"น้องออย" คาดถูกหั่นร่าง! พ่อแฉผัวเก่า "ซีม่อน" รับใช้ตร.ใหญ่ ชี้จุดฝังป่าหมู่บ้านดังแต่ไร้คนค้น (คลิป)

19 ก.ย. 60
จากกรณีพ่อแม่ของ น.ส.นันทิยา แสงอุไร หรือ "ออย" อายุ 38 ปี สาวไทยอดีตภรรยา นายซีมอน เบตัน ผู้ต้องหาคดีฆ่าโบกปูน ที่ถูกจับพร้อมลูกชาย เมื่อปี 59 เข้าร้องกองปราบฯ ให้รื้อคดีลูกสาวหายตัวปริศนา หลังไม่มีความคืบหน้า และยังไม่สามารถสรุปได้ว่า น.ส.นันทิยา ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ โดย นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ ได้ประสานขอสำเนาข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของ นายซีมอน จากตำรวจ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี และเตรียมเข้าร้อง เรียน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เพื่อขอความเป็นธรรม ล่าสุด วันที่ 18 กันยายน 2560 นายอนันต์ แสงอุไร พ่อของออย เปิดเผยว่า หลังจากที่ น.ส.นันทิยา หรือ "ออย" ได้หายตัวไปเมื่อปี 2558 ขณะนั้นลูกสาวได้อยู่กินกับ นายซีมอน เป็นคนสุดท้าย โดยในปีเดียวกัน ก่อนที่ลูกสาวจะหายตัวไปอย่างลึกลับ น้องเบน ลูกชายของ น.ส.นันทิยา (ขณะนี้อยู่สถานพินิจเนื่องจากเป็นผู้ต้องหาร่วมกับบิดาคือ นายซีมอน คดีฆ่าโบกปูนชาวต่างชาติ ปี 59 ) และนายซีมอน ได้เข้ามาหาตนที่บ้าน เพื่อมาเอาเตาแก๊ส พร้อมบอกว่าจะนำไปขายไก่ย่าง ย่านบางบัวทอง หลังจากนั้นตนไม่เคยเจอหน้าลูกสาวอีกเลย ซึ่งเคยถามหลานชายว่า แม่หายไปไหน น้องเบน หลานชาย ตอบเพียงว่าไม่รู้ ซึ่งตนก็ทราบมาว่าลูกสาวต้องโกนหัวเพื่อเข้าลัทธิเดียวกันกับนายซีมอนจึงทำให้ลูกสาวต้องใส่วิกอยู่ตลอดเวลา
ป่าบริเวณบ้านนายซีมอน
โดยนายอนันต์ เปิดใจว่า ตนเองเชื่อว่าลูกสาวไม่มีชีวิตอยู่แล้ว เพราะไม่เคยหายไปไหนนาน ขณะเดียวกัน ครอบครัวยอมรับว่า เคยติดต่อร่างทรง เนื่องจากญาติฝันเห็นลูกสาว นั่งอยู่บนรถบรรทุก จึงทำให้ครอบครัวจึงแอบเข้าไปขุดบริเวณป่าดิน ใกล้กับบ้านพักของ นายซีมอน ย่านบางกรวย ซึ่งเป็นหลังที่ นายซีมอน ใช้ก่อเหตุโบกปูนทับศพชาวต่างชาติ เพื่ออำพรางคดี เพราะคิดว่า นายซีมอน น่าจะฝังร่างของลูกสาวไว้บริเวณบ้านหลังนั้น ขณะที่ ยุพาพัชร์ อธิคมสิริกุล น้องสาวของ "ออย" บอกว่า ช่วงที่นายซีมอนอยู่กินกับพี่สาวตน นายซีมอน มีคดีตอนช่วงปี 2541 ถูกจับในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น และอำพรางศพ โดยการโยนทิ้ง แม่น้ำแม่กลอง จ.กาญจนบุรี โดยพี่สาวเป็นคนเดินเรื่องทุกอย่างให้ นายซีมอน ขณะที่ถูกคุมขังในเรือนจำ เป็นเวลาเดียวกันที่ น.ส.นันทิยา ตั้งท้อง "น้องเบน" หลังจากนั้นผ่านไป 3 ปี นายซีมอน ออกมาจากเรือนจำ และถูกส่งตัวกลับไปยัง ประเทศอิสราเอล เพื่อจำคุกในคดีหนีทหาร ทำให้พี่สาวต้องเลี้ยงลูกชายเพียงลำพัง ซึ่งพวกตนได้ช่วยกันเลี้ยง "น้องเบน"
นายซีมอน
ต่อมา นายซีมอน พ้นโทษ จึงกลับมาเอาหลานไปเลี้ยงที่ประเทศอิสราเอล แต่พี่สาวตนไม่ได้ตามไปอยู่ด้วย หลังจากนั้นไม่นาน นายซีมอน พร้อม "น้องเบน" ได้บินกลับประเทศไทยอีกครั้ง เพื่อมาอยู่กินกับพี่สาวตน ก่อนที่พี่สาวจะหายตัวไป และบอกกับครอบครัวว่า พี่สาวตน ถูกดำเนินคดีข้อหายาเสพติดที่ประเทศลาว เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง ทางครอบครัวจึงตรวจสอบไปยังสถานทูตลาว จึงทราบความจริงว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีคนชื่อ น.ส.นันทิยา ข้ามไปประเทศลาว ทั้งนี้ ยุพาพัชร์ ยังเปิดเผยอีกว่า ช่วงที่ไปเยี่ยม "น้องเบน" ที่สถานพินิจ พวกตนเคยถามหลานชายว่า ที่แม่หายไป พ่อรู้หรือไม่ว่าอยู่ที่ไหน แต่ "น้องเบน" กลับไม่พูด มีเพียงสีหน้าเศร้าหมอง และมีน้ำตาคลอๆ จึงทำให้ญาติสงสัยว่า นายซีมอน อาจฆ่า น.ส.นันทิยา ไปแล้วก็เป็นได้ ส่วน น.ส.อริศรา บุกวนิช พยานในคดีนี้บอกว่า ตนมีศักดิ์เป็นหลานสาวของ น.ส.นันทิยา ส่วนตัวสนิทกันมาก เวลาที่ น.ส.นันทิยา มีเรื่องอะไรมักจะเล่าให้ตนฟังอยู่เสมอ หากมีเวลาว่างตนมักจะมาช่วย น.ส.นันทิยา เลี้ยงน้องเบน ซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวที่เกิดกับ นายซีมอน ตอนเด็กๆ น้องเบน เหมือนเด็กทั่วไป แต่พอโตขึ้น ค่อนข้างเก็บตัว ไม่ค่อยพูด จนกระทั่งน้องเบน ย้ายไปอยู่ที่ ประเทศอิสราเอล ตนก็ไม่ได้พบ น้องเบน อีกเลย น.ส.อริศรา ยังเปิดเผยอีกว่า ตนเองพบเห็น น.ส.นันทิยา เป็นคนสุดท้าย ที่บ้านพักของ น.ส.นันทิยา เมื่อปลายเดือนเมษายน ปี 2558 ซึ่ง น.ส.นันทิยา ใส่วิกผม และบอกกับตนว่า นายซีมอน ให้บังคับเธอเคร่งศาสนา หลังจากนั้นก็ไม่พบ น.ส.นันทิยา อีกเลย ขณะเดียวกัน นายซีมอน เริ่มมีพฤติกรรมน่าสงสัย คือย้ายบ้านหนีไป เมื่อตนถามว่า น.ส.นันทิยา หายไปไหน นายซีมอน กลับบอกว่า "น.ส.นันทิยา ติดอยู่คุกอยู่ที่ประเทศลาว" ทางด้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เปิดเผยว่า 2 ปี ที่ น.ส.นันทิยา หายสาบสูญของ ยอมรับว่ายากต่อการค้นหา เนื่องจาก นายซีมอน มีความเชี่ยวชาญในการชำแหละ หรือหั่นศพ เนื่องจาก นายซีมอน เป็นสายลับเก่า อย่างไรก็ตามตนเอง ยังมีความคิดว่า น.ส.นันทิยา ยังไม่ตาย แต่ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใดที่น.ส.นันทิยา ไม่ยอมติดต่อกลับมาหาครอบครัว หลังจากนี้ตนเอง อยากให้เจ้าหน้าตำรวจ สภ.บางบัวทอง เปิดหลักฐานชิ้นสำคัญในโน้ตบุ๊ค เพราะตนเชื่อว่าภายในนั้นจะมีภาพกล้องวงจรปิดภายในบ้าน ซึ่งจะเป็นหลักฐานสำคัญที่จะเป็นกุญแจไขคำตอบทุกอย่าง จะทำให้คดีคลี่คลายได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ทนายรณรงค์ มีความเห็นว่า อยากให้เจ้าหน้าที่ปูพรม ค้นหาร่างน.ส.นันทิยา รอบบ้านของ นายซีมอน เนื่องจาก ตนคิดว่า นายซีมอน ไม่น่าจะอำพรางศพไกลจากบ้านตัวเอง เพราะมีเบาะแสจากคนข้างบ้าน ซึ่งเคยเห็น นายซีมอน ชอบถือจอบ และเสียม อยู่บริเวณบ้าน ทางทีมข่าวได้เดินทางทางไปจังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายซีมอน ใช้ก่อเหตุโบกปูนทับศพเพื่ออำพรางคดี เมื่อทีมข่าวเดินทางไปถึงพบว่าบ้านปิดอยู่ มีรถจักรยานยนต์จอดอยู่ 1 คัน ส่วนตรงประตูบ้านมียันต์สีแดงอยู่ จากการสอบถามเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงทราบว่า บ้านหลังนี้ถูกปล่อยร้างมานานหลังเกิดคดี ไม่มีใครกล้ามาอยู่เพราะกลัว ซึ่งเจ้าของบ้านจัดพิธีทำบุญไปหลายครั้ง ซึ่งเพิ่งจะมีคนมาเช่าอยู่ได้ประมาณ 1 อาทิตย์ เป็นผู้ชาย แต่ตนไม่ทราบชื่อ รู้แต่เป็นโค้ชฟุตบอลของจังหวัดนนทบุรี มาเช่าอยู่กับลูกหลาน ซึ่งผู้ชายคนดังกล่าวจะไปซ้อมฟุตบอลทุกวัน และกลับเข้าบ้านมาในตอนค่ำๆ เมื่อทีมข่าวเอารูป น.ส.นันทิยา อดีตภรรยาของนายซีมอน ให้ดูว่าเคยเห็นบ้างหรือไม่ เพื่อนบ้านรายนี้บอกว่า ไม่แน่ใจ เพราะตอนที่นายซีมอนมาเช่าบ้านหลังนี้ เคยเห็นผู้หญิงมาที่บ้าน 2 คน แต่ไม่เคยเห็นหน้า และตอนนั้นไม่ได้สนใจ จึงบอกไม่ได้ว่าใช่คนเดียวกันหรือเปล่า ขณะที่นายซีมอนเองก็ไม่ค่อยสุงสิงใคร

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ