จากกรณีมีผู้ร้องเรียนผ่านเพจเฟซบุ๊กแหม่มโพธิ์ดำ เรื่องวินมาเฟียย่านนวนคร ที่บังคับให้ผู้โดยสารนั่งซ้อนสาม หากไปทางเดียวกัน ถ้าผู้โดยสารไม่ยอมนั่งก็จะไม่ยอมออกรถ โดยต้องจ่ายค่าโดยสารเท่าเดิม และยังห้ามไม่ให้แท็กซี่เข้าไปส่งผู้โดยสารด้านใน ถ้ามอเตอร์ไซต์วินเห็น จะขี่รถประกบแล้วเรียกให้ผู้โดยสารลง บางครั้งก็จะเรียกเก็บเงินกับคนขับแท็กซี่ เมื่อมีผู้โดยสารไม่พอใจก็จะพูดจาเยาะเย้ย "จะทำอะไรได้ " ซึ่งเคยร้องเรียนไปแล้วแต่เรื่องก็เงียบ
ล่าสุด วันนี้ (18 ก.ย. 2560) ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้ลงพื้นที่ไปสำรวจบริเวณวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง หน้าโรงพยาบาลการุณ หน้านวนคร พบว่าวินจักรยานยนต์ดังกล่าวเป็นวินขนาดใหญ่ แต่จากการเฝ้าสังเกตการณ์ยังไม่พบว่ามีการซ้อนท้ายอย่างที่ถูกร้องเรียน จากการสอบถาม 1 ใน ผู้ใช้บริการ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเคยเจอมาทุกรูปแบบ ตั้งแต่ขับรถเร็ว เมื่อมาถึงช่วงลูกระนาดก็ไม่ชะลอ แม้ว่าจะมีลูกสาวซึ่งเป็นเด็กเล็กนั่งไปด้วย จนในที่สุดต้องขอลงกลางทาง บางครั้งวินรถจักรยานยนต์พูดจาหยาบคาย ซึ่งตนเคยถูกด่าถึงขั้นให้ของลับ ทั้งที่ตนเป็นลูกค้า
พร้อมยืนยันว่า มีการบังคับให้ซ้อนท้ายกันจริง แต่จะเป็นในช่วงเวลาเร่งด่วน ซึ่งทางวินรถจักรยานยนต์จะเลือกผู้โดยสาร ถ้าไปทางเดียวกันก็จะให้ซ้อนท้ายกันไป แต่ถ้าไปคนละทางต้องยืนรอก่อน ทำให้เสียเวลามาก แต่เรียกเก็บเงินค่าโดยสารเท่าเดิม ซึ่งมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ตนนั่งรถแท็กซี่มาจากข้างนอก ก็ถูกรถจักรยานยนต์บีบแตรไล่ จนทนไม่ไหวต้องหยุดรถโกหกว่าเป็นญาติกำลังจะเข้าบ้าน รถจักรยานยนต์เหล่านั้นจึงยอมให้ปล่อยผ่านไป ซึ่งพฤติกรรมการข่มขู่แท็กซี่นั้น ตนยืนยันว่าเห็นอยู่บ่อยครั้ง
ทั้งนี้ พฤติกรรมลักษณะข่มขู่ ไม่สนใจผู้โดยสารแบบนี้มีมานาน เป็น 10 ปีแล้ว แต่ไม่มีใครกล้าพูดเพราะกลัวเรื่องความปลอดภัย แต่หากเป็นไปได้ก็อยากให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยแก้ไข
ผู้ใช้บริการวินรถมอเตอร์ไซต์ กำลังคุยกับผู้สื่อข่าว
ขณะที่ ตัวแทนวินรถจักรยานยนต์นวนคร บริการ ซึ่งเป็นวินเดียวกับที่ถูกร้องเรียน ยอมรับว่ามีการให้ผู้โดยสารซ้อนท้ายมากกว่า 1 คนจริง แต่เฉพาะช่วงเวลา 6.00 - 8.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนใช้บริการเยอะ แต่มีรถในการให้บริการน้อย ทั้งนี้ยืนยันไม่ใช่การบังคับ แต่เป็นความยินยอมของผู้โดยสารเอง ที่ต่างก็เร่งรีบไปทำงาน
ตัวแทนวินรถจักรยานยนต์นวนคร บริการ
ส่วนประเด็นที่บอกว่า ห้ามรถแท็กซี่เข้าไปส่งผู้โดยสารด้านในนั้นไม่ใช่ความจริง เพราะไม่เคยมีการไปข่มขู่ หรือทำเช่นนั้นแต่อย่างใด ซึ่งกรณีที่วินรถจักรยานยนต์พูดจาไม่สุภาพ ยอมรับว่าอาจจะมีบ้าง เช่น พูดจาเสียงดัง ซึ่งบางครั้งใส่หมวกเอาผ้าปิดปากทำให้พูดเสียงดัง ผู้โดยสารอาจเข้าใจได้ว่ากำลังดุ
ทั้งนี้ ตนไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมจึงถูกร้องเรียนไปยังเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว จากการร้องเรียน ไม่ได้มีการระบุหมายเลขเสื้อวินไว้ด้วย จึงไม่รู้ว่าเป็นวินคนไหน ซึ่งที่ผ่านมาวินแห่งนี้ จะมีกฎระเบียบลงโทษอยู่แล้ว หากมีใครทำผิดพูดจาไม่ดี หรือขับรถเร็ว ก็จะต้องถูกพักงาน ยืนยันว่าวินนี้ถูกต้อง มีกฎหมายครอบคลุมทุกอย่าง ส่วนที่อ้างว่า มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลหนุนหลังทำให้เบ่ง จนผู้โดยสารไม่กล้าร้องเรียนนั้น ตนขอปฏิเสธ เพราะวินรถจักรยานยนต์ก็ต้องอาศัยผู้โดยสาร ต้องพึ่งพิงผู้โดยสารเช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกันในช่วงเย็น มีเจ้าหน้าที่จากกองตรวจการขนส่ง เดินทางมาตรวจสอบตามที่มีกระแสข่าวในโซเชียล โดยได้กำชับให้วินรถจักรยานยนต์ปฏิบัติตามกฎหมาย คือรถจักรยานยนต์หนึ่งคัน ต้องซ้อนท้ายผู้โดยสารไปแค่คนดียว เว้นแต่ผู้โดยสารสมัครใจ รวมถึงได้กำชับให้ระวังเรื่องกริยาวาจา ต่อผู้โดยสารด้วย
