หากคุณผู้ชมยังจำกันได้ ช่วงเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว มีข่าวใหญ่ของดีเจภูมิ นักจัดรายการวิทยุชื่อดัง เนื่องจากถ่ายรายการที่เกาะชุมพร แล้วในคลิปดังกล่าวมีการตกปลา 2 ตัว หลังจากคลิปออนแอร์ไป ทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ก็ได้เข้าแจ้งความ ดีเจภูมิ พร้อมกับทีมงานที่ไปในวันนั้น รวม 5 ข้อหา หลังตกปลาในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรโดยไม่ได้รับอนุญาต ล่าสุดเมื่อวานนี้ (22 เมษายน 2563) ดีเจภูมิ ได้ลงคลิปใน YouTube DJ Poom เผยภาพขณะเดินทางไปที่ จ.ชุมพร อีกครั้ง เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่ผ่านมา เพื่อฟังคำพิพากษาคดีดังกล่าว
วันนี้เราเลยไปสอบถามถึงเรื่องนี้กับทางดีเจภูมิทันที เจ้าตัวก็เผยว่า แค่ไม่ติดคุกตนก็ดีใจแล้ว แต่บทลงโทษที่ได้รับก็ค่อนข้างหนักอยู่ จากนั้นก็ได้เล่าต่อว่า วันที่ฟังคำพิพากษา พวกตนถูกล่ามโซ่ตรวนทั้งมือและขา ก่อนจะขึ้นศาล ก็ถูกกักตัวอยู่คุกภายในศาล รวมกับคนอื่นๆอีกกว่า 30 คน
แล้วยิ่งพอได้ฟังคำพิพากษาจากการตกปลาแค่ 2 ตัว แต่กลับถูกจำคุกคนละ 4 ปี ปรับคนละ 4 หมื่นบาท ก็ยิ่งใจหาย ทีมงานของตนคนหนึ่งถึงกับร้องไห้ออกมา อีกทั้งผู้พิพากษายังพูดแรงมาก ว่า คุณทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง คุณรังแกสัตว์ คุณเป็นประชาชนที่ทำตัวเลว
ตนยอมรับเลยว่า บทลงโทษแรงมาก เพราะเอาจริงๆตนเจตนาดี ตั้งใจที่จะโปรโมทให้ทุกคนอนุรักษ์ท้องทะเลไทย ก็คิดว่าผู้พิพากษาน่าจะเห็นใจ ไม่น่าจะโดนหนักมาก อีกทั้งตอนที่คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาก็บอกว่ารูปคดีแบบนี้ เขาจะดูว่าในอดีตคนที่ทำผิดแบบนี้ โดนบทลงโทษแบบไหน เพื่อจะได้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน ซึ่งเขาก็บอกว่าที่ผ่านมาโดนแค่ปรับ 500-2,000 บาท เท่านั้น แล้วของตนก็ตกปลาแค่ 2 ตัว ไม่ใช่ทำเพื่อการประมง
โดยตอนที่คำพิพากษาออกมา ทนายของตน ยังตกใจ
จากนั้นศาลก็บอกต่อว่า ทุกคนไม่เคยทำผิดกันมาก่อน หากรับผิดจะลดโทษเหลือครึ่งหนึ่ง ตอนนั้นตนก็หันไปมองทนายความว่าจะเอายังไงดี เพราะหากไม่รับก็สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ แต่ทนายบอกให้รับไปเลย แล้วตนก็มองว่าเป็นคดีที่คนให้ความสนใจ หากเป็นคนธรรมดา คำตัดสินก็อาจจะไม่รุนแรงขนาดนี้ ซึ่งหากศาลพิพากษาเบาไปก็อาจจะโดนกระแสสังคมต่อว่า ตนก็เลยเข้าใจ และน้อมรับผล จึงได้ลดโทษกึ่งหนึ่ง เป็น จำคุก 2 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท โดยรอลงอาญา 2 ปี ซึ่งตนก็จ่ายค่าปรับแล้วเรียบร้อย
โดยในระหว่าง 2 ปี ที่รอลงอาญา ในปีแรกต้องรายงานตัวทุกๆ 2 เดือน พร้อมบำเพ็ญประโยชน์ 36 ชั่วโมง และถ่ายทำคลิปอีก 2 คลิป เพื่อโปรโมทเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติไทย ซึ่งข้อนี้ตนก็แอบตกใจ เพราะแต่ละคลิปที่ตนทำมากว่า 100 EP ก็เป็นเชิงอนุรักษ์อยู่แล้ว สงสัยผู้พิพากษาอาจจะไม่ได้ดูรายการของตน แต่ตนก็ยินดีทำ เพราะตนทำอยู่แล้ว เป็นการดีด้วยซ้ำไปที่ตนจะได้ประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ต่อไป
ถามว่าลำบากไหม ต้องรายงานตัวทุก 2 เดือน ที่ศาลรัชดา ดีเจภูมิก็ยอมรับว่า ลำบากเหมือนกัน แต่ตนเคยโดนคุมประพฤติมาก่อนเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ในข้อหาเมาแล้วขับ ส่วนเรื่องบำเพ็ญประโยชน์มีนัดคุยกับเจ้าหน้าที่คุมประพฤติวันที่ 5 เดือนหน้า (พ.ค.) เลยยังไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง อาจจะล้างห้องน้ำ หรือ กวาดลานวัด
สุดท้าย ดีเจภูมิ ก็เผยว่า จากนี้จะทำคลิปอะไรก็คงจะไปกับผู้ใหญ่เลย อาจจะติดต่อกรมประมง หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อที่จะได้ทำงานคู่กับภาครัฐไปเลย แล้วก็จะลดทำคลิปแนวตกปลาให้น้อยลง
