ผวาทั้งตำบล! แสงกระสือโผล่อาละวาด 5 วันติด กินไก่ยกเล้า เจอจังๆคาบแมวลอยขึ้นฟ้า (คลิป)

จากกรณีหมู่บ้านวังไอ้จืด ต.วังตะเฆ่ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ชาวบ้านพบว่ามีไก่ตายไม่ทราบสาเหตุ ต่อเนื่องมาแล้ว 5 วัน โดยในแต่ละคืนมีลูกไฟสีส้มลอยอย่างช้า ๆ ขนาดเท่าลูกมะพร้าว และจะลอยหนีเมื่อเห็นแสงไฟ มีลักษณะคล้ายค้างคาวยาว 70 ซม. อยู่ตามริมชายป่าระยะไกล ๆ ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นผีกระสือออกมาอาละวาด

ล่าสุดวันที่ 30 เม.ย.63 ทีมข่าวเดินทางมาที่ไร่มันสำปะหลัง หมู่บ้านวังไอ้จืด ต.วังตะเฆ่ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ โดยมีนายเอกชัย สุเสนา ได้พาทีมข่าวมาที่กลางไร่สำปะหลัง ซึ่งเป็นจุดที่นายเอกชัยวิ่งมาดูแสงไฟ และห่างจากจุดนี้ประมาณ 300 เมตรที่บริเวณต้นมะขาม เป็นจุดที่แสงไฟลอยขึ้นมา และเป็นจุดที่นายเอกชัยได้ยินเสียงแมวร้อง ทีมข่าวสังเกตเห็นว่า บริเวณต้นมะขามจะมีศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ ลักษณะเป็นศาลรกร้าง

โดยเจ้าของที่ให้ข้อมูลว่า ศาลเจ้าที่มีเรื่องเล่าว่า ผู้ใหญ่บ้านคนแรกได้มาเข้าฝันลูก ๆ ให้ตั้งศาลให้กลางไร่ ซึ่งหลังจากที่ตั้งศาลก็ไม่เคยเห็นอะไรแปลก กระทั่งมาเห็นแสงไฟสีส้มลอยขึ้นฟ้า

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายเอกชัย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 เม.ย.63 เวลาประมาณ 2.00 น. ตนนอนเฝ่าไร่มันสำปะหลังอยู่เถียงนา และสะดุ้งตื่นขี้นมาเพราะปวดปัสสาวะ ขณะที่ตนกำลังจะเดินไปปัสสาวะ ตนสังเกตเห็นแสงไฟ ตนก็นึกว่าคนกำลังนั่งก่อไฟที่บริเวณใต้ต้นมะขาม ห่างจากจุดที่ตนอยู่ประมาณ 300 เมตร

จากนั้นตนจึงเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ และได้ยินเสียงแมวร้อง แต่ขณะนั้นตนบังเอิญไปเปิดไฟ ทำให้แสงไฟดวงนั้นตื่น ก่อนจะได้ยินเสียงแมวร้องดังกว่าเดิม เหมือนกำลังถูกฆ่า และกำลังดิ้นหนี ตนเลยเดินไปดูใกล้ ๆ จึงเห็นว่าแสงไฟลอยขึ้นไป ที่แสงไฟมีปีกคล้ายค้างคาว และมีแมวสีดำติดไปกับแสงไฟ ขณะที่ลอยขึ้นไป ก็ร้องโหยหวนตลอดเวลา จากนั้นตนก็ไม่ได้เดินไปดูใกล้อีก จึงไม่เห็นรอยเลือด และไม่รู้ว่าสภาพเป็นอย่างไร

ก่อนที่ตนจะมาเห็น ตนรู้สึกสังหรณ์ใจแปลก ๆ และขณะที่เห็นแสงไฟตนก็รู้สึกเสียวสันหลังเหมือนเห็นผี ซึ่งส่วนตัวรู้สึกแปลกใจมาก และไม่รู้ว่าแสงไฟเป็นแสงอะไร แต่ชาวบ้านเชื่อว่า เป็นแสงกระสือ หลังจากนั้นจนถึงวันนี้ ตนก็เห็นแสงไฟทุกวัน หากวันนี้เห็นอีก ก็เป็นคืนที่ 6 แล้ว

ทางด้านของ นายเล็ก สุเสนา พ่อของนายเอกชัย ได้เปิดใจว่า ช่วงปีก่อน ๆ ช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ตนเคยเห็นแสงไฟสีส้ม ๆลุกขึ้นมาเป็นดวง ๆ คล้ายดาวเดือน และลอยขึ้นไปที่เขาน้อย (ป่าชุมชนเขาน้อย) ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามไร่ของตน ก่อนจะลงที่ลำห้วยห่างจากบ้านประมาณ 1 กม. ขณะที่กำลังลงมา แสงไฟจะมีรูปร่างใหญ่ขึ้นคล้ายแสงตะวัน และมีปีก บนปีกเหมือนมีผ้าขาวม้าคลุมตัวอยู่ โดยแสงไฟดังกล่าวไม่ได้ทำอะไร ลอยไปลอยมาเฉย ๆ

กระทั่งครั้งนี้แสงไฟลอยติดต่อกันหลายคืน จึงมีการนำไก่มาล่อกระสือ โดยครั้งนี้ช่วงเวลาประมาณ 20.00 - 21.00 น. ตนเห็นแสงไฟลอยจากต้นมะขามแล้วก็มาที่กอไผ่ ซึ่งตั้งแต่ตนเกิดมาไม่เคยเห็นแสงไฟชัดขนาดนี้

โดยเมื่อวันที่ 28-29 เม.ย.63 ตนมองเห็นแสงไฟลอยเข้าไปในกอไผ่ เมื่อตนวิ่งเข้าไปดูใกล้ ๆ กลับมองไม่เห็นอะไร กระทั่งตนวิ่งกลับมามองที่เดิม แสงไฟก็ลอยขึ้นมาอีกครั้ง ตามความเชื่อของคนเฒ่าคนแก่ เชื่อว่าแสงไฟดังกล่าวเป็นแสงอาถรรพ์ จากคนที่เล่นของ แต่รักษาของไว้ไม่ได้ จึงโยนทิ้ง ทำให้แสงไฟลอยออกมา กลายเป็นวิญญาณที่ล่องลอยบนท้องฟ้า ซึ่งตลอด 5 คืนที่ตนเห็น ตนเชื่อว่า เป็นแสงไฟดวงเดียวกัน แต่ไม่รู้ว่าเป็นวิญญาณของใคร หลังจากนี้ตนไม่รู้จะทำอย่างไรดี เพราะไม่รู้ว่าแสงไฟขึ้นมาได้อย่างไร

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางสาวรัตนา แก้วกล้า คนที่ถ่ายคลิปแสงกระสือ เล่าให้ฟังว่า เห็นแสงกระสือกินแมวตนไม่เชื่อ เพราะนายเอกชัย ชอบพูดติดตลก และตนเป็นคนรุ่นใหม่ด้วย จึงไม่ค่อยเชื่อเรื่องแบบนี้ จึงตัดสินใจมาแอบดูด้วยตัวเอง เพื่อจับผิดว่านายเอกชัยโกหกตน

โดยเมื่อวันที่ 26 เม.ย.63 ตนเห็นแสงไฟลอยฉีกไปทิศซ้ายที แล้วก็ลงมาที่ข้างล่าง ทำแบบนี้ซ้ำกันประมาณ 3-4 นาที แล้วก็ลอยกลับมาที่เดิม ตนจึงกลับดูอีกครั้งในวันอังคารที่ 27 เม.ย.63 และเห็นแสงไฟชัดเจนที่สุด ขณะที่ตนเห็น ตนรู้สึกตื่นเต้นมาก และรู้สึกขนลุกขึ้นมา โดยทุกครั้งที่ตนพูด ตนจะรู้สึกขนลุกตลอด ยแสงไฟดังกล่าว หรือ กระสือ ลอยไปลอยมา ทั้งนี้ตนเชื่อว่ากำลังล่องลอยหาอะไรกิน เพราะความเชื่อของคนดั้งเดิม เชื่อว่า กระสือจะร่องลอยหาอุจจาระกับไก่และเน่ากิน

แต่ขณะที่ตนเห็นตนไม่ได้รู้สึกกลัว เพราะตนเชื่อว่า กระสือไม่น่าจะกินคน โดยชาวบ้านเล่าว่า ก่อนที่นายเอกชัยจะเห็น แสงไฟดังกล่าวมักจะลอยไปลอยมาในช่วงกลางคืนเป็นประจำ แต่ไม่เคยมีใครมานั่งจับผิด กระทั่งนายเอกชัยเห็นกับตาตัวเอง ชาวบ้านจึงให้ความสนใจ

ทีมข่าวพร้อมชาวบ้านประมาณ 10 กว่าคน ได้รอดูแสงไฟดังกล่าว ตั้งแต่ 19.30 - 21.00 น. สังเกตเห็นว่ามีแสงไฟสีแดงส้ม กระพริบไปมา และลอยขึ้นลอยลงตลอดเวลา หากคนนำไฟไปส่อง แสงไฟจะหายไป ชาวบ้านในพื้นที่ได้นำกล้องส่องทางไกลมาให้ทีมข่าวดู โดยทีมข่าวได้มองจากตาเปล่าผ่านกล้อง พบว่ามีดวงไฟสีแดงส้มลอยไปลอยมา และกระพริบหายไปจริง แต่ไม่เห็นรูปร่างหน้าตา และไม่ทราบว่า เป็นอะไร

กระทั่งเวลาประมาณ 20.23 น. ทีมข่าวจับภาพดวงไฟสีแดงส้มได้ ลอยขึ้นลอยลง บางครั้งก็เข้ามาใกล้ และบางครั้งก็ลอยออกไป โดยไม่ทราบสาเหตุว่าเป็นอะไร คล้ายแสงดวงอาทิตย์ หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีไฟก็เริ่มลอยหายไป