คนที่อยู่ในสถานะกำลังตรวจสอบ แล้วจะทบทวนคนยื่นอุทธรณ์ได้อย่างไร

17 เม.ย. 63

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง ได้ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับรับเงินเยียวยา 5,000 บาท ระยะเวลา 3 เดือน ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบการโควิด-19

สำหรับบุคคลที่มีสถานะอยู่ระหว่างตรวจสอบตั้งแต่ 28 มี.ค.63 แล้วไม่มีความเคลื่อนไหวอีกเลย และเมื่อโทรสอบเจ้าหน้าที่กรุงไทย แล้วบอกว่าอยู่ช่วงคัดกรองของรัฐ ของเก่ายังไม่เสร็จ แล้วจะทบทวนคนอุทธรณ์ได้อย่างไร

298192_2_1_1

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการ"ยื่นอุทธรณ์"เราไม่ทิ้งกัน
- "ยื่นอุทธรณ์" เราไม่ทิ้งกัน เตรียมเอกสาร 3 อย่างให้พร้อม
- เปิดเกณฑ์ คนท่ีสามารถทบทวนสิทธิ์เยียวยา "เราไม่ทิ้งกัน" 5,000 บาท
- ระบบแจ้งโอนเงินไม่สำเร็จ ต้องทำอย่างไร
- สถานะ “อยู่ระหว่างการตรวจสอบ” จะได้รับการแจ้งผลเมื่อใด

ตอบ: 1) กระทรวงการคลังได้เร่งกระบวนการตรวจสอบและคัดกรองผู้ลงทะเบียนตลอดเวลา โดยนับตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2563 มีผู้ลงทะเบียนมากกว่า 27 ล้านคน การตรวจสอบและคัดกรองผู้ลงทะเบียนแต่ละรายจะใช้เวลามากน้อยไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับข้อมูลการประกอบอาชีพที่ผู้ลงทะเบียนได้ระบุไว้ รวมทั้งจะต้องนำไปตรวจสอบกับฐานข้อมูลของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องด้วย เพื่อให้สามารถระบุตัวผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างแท้จริง อย่างไรก็ดี ระบบจะแจ้งผลการตรวจสอบสิทธิ์ผ่านทาง SMS ไปยังเบอร์โทรศัพท์มือถือและอีเมลที่ท่านลงทะเบียนโดยเร็วที่สุด หรือสามารถตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนของท่านได้ที่ www.เราไม่ทิ้งกัน.com

2) การดำเนินการตรวจสอบและคัดกรองผู้ลงทะเบียนจะดำเนินการโดยระบบ ส่วนการทบทวนสิทธิ์ ให้แก่ผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิ์และประสงค์จะขอทบทวนสิทธิ์ จะมีกลไกการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อยืนยันตัวตนและความเดือดร้อนของผู้ลงทะเบียน เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการพิจารณาให้สิทธิ์รับเงินเยียวยา ซึ่งการดำเนินการทั้ง 2 ส่วนมีการดำเนินการที่แตกต่างกัน คนละขั้นตอนกัน และคนละกลุ่มบุคคลกัน ดังนั้น จึงสามารถดำเนินการทบทวนสิทธิ์ได้ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ดำเนินการตรวจสอบและคัดกรองเสร็จสิ้นก่อนแต่อย่างใด

3) การโอนเงินเยียวยาให้แก่ผู้ลงทะเบียนที่ผ่านสิทธิ์ กระทรวงการคลังได้โอนครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2563 ซึ่งใช้เวลาเพียง 7 วันทำการหลังเปิดรับลงทะเบียนเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2563 และการโอนเงินช่วยเยียวยาได้ดำเนินการต่อเนื่องทุกวันทำการตั้งแต่วันที่ 8-17 เมษายน 2563 รวม 3.2 ล้านราย จำนวนเงิน 1.6 หมื่นล้านบาทแล้ว

 

advertisement

ข่าวยอดนิยม