เมียผู้ใหญ่โต้ผัวไถ 20 ค่าสติกเกอร์ปลอดโควิด ชาวบ้านเสียงแตกอดอยากถูกรีด 100 อีกคนได้ฟรี (คลิป)

27 เม.ย. 63

จากกรณี ที่มีชาวบ้านร้องเรียนและโพสต์คลิปแฉในโซเชียลว่า มีผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.หนองแวง  อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์  เรียกเก็บเงินค่าดำเนินการติดสติกเกอร์ Buriram Healthy บนบัตรประจำตัวประชาชน จากชาวบ้านรายละ 20 บาท ซึ่งสติกเกอร์ดังกล่าวเป็นการรับรองการปลอดเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่อ โดยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติปราบโควิด-19 จังหวัดบุรีรัมย์ ได้นำหลักฐานเข้าทำการจับกุมผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว เพื่อมาสอบสวนและดำเนินคดีตามกระบวนการกฏหมาย  

2_2

ล่าสุด วันที่ 27 เม.ย.63 ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ สั่งการให้นายอำเภอละหานทรายตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงถึงกรณีดังกล่าวแล้ว หากพบพยานหลักฐานว่ามีการกระทำผิดจริง ก็จะถูกลงโทษทั้งวินัยและอาญา เนื่องจากเป็นเจ้าพนักงานของรัฐแต่กลับใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ซ้ำเติมชาวบ้าน ในช่วงไวรัสโควิด-19ระบาด

249847

ขณะที่ ตำรวจสภ.ละหานทราย ท้องที่เกิดเหตุได้ลงพื้นที่หาข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติม และเรียกสอบปากคำผู้มีส่วนเกี่ยวข้องว่า มีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องในการกระทำผิดด้วยหรือไม่ ส่วนผู้ใหญ่บ้านที่ถูกจับกุมเบื้องต้นก็ได้แจ้งข้อหา “ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157” หลังจากนี้ก็จะได้รวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนส่งอัยการตามขั้นตอนต่อไป

773306

นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ บอกว่า กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นการซ้ำเติมประชาชนที่ประสบปัญหาเดือดร้อนจากการระบาดของเชื้อโควิด 19 จึงได้เร่งรัดให้ทางอำเภอดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และหากมีพยานหลักฐานชัดเจนก็จะถูกดำเนินการเอาทั้งวินัยและอาญาโดยไม่ละเว้น

ทั้งนี้ยังได้กำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้นำชุมชน มีหน้าที่นำสติกเกอร์ไปติดให้แก่ประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ ห้ามมีพฤติกรรมที่เป็นการซ้ำเติมหรือสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างเด็ดขาด

420872

สำหรับมาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ตามแนวทาง Buriram Healthy Model ระหว่างวันที่ 1-31 พฤษภาคม 2563 ข้อที่ 2. บุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปี ขึ้นไปที่พักอาศัยอยู่ในท้องที่จังหวัดบุรีรัมย์ ไม่ว่าจะมีภูมิลำเนาอยู่ ณ ท้องที่ใดก็ตาม ต้องมีเครื่องหมายแสดงการปลอดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (สติกเกอร์) ติดอยู่บนบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง (บุคคลต่างด้าว) หากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบแล้ว ไม่พบเครื่องหมายปลอดเชื้อโควิด-19 (สติกเกอร์) บนบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทาง (บุคคลต่างด้าว) ผู้นั้นจะต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัวตามระยะเวลา 14 วันตามประกาศ

885441

ด้าน นางยุรี ภรรยาของผู้ใหญ่บ้าน ยืนยันไม่ได้มีการเรียกเก็บเงินค่าติดสติกเกอร์จากชาวบ้านตามที่ถูกกล่าวหา โดยวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ทางผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นสามีได้รับสติกเกอร์มาจากทางอำเภอ จึงได้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านนำบัตรประชาชนมาติดสติกเกอร์ที่บ้าน แต่การติดสติกเกอร์ชาวบ้านจะต้องลงทะเบียน Buriram Healthy ผ่านระบบออนไลน์เพื่อยืนยันตัวตนก่อน ตนจึงได้ให้เด็กนักเรียนในหมู่บ้านมาช่วยทำให้คนเฒ่าคนแก่ ซึ่งบางคนพอทำได้แล้วก็เห็นว่าเด็กซึ่งเป็นลูกเป็นหลานคนในหมู่บ้านมาช่วยก็แสดงน้ำใจด้วยการให้ค่าขนมคนละ 20 บาท 50 บาท หรือ 100 บาทบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีใครเรียกเก็บหรือเรียกร้อง

ส่วนภาพที่ปรากฏในคลิปที่เผยแพร่ในโซเชียล เป็นภาพที่ลูกบ้านคนหนึ่งในหมู่บ้านอาจจะเข้าใจผิดคิดว่ามีการเรียกเก็บเงิน จึงให้ลูกชายเดินเอาเงินมาให้ 60 บาท แล้วจู่ ๆ ก็มาโวยวายว่าทำไมต้องเรียกเก็บเงิน ทั้งที่ไม่ได้มีใครเรียกเก็บตนจึงคืนเงินให้ไปก็คิดว่าเรื่องจบไม่มีปัญหาอะไรแล้ว แต่กลับมีการนำคลิปไปเผยแพร่ จึงอยากจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับสามี เพราะวันที่ติกสติกเกอร์ตัวสามีก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์และในคลิปก็ไม่ได้มีภาพการจ่ายเงินหรือรับเงินอะไรทั้งสิ้น 

110743

ขณะที่ นางสมศรี ชาวบ้านอีกคนซึ่งมีอาชีพรับจ้างทั่วไป บอกว่า วันที่ 25 เม.ย. ตนมีเงินอยู่ 200 บาทตั้งใจจะนำไปซื้อข้าวสารมาหุงไว้ให้คนในครอบครัวทั้ง 6 ชีวิตได้กิน เพราะตอนนี้ไม่ค่อยมีใครจ้างงาน แต่พอได้ยินผู้ใหญ่ประกาศว่าสติกเกอร์มาแล้วให้นำบัตรประชาชนไปติดเพื่อแสดงการปลอดเชื้อโควิด ด้วยความที่กังวลว่าหากไม่นำบัตรประชาชนไปติดสติกเกอร์จะไม่สามารถไปไหนมาไหนหรือซื้อของที่ตลาดได้

จึงรีบนำบัตรประชาชนไปติดที่บ้านผู้ใหญ่ แต่พอไปติดก็เห็นเขาบอกว่าต้องจ่ายค่าสติกเกอร์ด้วยคนละ 20 บาท แต่ก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร ซึ่งบ้านตนเองมีทั้งหมด 5 คนจึงได้จ่ายไป 100 บาท ก็เหลือเงินติดตัวเพียง 100 บาท กระทั่งช่วงสายผู้ใหญ่ก็เดินเอาเงิน 100 บาท มาคืนให้ที่บ้านแต่ก็ไม่ได้ถามว่าเพราะอะไรถึงเอามาคืน จึงรีบเอาเงินไปซื้อข้าวสาร 

374987

ส่วน นางจ้อน ชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่า ตนเองก็นำบัตรประชาชนมาติดสติกเกอร์เหมือนกัน ก็ไม่เห็นมีใครเรียกเก็บเงิน แต่พอติดสติกเกอร์เสร็จก็ขับรถออกไปซื้อของที่ตลาดกลับมาก็ซื้อขนมมาฝากเด็ก ๆ ที่มาช่วยลงทะเบียนเพื่อติดสติกเกอร์ดังกล่าวเท่านั้น ส่วนภรรยาผู้ใหญ่บ้านก็ยืนย้อมผมให้กับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แต่จู่ ๆ มีชาวบ้านคนหนึ่งมาโวยวายว่าทำไมต้องเรียกเก็บเงิน ซึ่งตนเองก็ยืนยันว่าไม่ได้มีการเรียกเก็บ โดยน่าจะเป็นการเข้าใจผิดมากกว่า

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส