จากกรณี วานนี้ (29 เม.ย.63) เวลา 11.00 น. ตำรวจ สภ.เมืองบึงกาฬ รับแจ้งมีกลุ่มชายหนุ่มถูกยิงอยู่ในสวนยางพารา ท้องที่บ้านเหล่าถาวร ม.6 ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ ที่เกิดเหตุเป็นกระท่อมกลางสวนยาง พบชายวัยรุ่น 2 คน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าที่หัวทั้ง 2 คน จนเสียชีวิตอยู่ข้างกระท่อม อีกรายพบนอนร้องโอดครวญด้วความเจ็บปวดอยู่กลางสวนยาง ห่างจากกระท่อมราว 60-80 เมตร ถูกยิงเข้าที่หน้าท้องจำนวน 2 แห่ง
ซึ่งผู้เสียชีวิตทราบชื่อภายหลังคือ นายศักดา เขาภูเขียว หรืออ้น อายุ 33 ปี มีรอยกระสุนถูกยิงที่บริเวณขมับเหนือหูซ้าย 1 นัดกระสุนไปตุงอยู่หลังท้ายทอย และที่บริเวณใต้ราวนมขวากระสุนไปตุงอยู่ที่ซี่โครงซ้าย และแขนขวาทะลุมือซ้าย รวม 3 นัด
ห่างกันราว 2 เมตรพบศพนายนายอุดม โพธิศรี หรือเตื่อย อายุ 29 ปี พบรอยกระสุนปืนยิงเข้าที่หน้าผากเหนือคิวขวา จำนวน 1 นัดกระสุนฝังใน ส่วนผู้บาดเจ็บคือนายชุติพงศ์ เสาะสมบูรณ์ หรือทัศ อายุ 29 ปี ถูกยิงที่หน้าท้องจำนวน 2 นัด
วันที่ 30 เม.ย. 63 นางอ้อย (นามสมมติ) ภรรยาของนายศักดา บอกว่า เมื่อวานนี้ก่อนที่สามีจะออกจากบ้านไปเที่ยวที่กระท่อมของนายอุดม ตนได้นัดกับสามีว่าให้ตื่นตั้งแต่เช้ามืดและไปช่วยกรีดเปิดหน้ายางที่ส่วนของตัวเอง ซึ่งเมื่อคืนตนก็เข้าใจว่าสามีนอนพักผ่อนที่กระท่อมของนายอุดม เมื่อถึงเวลาเช้ามืด ตนก็ไปรอที่สวนยาง พบว่าสามีไม่ได้มาตามนัดหมาย ตนก็รู้สึกสงสัยแล้วว่าจะต้องเกิดอะไรขึ้น กระทั่งกลับมาบ้านตอน 10 โมง พ่อของนายอุดมก็มาบอกว่าสามีถูกยิงเสียชีวิตอยู่ที่กระท่อมกับนายอุดม
ตนไม่รู้มาก่อนว่าสามีเคยมีเรื่องบาดหมางกับใครบ้าง เพราะสามีไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง แต่ก็ยอมรับว่าสามียุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ไม่รู้ว่ายุ่งถึงระดับไหน ซึ่งตนก็เคยถามเขาก็บอกว่าเป็นแค่ผู้เสพไม่ใช่ผู้ค้า ซึ่งตนมองว่าเหตุการณ์ครั้งนี้อาจจะไม่เกี่ยวกับสามีโดยตรง แต่คาดว่าเรื่องนี้อาจจะเกี่ยวกับนายอุดม เพราะคนร้ายขี่มอเตอร์ไซค์ไปในพื้นที่ของนายอุดม ส่วนสามีของตนอาจจะแค่ถูกลูกหลง เพราะอยู่ใกล้นายอุดมเท่านั้น เพราะสามีเป็นคนนิสัยดีไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับใคร
เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า วันเกิดเหตุมีไอ้โม่ง 3 คน ขี่รถจยย.มาหากลุ่มผู้ตายที่เพิง นายอุดมและนายศักดา มีปากเสียงกับกลุ่มชายคนดังกล่าว ก่อนที่จะมีการยิงใส่นายอุดมและนายศักดา จนตายคาที่ ส่วนนายชุติพงศ์ วิ่งหนีแต่โดนยิงไล่หลังจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่คนร้ายจะเอามือถือของผู้ตายไป และขโมยรถจยย. ฮอนด้าเวฟ สีดำแดง ของนายอุดมไปด้วย
ด้าน นายเฉลิม คุณสิงห์ อายุ 46 ปี เพื่อนบ้านของนายอุดม บอกว่า บริเวณสวนยางนี้เป็นจุดเชื่อมต่อ ออกได้หลายทิศทางและหลายหมู่บ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้จะไม่มีคนสัญจรผ่าน เนื่องจากเป็นฤดูที่ชาวบ้านหยุดกรีดยาง สำหรับคนร้ายนั้นตนก็ไม่รู้ว่าก่อเหตุเพราะอะไร แต่คาดว่าคนร้ายน่าจะรู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี แต่ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นนายอุดมมีเรื่องกับใคร เพราะเป็นคนนิสัยดี ช่วยเหลืองานหมู่บ้านเป็นประจำ เป็นที่รักของทุกคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบรถจยย. ของนายอุดม ที่คนร้ายขโมยไปแล้ว โดยซุกซ่อนอำพรางด้วยหญ้า แต่ตำรวจยังไม่ขอให้ข้อมูลจุดที่เจอเพราะกลัวจะกระทบกับรูปคดี ซึ่งตำรวจได้เก็บรถมาเป็นหลักฐาน
ขณะที่ นายลุน โพธิ์ศรี อายุ 61 ปี พ่อของนายอุดม บอกว่า เมื่อคืนวันที่ 28 เม.ย. ตนได้สั่งให้นายอุดม ไปกรีดเปิดหน้ายางที่สวนยาง ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ชวนเพื่อนไปด้วย แต่กลางคืนเจ้าตัวไม่กลับมาบ้าน ตนก็คิดว่าเขาอาจจะนอนที่กระท่อม ไม่กล้ากลับเพราะอยู่ในช่วงเคอร์ฟิว กระทั่งช่วงเช้าตนเห็นผิดสังเกตว่าลูกไม่กลับมากินข้าว จึงได้ขี่มอเตอร์ไซค์ตามไปดู ก็พบศพลูกชายและนายศักดานอนอยู่ที่หน้ากระท่อม จึงรีบกลับไปแจ้งเจ้าหน้าที่
เมื่อย้อนกลับมาที่เกิดเหตุอีกครั้ง ก็ได้ยินเสียงคนเรียกร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อวิ่งไปดูห่างจากกระท่อมประมาณ 80 เมตร ก็เห็นร่างนายชุติพงศ์ นอนบาดเจ็บอยู่ ซึ่งตนได้สอบถามเบื้องต้นรู้แค่คนร้ายมาประมาณ 3-4 คน แต่จำหน้าไม่ได้ ซึ่งตนก็ไม่ได้ถามมากและรีบพาตัวเขาส่งโรงพยาบาล
ทั้งนี้ ลูกชายไม่เคยไปที่กระท่อมมาหลายเดือนแล้ว เพิ่งจะไปกรีดเปิดหน้ายางเป็นครั้งแรก โดยได้ชวนเพื่อนทั้ง 2 คนไปช่วยงาน ซึ่งตนก็ไม่รู้จริงๆว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจากอะไร และคิดไม่ออกจริง ๆ ว่ามีปัญหากับใคร แต่ในส่วนเรื่องยาเสพติดนั้น ตนก็ไม่กล้ายืนยันว่าลูกยุ่งเกี่ยวหรือไม่ แต่ที่ผ่านมานั้นตนไม่เคยเห็นว่าเขาจะยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ลูกชายก็เป็นแค่เกษตรกร และทำงานหาปู หาปลากินเท่านั้น