จากกรณีนายสมศักดิ์ เจิมใจดี อายุ 48 ปี ถูกอาวุธปืนขนาด.38 ยิงเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 2 ต.ท่าแร้ง อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี แพทย์ชันสูตรพลิกศพพบมีบาดแผลถูกยิงเข้าบริเวณ ไหล่ซ้าย หน้าท้องซ้าย แผ่นหลังขวา แห่งละ 1 แผล และที่โคนขาขวา 2 แผล รวมทั้งหมด 5 แผล
สอบสวนทราบว่า นายนภดล นิลใบ หรือเด็ช คู่อริของลูกชายผู้เสียชีวิต เป็นคนลงมือก่อเหตุ เนื่องจากผู้ตายพยายามเข้าไปเคลียร์ปัญหาให้ลูกชายแต่นายนภดลถูกยิงสวนจนเสียชีวิต
วันที่ 3 พ.ค.63 น.ส.อินทุอร ฟักสังข์ อายุ 23 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ บอกว่า ก่อนหน้านี้สามีเคยเล่าให้ฟังว่า ลูกชายนายสมศักดิ์ชอบเบิ้ลรถจักรยานยนต์ใส่และมองหน้าหลายครั้ง จนเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม สามีเจอลูกชายนายสมศักดิ์ โดยบังเอิญที่หน้าปากซอยบ้าน อีกฝ่ายยังเบิ้ลรถใส่อีก สามีจึงต่อยไป 1 ครั้งด้วยความไม่พอใจ
ซึ่งช่วงค่ำวันดังกล่าวนายสมศักดิ์ พาลูกชายและพวกมาหาที่บ้านหลายคน ในทำนองจะมาเอาเรื่องกลับ โดยสามีตนไม่ได้ออกไปเพราะกลัวจะมีเรื่อง แม่ของสามีออกไปคุยแต่อีกฝ่ายยังไม่พอใจ
จนวานนี้ช่วงเย็นสามีบอกจะเอาวัวออกไปที่เกิดเหตุ เพื่อรอรถมารับไปซ้อมวิ่ง กระทั่งตนได้ยอนเสียงปืน และสามีวิ่งกลับมาที่บ้านโดยในมือยังถือปืน พร้อมพูดว่า “ตายแล้วมั้ง” ตนจึงถามกลับว่า “ทำเขาทำไม” เพราะคิดว่าสามีน่าจะยิงฝั่งนายสมศักดิ์ไป สามีบอกตนว่า “มันจะทำกูก่อน” จากนั้นตนก็รีบวิ่งไปดูคนที่ถูกยิงแต่พบว่าเสียชีวิต เมื่อกลับมาถึงบ้านสามีก็หนีไปแล้ว
โดยที่ผ่านมาสามีเป็นคนเงียบ ๆ ไม่หาเรื่องใครก่อน และไม่เคยมีปืน คาดว่าเจ้าตัวน่าจะรู้ว่าต้องมีเรื่อง หลังจากที่นายสมศักดิ์บุกมาที่บ้าน จึงไปหาปืนมาเตรียมไว้ป้องกันตัว ซึ่งนายสมศักดิ์ ก็พยายามขับรถวนหาสามีตนหลายรอบก่อนเกิดเหตุ เชื่อว่าเจ้าตัวไม่น่าจะหนีไปได้ไกลและคงเข้ามอบตัวในเร็ว ๆ นี้
ด้าน นายทศพร เจิมใจดี อายุ 19 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิต บอกว่า เมื่อประมาณวันที่ 29 เมษายน ตนขับรถจักรยานยนต์ออกไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อห่างจากบ้านประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างนั้นรถน้ำมันจะหมดและมีอาการกระตุก ตนจึงต้องเบิ้ล ก่อนขับรถไปเติมน้ำมัน เป็นจังหวะเดียวกับที่เจอนายนภดล ผู้ก่อเหตุ ซึ่งถามว่าตนเบิ้ลรถใส่ทำไม ตนจึงบอกว่า “ผมไม่ได้เบิ้ลครับ” และอธิบายว่ารถน้ำมันหมดพร้อมกล่าวขอโทษไป โดยเพื่อนรุ่นพี่ที่นั่งซ้อนท้ายตนซึ่งรู้จักกับอีกฝ่ายพยายามปกป้องตน ไม่ให้อีกฝ่ายมาหาเรื่องจนจบไป
จนวันที่ 1 พฤษภาคม เวลาประมาณ 19.00 น. ขณะที่ตนขับรถจักรยานยนต์มีเพื่อนนั่งซ้อนท้าย ก็เจอกับนายนภดล และเพื่อนรวม 3 คนขับรถจักรยานยนต์มา 2 คัน ระหว่างนั้นนายนภดลถามตนว่า มองหน้าทำไม ตนจึงบอกไปว่า “ผมไม่ได้มองครับบัง” จนอีกฝ่ายก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่เพื่อนที่มาด้วยกันพูดว่าตนมองหน้าอีกแล้ว และบอกให้จอดรถก่อนเข้ามาชกหน้า แต่ใช้มือบังไว้ได้ นายนภดลจึงเข้ามาต่อยซ้ำอีกครั้งเข้าที่เบ้าตาซ้ายจนตาเขียวช้ำ จากนั้นได้โทรศัพท์ไปบอกพ่อ ก่อนที่นายนภดลจะขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านตัวเอง
ไม่นานพ่อตนมาพร้อมกับพี่ ๆ ที่รู้จักรวมทั้งหมด 6 คน โดยพยายามไปเรียกนายนภดลที่บ้าน แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมออกมา มีเพียงแม่ที่ออกมาพูด จากนั้นตนกลับมาที่บ้าน พี่ชายนายนภดลก็เข้ามาพูดเพื่อขอเคลียร์ แต่พ่อตนไม่เคลียร์เพราะนายนภดลไม่มาเอง
หลังจากนั้นตนได้เข้าไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล และตั้งใจจะไปแจ้งความช่วงเย็นวานนี้ แต่จู่ ๆ เพื่อนตนโทรศัพท์มาบอกว่าพ่อถูกยิงเสียชีวิต
วันเดียวกัน ที่สถานีตำรวจภูธรบ้านแหลม เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายนภดล นิลใบ ผู้ต้องหา ได้ตั้งแต่ช่วงเที่ยงที่ผ่านมาโดยนายนพดล ยอมรับว่ายิงนายสมศักดิ์ เพราะอีกฝ่ายเข้ามาทำร้ายก่อน และพยายามจะหยิบอาวุธที่เก็บไว้ใต้เบาะรถออกมาทำร้ายซ้ำ จึงต้องยิงสวนออกไป ซึ่งอีกฝ่ายก็มีความแค้นกันอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าแค้นเรื่องอะไร ส่วนที่อีกฝ่ายบอกว่า ตนไปต่อยนายทศพร ลูกชาย ผู้เสียชีวิตนั้น เป็นเรื่องจริงแต่ต่อยไปแค่ครั้งเดียว ที่เหลือเพื่อน ๆ เป็นคนทำ
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ภคิน ศิวเมธากุล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านแหลม ระบุว่า จากการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตไม่พบอาวุธปืนตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง ซึ่งคำให้การทั้งหมดจากการทำแผนฯเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานอย่างครบถ้วน เบื้องต้นแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
