลักคำ อายุ 57 ปี พี่ชายคนโตของ น.ช.อนนท์ บอกว่า ตนได้ติดตามข่าวและเห็นแล้วว่าน้องชายของตัวเองเป็นนักโทษคนสุดท้ายที่ไม่ยอมจำนนและมอบตัว ซึ่งตนคิดว่าคงจะไม่มอบตัว เพราะเป็นคนมีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง ไม่ว่าจะพูดหรือสั่งสอนอะไรก็เอาแต่เงียบแต่ไม่ทำตาม เพราะจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่มอบตัวเสียที แต่คิดว่าน้องชายคงจะหนีไปเรื่อย ๆ จนสุดความสามารถ หรืออาจจะออกไปฝั่งลาวแล้วก็ได้ 

ทั้งนี้คิดว่าน้องชายยังไม่ได้หนีไปฝั่งประเทศลาวเพราะเจ้าตัวไม่เคยไปมาก่อน รวมถึงไม่มีญาติพี่น้องอยู่ประเทศลาว ตนมั่นใจว่าน้องชายจะไม่ขอความช่วยเหลือจากตนแน่นอน เพราะเจ้าตัวรู้ว่าตนเป็นคนที่รังเกียจเรื่องยาเสพติดมาก และตนก็เคยบอกกับน้องชายแล้วว่าถ้าเขาติดคุกด้วยคดียาเสพติดจะไม่ไปเยี่ยมและไม่ช่วยเหลือใด ๆ อีก 

อยากให้น้องชายมอบตัวโทษหนักจะได้กลายเป็นเบาไม่อยากให้ดิ้นรนหนีไปอีก เพราะหนีไปก็ไม่รอดและสุดท้ายก็ต้องถูกจับ ซึ่งหากหนีก็ต้องหนีตลอดชีวิต

ด้าน นายบุญพบ หลักคำ อายุ 49 ปี พี่ชายคนรองของ น.ช.อนนท์ บอกว่า ตนไม่ค่อยสนิทกับน้องชายเพราะติดคุกไปกว่า 10 ปี เมื่อพ้นโทษมาช่วงเดือนมกราคม 2563 น้องชายได้แวะมาหาบอกว่าได้พ้นโทษแล้ว หลังจากนั้นเขาก็หายไปอยู่กับเพื่อนและไม่เคยได้เจออีกเลย เพราะเชื่อว่าตั้งใจไปในเส้นทางยาเสพติด แม้ว่าตอนนี้จะยังหลบหนี แต่ในที่สุดก็ไปไม่รอดและคงจะกลับใจมอบตัวด้วยตัวเองและคิดว่าคงไม่คิดสู้

อย่างไรก็ตาม ญาติ ๆ ทุกคนก็เสียใจที่น้องชายแหกคุก และทุกคนก็กลัวว่าจะถูกวิสามัญและอยากฝากบอกให้เขามอบตัว ให้นึกถึงลูกชายที่ยังเป็นภาระที่ต้องดูแลต่อไป