เจ้าของหอปลดโซ่ คืนรถแม่ค้าค้างค่าเช่าช่วงโควิด เข็ดเคยโดนเชิด ทนายชี้ผิดเสี่ยงคุก (คลิป)

จากกรณี น.ส.วิไลวรรณ สุขประเสริฐ อายุ 27 ปี ชาว อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี แม่ค้าขายเสื้อผ้าตลาดนัดเทศบาลตำบลบางทราย จ.ชลบุรี และได้โพสต์เฟซบุ๊กลงในกลุ่ม "อุบัติเหตุชาวชลบุรี" ระบายความในใจว่า เจ้าตัวติดค่าเช่าห้องพักเดือนก.พ.63 จำนวน 500 บาท เดือนมี.ค.63 จำนวน 2,500 บาท แต่ด้วยพิษไวรัสโควิด-19 ทำให้ตลาดปิด ไม่สามารถขายเสื้อผ้าได้ ไม่มีเงินค่ากับข้าวและจะต้องดูแลลูกชายวัย 3 ขวบ

ทั้งนี้น.ส.วิไลวรรณ ได้ทำเรื่องขอผ่อนผัน และรอเงินเยียวยาจากรัฐ 5,000 บาท แต่เจ้าของห้องเช่าไม่ยอม นำโซ่มาล็อกล้อรถจักรยานยนต์ และไล่ให้ออกจากห้องเช่า โดยอนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 16 เม.ย.63 แต่ยังคงล็อกรถจักรยานยนต์

ล่าสุดวันที่ 12 เม.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้ลงพื้นที่ห้องเช่าดังกล่าวในตำบลบางทราย อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งหลังจากที่ น.ส.วิไลวรรณ โพสต์เรื่องราวดังกล่าวบนสื่อออนไลน์ ทำให้มีผู้ใจบุญนำอาหาร เงินสด และโอนเงินมาช่วยเหลือบางส่วน ได้แก่ ไข่ไก่ 2 แผง, ข้าวสาร 15 กม., นมจืด 1 แพ็ก (6 กล่อง), น้ำดื่มขนาด 350 มล. 1 แพ็ก (12 ขวด) และเงินรวม 2,300 บาท

น.ส.วิไลวรรณ บอกกับทีมข่าวว่า ตนต้องจ่ายค่าเช่าห้องทุกสิ้นเดือน แต่ด้วยการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ตนไม่สามารถขายเสื้อผ้าที่ตลาดนัดได้ตามปกติ จึงไม่มีเงินเพราะขาดรายได้ ส่วนเงินเก็บก็นำไปซื้ออาหารกินหมดแล้ว โดนตนได้ค้างค่าเช่าห้องจริง จึงนัดนัดเจ้าของห้องเช่าว่าจะจ่ายในวันที่ 8 เม.ย.63 เนื่องจากตนได้ลงทะเบียน “เราไม่ทิ้งกัน” เพื่อขอเงินเยียวยา 5,000 บาทไว้ตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.63 ที่ผ่านมา

เมื่อถึงวันนัดจ่ายค่าเช่า สิทธิ์ของตนยังไม่ได้รับการอนุมัติ ทำให้ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้อง เจ้าของห้องเช่าจึงนำโซ่มาล็อกล้อหน้าจักรยานยนต์ เพื่อป้องกันตนจะหนี และมาทวงเงินพร้อมกับไล่ตนออกจากห้องในวันที่ 11 เม.ย.63 พร้อมบอกว่า "มีเงินเมื่อไหร่ค่อยมาเอาจักรยานยนต์คืน" ตนเข้าใจเจ้าของห้อง แต่ตนก็ไม่มีเงินจริง ๆ ตนน้อยใจจึงตัดสินใจโพสต์เฟซบุ๊กเพื่อขอกำลังใจจากชาวชลบุรี ไม่ได้ตั้งใจโจมตีเจ้าของห้องเช่าให้ดูเป็นคนร้าย

ทั้งนี้ตนขอขอบคุณทุกคนที่ส่งอาหาร ส่งเงินมาช่วยเหลือตน ขอบคุณคนที่เอาข้าวก้นบาตรพระมาให้ตนกับลูกกิน ตนไม่มีรายได้ ไปสมัครงานที่ไหน ก็ไม่มีใครรับ ไปขอรับจ้างล้างจาน ร้านอาหารก็บอกให้รอสถานการณ์ผ่านไปก่อน ความหวังของตนมีแค่เงินเยียวยา 5,000 บาท ซึ่งไม่รู้จะอนุมัติเมื่อไหร่ ถ้าไม่ได้คนใจบุญส่งเงินส่งอาหารมาช่วย ตนก็ไม่ไม่รู้จะทำยังอย่างไรเหมือนกัน

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.แสงระวี สถาปนา อายุ 64 ปี เจ้าของห้องเช่า กล่าวว่า ตนก็อยากจะให้อีกฝ่ายเห็นใจตัวเองเหมือนกัน เหตุผลที่ล็อกล้อหน้าจักรยานยนต์ ไม่ใช่เพราะอยากได้รถ แต่ล็อกไว้เป็นสิ่งประกันว่าผู้เช่าจะไม่หนีไปไหน เพราะตนถูกผู้เช่าห้องรายอื่นหนีไม่จ่ายค่าเช่าห้องมาก่อน

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ใช่แค่ผู้เช่าห้องหรือแม่ค้าตลาดเดือดร้อน ตนก็เดือดร้อนเช่นกัน ตนเคยขายหมูหยองอยู่ที่ตลาดก็ขายของไม่ได้ จึงหวังพึ่งค่าเช่าห้องดำรงชีวิต จาก 20 ห้อง เหลือเพียง 9 ห้องที่ยังเช่าพักอาศัยอยู่

ทั้งนี้ตนอยากจะชี้แจงว่าตนไม่ได้ใจร้ายถึงขนาดจะอยากได้เงินค่าเช่าทั้งหมด แต่อย่างน้อยแบ่งเงินมาจ่ายค่าเช่าบ้างนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ยังดี เพราะถ้าหากผู้เช่าห้องไม่จ่ายค่าเช่า ตนต้องควักเงินตัวเองจ่ายค่าน้ำค่าไฟห้องเช่าไปก่อน จะอ้างว่ารอเงิน 5,000 บาทไม่ได้ เพราะตนก็ไม่รู้ว่าสิทธิ์จะอนุมัติเมื่อไหร่

ร้อยเอก ดร.จองชัย วงศ์ทรายทอง หรือ "ผู้กองเบิร์ด" ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ พร้อมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี เดินทางมาหา น.ส.วิไลวรรณ สุขประเสริฐ เพื่อมอบเงินช่วยเหลือจำนวน 3,000 บาท พร้อมนำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 ลัง (30 ซอง) ไข่ไก่ 2 แผง และข้าวสาร 1 ถุง มามอบให้เป็นขวัญและกำลังใจ นอกจากนี้ยังอำนวยความสะดวกส่งน.ส.วิไลวรรณ และลูกชายวัย 3 ขวบ กลับบ้านเกิดที่ จ.ปราจีนบุรี

ร้อยเอก ดร.จองชัย เปิดเผยว่า ตนทราบข่าวความเดือดร้อยของหญิงสาวคนดังกล่าว จึงเกิดความเห็นใจประชาชนและเข้าใจความเดือดร้อนในสภาวะเช่นนี้ วันนี้ที่ตนเข้ามาช่วยเหลือเนื่องจากตนไม่อยากให้ประชาชนในเขตพื้นที่ของตนต้องมาทะเลาะกัน และอยากให้ น.ส.วิไลวรรณ เข้าใจด้วยว่ายังมีประชาชนอีกหลายคนที่ได้รับความเดือดร้อนมากกว่า

อย่างไรก็ตาม น.ส.วิไลวรรณ กล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่ยืนมือเข้าช่วยเหลือ และขอโทษทุกคนที่ทำให้วุ่นวาย และขอโทษเจ้าของห้องเช่า ตนไม่ได้ตั้งใจโพสต์ด่าใคร ตนแค่โพสต์ขอกำลังใจจากคนที่เดือดร้อนเหมือนกัน จากนี้ตนจะนำเงินที่ได้จ่ายค่าห้องและนำไปซื้ออาหารประทังชีวิต

ขณะที่ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ให้ข้อมูลว่า สิ่งที่เจ้าของห้องเช่ารายนี้ได้กระทำ เสี่ยงต่อการติดคุก ฐานความผิดทำให้เสียทรัพย์ โทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท เนื่องจากมีการล็อกห้องผู้เช่าทำมาหากินไม่ได้ และความผิดกรรโชคทรัพย์ และผิดพ.ร.บ.ทวงนี้ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี เจ้าของหอพักไม่มีสิทธิ์มาเอารถจักรยานยนต์ลูกบ้าน แจ้งความได้ทันที