เมื่อวันที่ 21 เม.ย.63 นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยน.ส.ศันสนีย์ ทาสม รองผู้ว่าราชการจังหวัด นพ.ศุภชัย บุญอำพันธ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน และนายพงศ์พีระชูชื่น นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เดินทางไปตรวจเยี่ยมสถานที่พักสำหรับผู้ที่รอดูอาการ 14 วัน (LocalQuarantine) ณ หอประชุมอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งดัดแปลงกั้นห้องแบ่งห้องชาย-หญิง รวม 20 ห้อง พร้อมของใช้ในชีวิตประจำวันอย่างครบครัน
นายสุวพงศ์ เปิดเผยว่า สำหรับพื้นที่รองรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและพื้นที่เสี่ยง ได้แก่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นสถานที่ตรวจคัดกรองและกักกัน เตรียมพร้อมไว้ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน แบ่งแยกชาย-หญิง จำนวน 20 ห้องมีความพร้อมที่จะรองรับผู้ที่ถูกตรวจสอบโรค 14 วัน พยายามจะจัดห้องให้เหมือนหอพักนักศึกษา ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ด้านหน้าที่เจ้าหน้าที่คอยวัดไข้ มีเจลล้างมือ โดยห้องแอร์จะมีพัดลมด้วย มีเตียงที่นอน หมอน มุ้ง ราวแขนผ้า ภาชนะใส่อาหาร เป็นแบบใช้แล้วทิ้ง เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำที่สะอาด ถ้ามีผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เพื่อมาคัดกรองในพื้นที่อำเภอเมือง ก็สามารถรองรับได้ทันที
ขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมไว้ทุกอำเภอ แต่ละอำเภอจะเตรียมห้องรองรับไว้อำเภอละ 20 ห้อง รวม 120 ห้อง แต่ที่มีความพร้อมมากที่สุด ได้แก่ อ.ปาย เพราะเป็นรีสอร์ตของเอกชน เจ้าของสถานที่สมัครใจช่วยเหลือให้ที่พักพิงใช้เป็นสถานที่ตรวจคัดกรอง ส่วนอ.เมือง พร้อม 100% ขณะที่อ.สบเมย ใช้สถานที่ของอุทยานแห่งชาติ ขณะนี้ทั้ง 3 อำเภอ ได้แก่อ.ปาย อ.เมือง และอ.สบเมย จึงมีความพร้อม 100% สามารถรองรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เพื่อตรวจคัดกรองโรคไวรัสโควิด-19 ได้ 60 คน ส่วนอำเภอที่เหลือ 4 แห่ง กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งทุกอำเภอจะให้มีมาตรฐานเท่ากับอำเภอเมือง
สำหรับผู้ติดเชื้อในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 5 ราย ซึ่งรักษาอยู่ที่อ.ปาย 4 ราย อ.ปางมะผ้า 1 ราย ขณะนี้ผลตรวจเป็นลบ รักษาหายครบแล้วทั้ง 5 ราย โดยให้ออกจากโรงพยาบาลกลับไปพักฟื้นที่บ้าน แต่บางพื้นที่กำลังพูดคุยทำความเข้าใจกับชุมชน สำหรับผู้ที่รักษาหายแล้วเมื่อกลับบ้านจะไม่มีเชื้อไวรัสไปติดต่อกับผู้ใกล้ชิดแต่อย่างใด ชุมชนก็ควรจะให้โอกาสอดีตผู้ป่วยกลับไปพักฟื้นร่างกายที่บ้าน
นพ.ศุภชัย บุญอำพันธ์ กล่าวว่า ผู้ป่วยเมื่อรักษาหายแล้วผลตรวจเป็นลบกักตัวดูอาการต่อไปอีก 14 วัน จะมีภูมิคุ้มกันไม่สามารถแพร่เชื้อได้อีก แต่ในกรณีผู้ป่วยใน จ.แม่ฮ่องสอน ที่อ.ปาย กับ อ.ปางมะผ้า จำนวน 5 คนเข้ารักษาตัวตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.63 ที่ผ่านมา ทุกรายขณะนี้รักษาหายหมดแล้ว ออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 20 เม.ย.63 ไปพักฟื้นที่บ้านต่ออีก 14 วัน รวม 28 วัน ยิ่งมีภูมิคุ้มกันเต็มที่ เพราะฉะนั้น จ.แม่ฮ่องสอน ไม่มีผู้ป่วยเพิ่ม “เป็นศูนย์”
ขณะที่สถานการณ์ในต่างประเทศ โดยเฉพาะสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ได้เกิดการระบาดโควิด-19 ทำให้รัฐฉานและรัฐกะยา มีการประกาศเคอร์ฟิวห้ามราษฎรออกจากบ้านในห้วงเวลาตั้งแต่ 22.00-04.00 น. เป็นต้นไป โดยรัฐฉานได้ประกาศเมื่อวันที่ 20 เม.ย.63 และรัฐกะยา ได้ประกาศเมื่อวันที่ 19 เม.ย.63 มีการจัดระเบียบตลาดสดด้วยการทำแนวกั้นให้ผู้ซื้อสินค้ายืนห่างจากผู้ขาย ประมาณ 1 เมตร และจัดล็อกแม่ค้าขายผักสดให้ห่างกันในระยะ 2 เมตร เพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยทั้งสองรัฐที่กล่าวมาข้างต้นมีอาณาเขตติดกับ จ.แม่ฮ่องสอน อีกด้วย
