"นนทบุรี" เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย มีโรคประจำตัว เคยสัมผัสเชื้อคนจากสนามมวย

23 เม.ย. 63

จังหวัดนนทบุรี พบเสียชีวิตจากโควิด-19เพิ่ม 1 ราย โดยเป็นผู้ป่วยรายที่ 39 ของจังหวัดนนทบุรี เพศชายอายุ 50 ปี ขับแท็กซี่
มีประวัติไปสนามมวยลุมพินี และเริ่มป่วย วันที่ 17 มีนาคม และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา

ขณะที่ "ลูกเขย" ลุงขับแท็กซี่เสียชีวิตจากโควิด-19 ลั่นติดเชื้อทั้งบ้าน แต่ขณะนี้ไม่พบเชื้อแล้ว แจงต้องดูแลตัวเองให้ดี
ส่วนเพื่อนบ้านรับกลัว แต่ไม่รังเกียจ


จากกรณี เมื่อวานนี้ 22 เมษายน 2563 สำนักงานกระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี รายงานพพบเสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายที่ 39 ของจังหวัดนนทบุรี โดยเป็นชายวัย 50 ปี มีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่อยู่ ตำบลบางแม่นาง อ.บางใหญ่ มีอาชีพขับรถแท็กซี่ สัมผัสโรคจากการรับผู้โดยสารไปสนามมวยลุมพินี เริ่มป่วย 17 มีนาคม 2563 มีผู้สัมผัสโรคอีก 5 คนในบ้านเดียวกัน ผลตรวจพบว่าเป็นผู้ป่วยยืนยันโควิด-19 ทั้ง5 คน


ล่าสุุดวันนี้ (22 เมษายน 2563) ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับคุณต้น (นามสมมติ) ลูกเขยผู้เสียชีวิต ระบุ
ก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตได้มีอาการเป็นไข้หวัดทั่วไป ทางครัวครอบก็ไม่ได้คิดว่าจะมีเชื้อโควิด-19 หลังจากนั้นตนก็ได้เริ่มป่วย จึงได้พากันไปตรวจที่โรงพยาบาลรามา โดยผู้เสียชีวิตพบเชื้อเป็นคนแรก จากนั้นทางครอบครัวก็พากันไปตรวจทั้งหมด โดยครอบครัวมีทั้ง 6 คน ได้แก่ ผู้เสียชีวิตวัย 50 ปี แม่ยาย วัย 49  ปี ตนวัย 39 ปี ภรรยาวัย 35 ลูกสาววัย 9 ปี และน้องสาวภรรยาวัย 28 ปี ซึ่งทั้งหมดได้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่อาการของตนและผู้เสียชีวิตมีอาการร้ายแรงถึงขั้นต้องเข้าห้องไอซียู ซึ่งผู้เสียชีวิตเข้ารับรักษาตัว ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2563 และมีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวาน ทำให้มีอาการค่อนข้างหนัก ตอนนี้ทางครอบครัวไม่มีเชื้อแล้ว แต่ต้องกักตัวอยู่ และมีเจ้าหน้าที่ทางกระทรวงสาธารณสุขของจังหวัดมาคอยดูแล โทรมาพูดคุย และเข้ามาแนะนำ ส่วนขยะนั้นก็มีถุงขยะแยกให้

นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลได้แนะนำครอบครัวให้นำผู้เสียชีวิตไปฌาปนกิจศพที่วัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม ซึ่งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลประสานให้ โดยมีเพียงแม่ยายและภรรยาของตนที่ไปร่วมงานศพเท่านั้น เพราะว่าคนอื่น ๆก ำลังได้ออกจากโรงพยาบาลมา
สภาพจิตใจของครอบครัวขนาดนี้ยังไม่ค่อยดี เนื่องจากป่วยกันยกบ้าน ส่วนเรื่องของพ่อตาที่เสียไปนั้น ทางครอบครัวได้ทำใจไว้แล้ว เนื่องจากมีอาการหนัก และก่อนหน้านั้นทางแม่ยายของตนได้คุยกับทีมแพทย์ ว่าผู้เสียชีวิตนั้นไตไม่สามารถรับยาได้ โดยคุยกันยังไม่ถึง 1 อาทิตย์ ผู้เสียชีวิตก็ได้จากไป ตรวจสภาพจิตใจของแม่ยายนั้นก็ไม่สู้ดี แต่ยังไงแล้วทุกคนก็ต้องก้าวต่อไป

ทั้งนี้ตนมองว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นโรคที่รักษาหาย ต่อไปก็ต้องระมัดระวังตัวให้มากขึ้น และป้องกันตัวเองไม่ให้ซื้อให้กับคนอื่น ไม่กลัวว่าสังคมจะรังเกียจ แต่ก็ต้องดูแลตัวเอง ซึ่งโรคดังกล่าวนี้จะมีผลกับผู้สูงอายุ

ด้านเพื่อนบ้าน เผยว่า หลังจากที่ตนทราบข่าว ตนรู้สึกกลัว เวลาผ่านไปที่บ้านของผู้เสียชีวิต ตนก็จะหลีกเลี่ยงหากถามว่ารังเกียจไหม ตนบอกว่าไม่ได้รังเกียจแต่ก็กลัว แต่ถึงยังไงก็ได้ดูแลตัวเอง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

นนทบุรีออกคำสั่งใหม่! ยกเลิกผ่อนปรนเปิด 38 สถานที่ ให้ปิดตามเดิมถึง 30 เม.ย.

ไม่ผลีผลามปลดล็อก "บิ๊กตู่" เตรียมเคาะต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สัปดาห์หน้า

ผู้เชี่ยวชาญ เผย วัคซีนป้องกันโควิด อาจพร้อมใช้ ก.ย.นี้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ