จากกรณีที่ทางตำรวจกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 สามารถจับกุมตัว นางสาว อาเมเรีย จาคอป หรือเอมี่ อดีตนักแสดงและนางแบบชื่อดัง และนายปุณยวัจน์ หิรัณย์เตชะ พร้อมของกลางยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 70 กรัม ยาอี จำนวน 16 เม็ด ก่อนจะดำเนินการส่งตัวมาให้ทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลสายไหมดำเนินคดีต่อ
ล่าสุด วันนี้(20 ก.ย.)
นายฮันนาส จาคอป พ่อ พร้อมด้วยน้องชายของนางสาว อาเมเรีย ได้เดินทางมาจากประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อเข้าพบกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลสายไหม และได้มีการเข้าไปเยี่ยมกับนางสาว อาเมเรีย ประมาณ 15 นาที ก่อนจะเดินทางกลับโดยปฏิเสธการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ต่อมาทางทนายของทั้งน.ส.อาเมเรีย และนายปุณยวัจน์ มาร่วมฟังการสอบปากคำจากทางตำรวจ โดยทีมทนาย เปิดเผยว่า ได้รับการติดต่อจากเอมี่ให้มาดูแลเรื่องของคดี ซึ่งตัวเองยังไม่ได้เห็นบันทึกการจับกุมและยังไม่ทราบข้อกล่าวหาที่จะไปต่อสู้คดีแต่ข้อเท็จจริงจากการจับกุมต้องดูอีกครั้ง ว่าจำนวนยาเสพติดมีปริมาณมากน้อยเพียงใด รวมถึงเงื่อนไขและหลักทรัพย์ในการประกันตัวของเอมีในระหว่างถูกควบคุมตัว ยังไม่มีการพูดถึงเพราะต้องดูข้อกล่าวหาด้วย ซึ่งต้องรอวันพรุ่งนี้ (21 ก.ย.) ที่จะนำตัวทั้ง 2 คนฝากขังที่ศาลจังหวัดมีนบุรี และเจ้าตัวยังให้การปฎิเสธ ซึ่งต้องรอให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำให้แล้วเสร็จก่อน รวมทั้งการแจ้งข้อหา ขณะนี้ไม่สามารถตอบรายละเอียดได้ แต่มั่นใจในการต่อสู้ทางคดี
ทางนายชัยวัฒน์ เดชปทุม ทนายความของนายปุณยวัจน์ หิรัณย์เตชะ ระบุภายหลังจากได้เข้าไปคุยกับ นายปุณยวัจน์ แล้ว พบว่า นายปุณยวัจน์ได้ปฏิเสธ ว่ายาเสพติดที่ถูกตรวจพบภายในบ้านพักนั้น ไม่ใช่ของตน ส่วนจะเป็นของใครทาง นายชัยวัฒน์ ไม่สามารถบอกแก่สื่อมวลชนได้ เนื่องจากเกรงจะกระทบต่อรูปคดี ซึ่งตนเองในฐานะทนายความได้วางแนวทางการต่อสู้ให้ลูกความเป็นที่เรียบร้อย โดยคดีดังกล่าวตนเองเข้าใจเป็นอย่างดีว่าจะไม่สามารถที่จะยื่นขอประกันตัวได้ตัวให้แก่ลูกความได้ ทั้งในส่วนของชั้นพนักงานสอบสวน และชั้นศาล เพราะ ปริมาณยามีจำนวนมากกว่าที่กฎหมายได้กำหนดไว้ ดังนั้น จึงไม่ได้ตั้งวงเงินประกันเอาไว้ ส่วนจะการตัดสินจะเป็นอย่างไร จะต้องขึ้นอยู่กับทางศาลเพียงผู้เดียว นอกจากนี้ นายชัยวัฒน์ ยังกล่าวด้วยว่า ทางลูกความ ไม่มีอาการตกใจ ไม่มีความเครียดแต่อย่างใด
ขณะที่ พันตำรวจเอก ธนกรณฑ์ ก้อนแก้ว ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลสายไหม เปิดเผยว่า ทางตำรวจ ได้แจ้งข้อหาตามที่ ตำรวจกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 ได้ทำบันทึกกุมไว้ก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในการครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในการครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย พร้อมจะดำเนินการคัดค้านการประกันตัว เนื่องจาก คดีดังกล่าวมีโทษในอัตราสูง เกรงหลบหนี และไปยุ่งพยานหลักฐานก่อนจะควบคุมตัว ไปฝากขังยังศาลจังหวัดมีนบุรี ในวันพรุ่งนี้ (21 ก.ย.) ในเวลาประมาณ 9 นาฬิกา
ขณะที่ทีมข่าวได้เดินทางมาที่ผับบริเวณสมุทรปราการเพื่อสอบถามถึงข้อมูลของนายปุณยวัจน์ ซึ่งเมื่อทีมข่าวเดินทางไปถึง ได้พูดคุยกับหนึ่งในพนักงานของร้าน ที่เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวออกไปว่านายปุณยวัจน์เป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่ความจริง แล้วนายปุณยวัจน์ เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างการจะเข้ามาเสนองานด้านการตลาด เนื่องจากตอนนี้อยู่ระหว่างการเปิดสมัคร ซึ่งยังไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันมาก ส่วนตัวรู้จักนายปุณยวัจน์ได้ไม่ถึง 1 เดือน ซึ่งนายปุณยวัจน์เข้ามาในผับเพียง 1-2 ครั้งเท่านั้น โดยเข้ามาเพื่อเตรียมข้อมูลการเสนองาน แหล่งข่าวยังเผยอีกว่า นายปุณยวัจน์ ไม่ใช่พนักงาน รวมถึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผับ ซึ่งตั้งแต่เปิดผับมา 3 ปี ที่ผับไม่เคยมีฝ่ายการตลาดมาก่อน ฉะนั้น ผับดังกล่าวไม่เคยมีผู้จัดการฝ่ายการตลาดเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ทางผับอยู่ระหว่างการเตรียมข้อมูลหลักฐาน เพื่อฟ้องร้องเอาผิดต่อสำนักข่าวต่างๆ ที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยการนำข้อมูลร้านไปเกี่ยวข้อง แล้วเป็นเท็จไปนำเสนอ