ตายพิศดาร! หนุ่มเครียดโดนกักตัว ใช้สายไฟช็อตร่าง เมียโฮเห็นศพผ่านวิดีโอคอล (คลิป)

จากกรณี วันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.เมืองน่าน รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตอยู่ในบ้าน ตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว หลังคามุงสังกะสี พบศพ นายชิงชัย ตะลี อายุ 30 ปี เสียขีวิตอยู่ในบ้าน สภาพศพนอนหงาย สวมกางเกงกีฬาขาสั้นสีดำ โดยมีเสื้อแขนสั้นสีเทาวางเหนือศีรษะ ไม่สวมเสื้อท่อนบน มีสายไฟสีดำ 2 เส้น (สายปลั๊กสามตา กับสายพัดลม) พันรอบหน้าอก มือข้างซ้ายถือสายไฟสีดำของปลั๊กสามตา และพบร่องรอยถูกไฟช็อตไหม้รอบบริเวณมือ มีตัวปลั้กไฟฟ้าสีขาววางอยู่ข้างลำตัว มือขวาเกร็ง เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือถูกทำร้ายแต่อย่างใด

วันที่ 25 เม.ย.63 นางแก้ว ตะลี อายุ 69 ปี แม่ผู้ตาย บอกว่า ลูกชายมีอาชีพรับจ้างทั่วไป เดิมทีมีงานทำทุกวัน แต่ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้งานลดลงแต่ก็ยังพอมีงานทำอยู่บ้าง โดยนายชิงชัยจะอาศัยอยู่บ้านกับตน ภรรยาและลูกชายอายุ 4 ขวบ เมื่อต้นเดือนเมษาที่ผ่านมา ลูกชายขับรถไปรับภรรยาที่จุดตรวจด่านห้วยน้ำอุ่น ตำบลอ่ายนาไลย อำเภอเวียงสา แต่เนื่องจากภรรยาของลูกชายเดินทางมาจากต่างจังหวัด ทำให้ต้องถูกกักตัว 14 วัน ซึ่งตน ลูกชาย และหลานชายวัย 4 ขวบ ก็ถูกกักตัวไปด้วย โดยแต่ละวันจะมีทีมอสม. และชาวบ้าน นำอาหารมาให้ที่หน้าบ้าน ระหว่างถูกกักตัวลูกชายเริ่มบ่นว่าเครียด เงินไม่พอใช้ เนื่องจากออกไปทำงานไม่ได้ 

จนกระทั่งช่วงเที่ยงของวันเกิดเหตุ จู่ ๆ ภรรยาของลูกชาย เก็บเสื้อผ้าและหอบลูกเล็ก 4 ขวบออกไปจากบ้าน ซึ่งผู้ตายได้ห้ามแล้วแต่ภรรยาของผู้ตายไม่ฟัง ทราบภายหลังว่าสาเหตุที่ภรรยาหอบลูกออกไป เพราะจะได้ไม่ต้องอยู่กันแออัดและแบ่งอาหารกันกิน จากนั้นขณะที่ตนกำลังออกมาทำไก่นึ่งที่ครัว จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงของผู้ตายร้อง 1 ครั้งว่า "โอ๊ย" จากนั้นก็เงียบไป

โดยตนไม่ได้เอะใจอะไร แต่เมื่อเข้ามาดู ก็พบว่าลูกชาย ลูกชายได้นอนหงายมีสายไฟปลอกเปลือกพันรอบอก มีพัดลมล้มลงอยู่ข้าง ๆ แต่ปลั๊กไฟไม่ได้เสียบ ตนจึงได้วิ่งเข้าไปหาผู้ตาย เอามือไปจ่อตรงจมูก พบว่าไม่หายใจแล้ว จึงได้วิ่งไปเรียกเพื่อนบ้านให้มาช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิดีโอคอลไปหานางสุดารัตน์ ภรรยาของผู้ตาย ซึ่งกำลังกักตัวอยู่ที่อีกอำเภอหนึ่งในจังหวัดน่าน ทันที่เห็นสามีตัวเองนอนเสียชีวิตนั้น เจ้าตัวถึงช็อกและร้องไห้โฮอยู่ตลอดเวลา