หนุ่มเข้าป่าพร้อมหมาคู่ใจ 8 วันพบศพอยู่ก้นเหว เจ้าตูบวิ่งกลับบอกญาติ คาดอาถรรพ์ สิ่งลี้ลับ (คลิป)

12 เม.ย. 63

กรณีตำรวจ สภ.ลอง จ.แพร่ ได้รับแจ้งว่ามีผู้พบศพชายรายหนึ่งในป่าตาดหลวงห้วยแก้ว ในพื้นที่ต.หัวทุ่ง อ.ลอง จ.แพร่ ที่เกิดเหตุเป็นป่าเขาห่างจากหมู่บ้าน ต้องใช้วิธีเดินเข้าไปอย่างยากลำบาก เป็นทางสูงชัน ซึ่งศพอยู่ในห้วยที่น้ำแห้ง ทราบชื่อคือ นายบุญแปง ปันมา อายุ 55 ปี สภาพนอนหงาย ขึ้นอืด สวมกางเกงหม้อห้อมสามส่วน

384666

เมื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อมไม่พบร่องรอยของการต่อสู้ หรือถูกทำร้าย มีบาดแผลที่หัวเข่า 2 ข้าง คาดว่าอาจจะตกเขาเสียชีวิต จากการสอบถามญาติ ทราบว่านายบุญแปง ออกจากบ้านวันที่ 4 เม.ย. เวลา 16.00 น. ไปหาของป่าพร้อมกับสุนัขชื่อ "ไอ้ขาว" หมาคู่ใจ จนกระทั่ง 3 วันผ่านไป หมาคู่ใจกลับออกมาจากป่าเพียงลำพัง ภรรยาจึงได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านออกตามหาจนถึงวันที่ 10 เม.ย.63 ก็ยังไม่เจอร่องรอย จึงได้ทำพิธีเปิดป่าจนพบเป็นศพอยู่ในร่องน้ำ และพบศพวันที่ 11 เม.ย.63 

286845

ล่าสุดวันที่ 12 เม.ย.63 ทีมข่าวเดินทางไปยัง อ.ลอง จ.แพร่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านของนายบุญแปง พบว่าวันนี้ที่สุสานมีพิธีฌาปนกิจศพ โดยเป็นความเชื่อของผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน ผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ผิดปกติ จึงจะมีการสวดเพียงแค่ 1 คืน

246665

ประกอบกับเป็นช่วงที่โรคโควิด-19 ระบาด จึงได้รีบประกอบพิธีทางศาสนา โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ซึ่งมีญาติพี่น้องและชาวบ้านในพื้นที่ เดินทางเข้าร่วมพิธี

138118

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางมะลิ พีระ อายุ 49 ปี น้องสาวของผู้ตาย เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ 4 เม.ย.63 ที่ผ่านมา ช่วงเวลา 16.00 น. พี่ชายกินข้าวเย็นกับภรรยาเสร็จ ก็บอกว่าจะออกไปเก็บของป่าที่เขาหลังหมู่บ้าน ไปพร้อมกับสุนัขชื่อไอ้ขาว โดยทุกครั้งที่นายบุญแปง ออกไปเดินป่าจะออกไปเก็บผักหวาน ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ออกไปเดินป่านานสุดก็ 1-2 วันเท่านั้น ไม่เคยหายไปนานเหมือนครั้งล่าสุดนี้ หลังจากที่เข้าไปในป่าหลายวัน มีเพียงไอ้ขาว หมาคู่ใจวิ่งออกมาเพียงลำพัง ไม่มีพี่ชายตามออกมาด้วย และอาการของสุนัขคู่ใจก็อยู่ในอาการซึม นิ่งเฉย ไม่เหมือนทุกครั้งที่ย้อนกลับมาบ้าน ทั้งนี้เห็นท่าไม่ดี จึงไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ช่วยกันออกตามหา

cg1

โดยวิธีการตามหานั้น ชาวบ้านเกือบทั้งหมู่บ้าน พร้อมด้วยคนครอบครัว ออกตามหาจากจุดที่พบรถมอเตอร์ไซค์ จนกระทั่งไปเจอถุงเสบียง มีด และเสื้อของนายบุญแปง แต่ไม่เจอร่องรอยของนายบุญแปง แต่อย่างใด ตั้งแต่วันที่ 6-10 เม.ย.63 ก็ไม่พบวี่แววว่าจะเจอ ไม่ได้แม้แต่กลิ่นเน่าของศพ จึงได้นิมนต์พระมาประกอบพิธีทางศาสนา ทำพิธีเปิดป่า ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลใจให้มีพบเจอเบาะแส

ทั้งนี้พระที่ทำพิธีบอกกับครอบครัวว่า “ให้ไปบริเวณต้นไม้ แล้วจะเจอ” ทุกคนพยายามค้นหาตามจุดที่พระเห็นในนิมิต และพยายามย้อนกลับไปดูหลายครั้ง แต่ก็ไม่เจอร่องรอย กระทั่งจุดธูปบอกกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง ซึ่งจุดที่เคยออกตามหากลับไปพบศพนายบุญแปง นอนเสียชีวิตนอนหงายไม่สวมใส่เสื้อ สภาพศพดำ ขึ้นอืด ส่งกลิ่นคละคลุ้ง ส่วนตัวจึงมีความเชื่อว่า พิธีเปิดป่าและขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถือเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้เจอร่างของพี่ชายโดยเร็ว

cg2_1

ขณะที่สาเหตุการเสียชีวิต ครอบครัวไม่ได้ติดใจการตายแต่อย่างใด เพราะด้วยอากาศร้อน น้ำและเสบียงที่เตรียมไปด้วยหมด จึงเชื่อว่าเจ้าตัวพยายามค้นหาแหล่งน้ำ ตัดสินใจถอดเสื้อเอาไว้ด้านบน แล้วลงไปที่เหวลึก คิดว่าข้างใต้จะมีน้ำ แต่อาจเกิดอุบัติเหตุ แล้วตกลงไป ก่อนที่จะไม่มีน้ำกิน แล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่สำคัญพี่ชายไม่ได้มีโรคประจำตัว เป็นคนแข็งแรงปกติและเดินป่าบ่อยครั้ง

แต่ในอีกมุมหนึ่ง นางมะลิ เชื่อว่าเป็นการปิดบังซ่อนเร้นจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ให้เจอศพ และเชื่อว่าตอนที่พี่ชายลงไปในแหล่งน้ำ เห็นภาพนิมิตปรากฏหลอกล่อให้ลงไป แต่หลังจากลงไปแล้วกลับไม่มีน้ำตามที่เห็น จึงเชื่อว่าเป็นการสร้างภาพนิมิตของสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณดังกล่าว และขณะที่พี่ชายลงไปในเหว เชื่อว่ายังมีชีวิตอยู่ แต่มีสิ่งลี้ลับบางอย่างซ่อนอำพรางเอาไว้ จนสุดท้ายขาดอาหารและน้ำตายในเวลาต่อมา

722798

ผู้เฒ่าผู้แก่ประจำหมู่บ้าน เล่าต่อกันมาว่า หากย้อนกลับไปช่วง 40-50 ปี มีผู้ชายคนหนึ่งชื่อว่านายหมื่น เข้าไปพื้นป่าดังกล่าวจุดที่ชาวบ้านพบเห็นลูกแก้วดวงไฟ นายหมื่น เข้าไปตัดไม้ทำลายป่า จากนั้นก็ถูกสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณห้วยนางแก้วลงโทษถึงแก่ความตาย โดยมีการจองจำอยู่บริเวณจุดดังกล่าวซึ่งเป็นเหวลึก ตรงกับเหวลึกจุดที่พบศพนายบุญแปง ชาวบ้านจึงตั้งชื่อและเล่าลือกันว่า "กิ่วปู่หมื่น" ซึ่งคำว่า "กิ่ว" ภาษาเหนือหมายถึงเหว แต่บริเวณจุดดังกล่าวไม่ได้มีการตั้งศาล ชาวบ้านรู้กันดีว่าเป็นจุดสิงสถิตของปู่หมื่น ดังนั้นจึงเชื่อได้ว่าการที่นายบุญแปง เสียชีวิตจุดเดียวกันกับปู่หมื่น จึงมีลักษณะเป็นตัวตายตัวแทน

นอกจากนี้ก่อนที่นายบุญแปง จะหายตัวออกจากบ้าน ได้พูดประโยคที่คาดว่าเป็นคำสั่งเสีย "อีก 7 วันจะกลับออกมา" บอกลากับภรรยาอีกว่า "บ้านที่สร้างเอาไว้ให้อยู่อาศัย พี่คงไม่ได้อยู่ ขอให้สร้างบ้านให้เสร็จ" ซึ่งจากคำพูดเหล่านั้นถือว่าเป็นลางบอกเหตุ และคำสั่งเสียสุดท้ายก่อนที่จะจากไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส