จากกรณี เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจ สน.ประเวศ รับแจ้งเหตุพบศพเด็กทารกใส่กล่องโฟมมาทิ้งไว้ ตรงข้ามโรงเรียนสุเหร่าบ้านม้า ถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ เขตประเวศ กทม. ภายในกล่องพบศพเด็กทารกศพชายเพิ่งคลอดห่อด้วยผ้า มีสายสะดือติดอยู่
ภายในกล่องยังพบกระดาษเขียนไว้ว่า "ช่วยทำพิธีฝังศพศาสนาอิสลาม" เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งคาดว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง
วันที่ 12 เม.ย. 63 นายจรินทร์ สุขสมบูรณ์ อายุ 56 ปี รปภ.ของโรงเรียนสุเหร่าบ้านม้า เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (11 เม.ย. 63) เวลาประมาณบ่ายโมง ขณะที่ตนนั่งอยู่ในป้อม รปภ. ของโรงเรียน สังเกตเห็นรถกระบะ ไม่แน่ใจว่าสีขาวหรือบรอนซ์เงิน ขับเข้ามาในซอยและมาจอดเทียบบริเวณศาลาที่เจอศพ แต่ตนไม่ได้สังเกตว่ามีใครลงจากรถหรือไม่
หลังจากนั้นไม่กี่นาที รถกระบะคันดังกล่าวก็ถอยหลังและกลับรถออกจากซอยไป ซึ่งตนรู้สึกแปลกใจเพราะปกติแล้วภายในซอยจะมีรถยนต์เข้าออกเป็นประจำ เนื่องจากมีแคมป์คนงานก่อสร้างอยู่ห่างจากจุดพบศพประมาณ 100 เมตร แต่รถกระบะคันที่ต้องสงสัยนั้น มีลักษณะการขับที่แปลก คือขับเข้ามาจอดที่ศาลา และไม่เข้าไปที่แคมป์คนงานหลังจากนั้นก็ถอยรถออกไปทันที
กระทั่งเวลาประมาณ 15.00 น. ขณะที่ตนเดินกลับจากกินข้าวมุ่งหน้าไปโรงเรียน สังเกตเห็นกล้องโฟมใบใหญ่ ไม่ปิดฝา ตั้งอยู่ในศาลาตนจึงเดินเข้าไปดู สังเกตเห็นในกล้องมีผ้าคล้ายเสื้อ ลายดอกไม้คลุมอะไรบางอย่างอยู่ แต่ตนก็ไม่กล้าที่จะแตะต้อง เพราะกลัวเป็นของมีเจ้าของ ซึ่งในขณะนั้นตนยืนยันได้ว่าไม่มีเสียงเด็กร้อง และไม่มีกลิ่นเหม็น จึงไม่คิดว่าจะมีเด็กทารกอยู่ข้างใน จึงปล่อยไว้อย่างนั้น
กระทั่งช่วงค่ำ 21.00 น. มีคนในแคมป์คนงานมาเจอและแจ้งตำรวจ ซึ่งตรวจสอบเบื้องต้นเป็นทารกเพศชาย และตนคิดว่าเด็กน่าจะตายก่อนที่จะถูกนำมาวางไว้แล้ว เนื่องจากจุดที่กล้องถูกวางไว้นั้น เป็นจุดที่แดดส่องถึงและมีอากาศร้อน เพราะถ้าเด็กยังมีชีวิต เขาจะต้องร้องไห้บ้างเพราะถูกแดดส่อง อย่างไรก็ตาม คิดว่าคนที่นำเด็กมาวางไว้จะต้องเป็นคนนอกพื้นที่
ด้าน น.ส.ภัทราภรณ์ ดาบไธสง อายุ 22 ปี พลเมืองดีที่โทรแจ้งตำรวจ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้คนงานในแคมป์ได้นัดให้เพื่อนของตนมาเจอ โดยช่วงเวลาประมาณ 20.30 น. เพื่อนตนได้ออกไปยืนรอเพื่อนอีกคนที่ศาลาดังกล่าว จนสังเกตเห็นกล่องโฟมไม่ปิดฝาตั้งอยู่ จึงเกิดความสงสัยและได้เข้าไปดูใกล้ ๆ ก็พบศพทารกเพศชาย เพื่อนจึงวิ่งกลับมาบอกตน ก่อนจะรีบแจ้งตำรวจทันที
ตนตั้งข้อสังเกตว่าทารกรายนี้น่าจะคลอดก่อนกำหนด หรือไม่ก็อาจจะเกิดจากการทำแท้ง และคาดว่าเด็กน่าจะตายตั้งแต่ก่อนนำมาวางไว้แล้ว ทำให้คนที่นำมาวางจึงเขียนจดหมายไว้
เบื้องต้น ตำรวจอยู่ระหว่างเช็กภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้กับจุดเกิดเหตุทั้งหมด เพื่อตรวจสอบว่ารถกระบะคันต้องสงสัยนั้น เกี่ยวข้องกับศพทารกเพศชายที่พบหรือไม่ และชุดสืบสวนกำลังลงพื้นที่หาเบาะแสไล่กล้องวงจรปิดเพื่อดูแผ่นป้ายทะเบียนรถที่ต้องสงสัย
