เจ้าของร้านถูกล่อซื้อแมสก์งัดคลิปเต็มแฉให้ฟรี รัฐฉะซุกของในลิ้นชักชิ้นละ 20 (คลิป)

30 เม.ย. 63

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Ya Narinrat เจ้าของร้านขายยา ตีแผ่เรื่องที่ถูกเจ้าหน้าที่พาณิชย์ราชบุรี และตำรวจกว่า 20 คน บุกค้นร้านโดยไม่มีหมายศาล อ้างว่าได้ส่งสายมาล่อซื้อหน้ากากอนามัย โดยก่อนเกิดเหตุมีสายลับมาอ้อนวอน ขอความเห็นใจว่าเดือดร้อน ลักษณะล่อให้ทำความผิด จึงยอมให้ไปฟรี ๆ เนื่องจากรู้ว่าช่วงนี้ COVID-19 ระบาด จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็บุกมาจับทันที ทั้งยังให้ผู้ชายมาค้นตัวมารดา โดยใช้คำพูดข่มขู่ 

757775

วันที่ 30 เม.ย.63 นางมัลลิกา พ่วงศิริ อายุ 65 ปี มารดาเจ้าของร้าน บอกว่า วันเกิดเหตุ (27 เม.ย.63) เวลาประมาณ 15.20 น. มีผู้ชายรายหนึ่งแต่งกายคล้ายกับคนสวน สวมหมวกชนิดมีผ้าปิดหน้า และสวมหน้ากากอนามัยผ้าสีดำ ขับรถมอเตอไซต์มาจอดหน้าร้าน แล้วเดินเข้ามาในร้านตนเอง จากนั้นชายคนดังกล่าวก็เดินไปเลือกซื้อของในร้านใช้เวลานานกว่า 5 นาที

123412

โดยซื้อตระกร้าสีฟ้า จำนวน 30 บาท ซื้อสเปย์ฉีดไล่ยุง ราคา 90 ถึง 110 บาท ซื้อน้ำดื่ม 1 ขวด และซื้อเครื่องสำอางค์ไม่ทราบราคาอีก 1 ชิ้น

550106

ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะจ่ายเงินก็ได้ถามว่า มีหน้ากากอนามัยแบบที่ตนสวมใส่ขายไหม ซึ่งหน้ากากอนามัยแบบที่ตนใส่นั้น เป็นหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ตนจึงตอบชายคนดังกล่าวว่า หน้ากากรุ่นนี้ซื้อมาใช้ ไม่ได้ขาย ชายคนดังกล่าวก็ยังคะยั้นคะยอ บอกว่าขอแบ่งเอาไปให้ลูกน้องใช้ ด้วยความสงสารจึงไปหยิบหน้ากากอนามัยที่อยู่ในลิ้นชัก มาแบ่งให้ชายคนดังกล่าวจำนวน 5 ชิ้น และเหลือไว้ในลิ้นชัก 3 ชิ้น

376986

จากนั้นตนก็ได้คิดเงินกับชายคนดังกล่าว เฉพาะค่าของใช้รายการก่อนหน้านี้ ไม่ได้คิดราคาหน้ากากอนามัยทั้ง 5 ชิ้นแต่อย่างใด และตนก็จำไม่ได้ว่าตอนนั้นรับเงินธนบัตรแบงก์อะไรกับชายคนดังกล่าวอีกด้วย ตอนที่ตนยื่นหน้ากากอนามัยให้ชายคนดังกล่าวไปใช้ฟรี ๆ

cg_3

ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ที่ร้านของตนเองมีการขายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์จริง แต่หลังจากที่มีประกาศออกมาว่าห้ามขายหน้ากากอนามัยชนิดนี้ราคาเกิน 2.50 บาท ร้านของตนก็ไม่ได้ขายหน้ากากอนามัยชนิดนี้อีกเลย และที่เห็นตนแพ็กหน้ากากใส่ถุงนั้นก็เพราะว่า เป็นหน้ากากเก่าที่เหลือจากที่ตนขายก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ตนเก็บไว้ใช้เองในครอบครัวแล้ว ส่วนหน้ากากอนามัยที่ร้านตนจะขายตอนนี้ จะเป็นหน้ากากอนามัยชนิดผ้า มีตั้งแต่ราคา 20 ถึง 25 บาท

381538

ทั้งนี้ตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาค้นตัวตนเอง ก็ทำเอาตนตกใจมาก ว่าตนไปทำความผิดอะไร เกิดมาไม่เคยทำชั่วเลย ทั้งชีวิตทำมาหากินสุจริตตลอด โดยชายสายลับล่อซื้อหน้ากากอนามัยจะมาในชุดชาวสวน ส่วนตอนหลังปรากฏตัวพร้อมกับเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตามตนเองก็อยากให้เจ้าหน้าที่มีควาใชัดเจนในการทำงานมากกว่านี้ ถ้าหากว่าจะขอตรวจค้นตนก็ยินดี แต่ขอให้มีหลักฐานหรือเอกสารที่มาแสดงด้วย

382951

ด้าน นายประสบชัย พูลเกิด พาณิชย์จังหวัดราชบุรี บอกว่า การดำเนินการล่อซื้อหน้ากากอนามัยในพื้นที่จังหวัดราชบุรีนั้น ทางเจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานภายใต้กรอบ และระเบียบทุกอย่าง โดยเมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา มีผู้ร้องทุกข์ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงค์ธรรมวัดเพลง จ.ราชบุรี ว่าร้านชำดังกล่าว มีการจำหน่ายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์เกินราคา โดยขายในราคาชิ้นละ 20 บาท

กระทั่งวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงได้ไปหาข้อมูลยังร้านชำ และได้รับการยืนยันข้อมูลจากศูนย์ดำรงค์ธรรมอำเภอวัดเพลง ว่าร้านดังกล่าวมีมีพฤติกรรมดังกล่าวจริง และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เคยตักเตือนแล้วหลายครั้ง ซึ่งหลังจากตักเตือนร้านดังกล่าวก็ไม่ได้ขายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่หน้าร้านอีก แต่กลับนำไปขายหลังร้านคือไม่โชว์สินค้า และแอบขายให้เฉพาะคนรู้จักและสนิทในพื้นที่

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงวางแผนทำการล่อซื้อหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่ร้านชำดังกล่าว และในวันที่ 27 เมษายน เจ้าหน้าที่ได้นำธนบัตรชนิด 500 ไปถ่ายเอกสารและลงบันทึกประจำวัน จากนั้นก็ได้ส่งสายล่อซื้อ ไปล่อซื้อหน้ากากอนามัยในร้านชำดังกล่าวนี้ โดยวันเกิดเหตุสายล่อซื้อได้ซื้อหน้ากากอนามัยที่ใช้ทางการแพทย์กับเจ้าของร้านชำในจำนวน 5 ชิ้น เป็นราคา 100 บาท และได้ซื้อสินค้าอื่น ๆ ประกอบกันได้แก่ สเปย์ฉีดยุง ตระกร้าพลาสติก น้ำดื่ม และเครื่องสำอางค์ เพื่อให้แม่ค้าตายใจ เพราะถ้าซื้อแต่หน้ากากอนามัย สายลับเป็นคนแปลกหน้าแม่ค้าจะไม่ขายให้ และวันนั้นสายลับก็จ่ายธบัตรจำนวน 500 บาท ให้กับแม่ค้า และแม่ค้าก็มีการทอนเงินให้

หลังจากล่อซื้อสินค้าเสร็จเจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่งก็ได้เข้าไปตรวจค้นหาของกลาง คือธนบัตรบนิด 500 บาท โดยได้ค้นตามกระเป๋าที่แม่ค้าผู้ติดเอว แต่ก็ไม่เจอของกลาง จากนั้นก็มีข้อขัดแย้งในการตรวจหาของกลาง จึงทำให้วันนั้นเจ้าหน้าที่ชุดของตนเองถอนกำลังกลับ และประเด็นที่เจ้าของร้านอ้างว่าชุดของตนเองบุกไปที่ร้านชำถึง 20 คนนั้นไม่เป็นความจริง วันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไปเพียงแค่ 8 คน มีเจ้าหน้าที่พาณิชย์ 2 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจ 6 คน และฝ่ายปกครอง 2 คนเท่านั้น

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส